เรื่องวุ่นๆ วัยรุ่นสองนาง รับจ้างเลี้ยงน้อง  

เรื่องวุ่น ๆ ของวัยรุ่นสองนาง รับจ้างเป็นพี่เลี้ยง เกริ่นหัวไว้อย่างนี้ หลายท่านอาจนึกได้ทันที ว่าหมายถึงใคร จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก หนูหวิ่นสร้อยสุวรรณา ผู้รับบทพี่เลี้ยงน้องเวหา แสนทรัพย์ลูกหล่าแม่ด้วนนั่นเอง
และสาวน้อยคู่กัน โตมาด้วยกัน คือหนูฟ้าใส ก็เป็นพี่เลี้ยงน้องกาวใจ ลูกสาวแม่บุษบา
ในขณะที่หนูหวิ่น สร้อยสุวรรณาเป็นพี่เลี้ยงน้องเวหาอยู่นั้น แม่คิ้วขาวได้มาขอหนูฟ้าใสไปอยู่ด้วยเพื่อรอเลี้ยงน้องที่จะเกิดใหม่ แม่ฟ้าใสจึงหายไปจากโขลงแม่บุษบา ไปอยู่กับแม่คิ้วขาวอยู่พักใหญ่ ก่อนจะกลับมารวมกันอีกครั้งตอนแม่คิ้วขาวให้กำเนิดลูกน้อย
จะพาท่านผู้ชมมาดูเรื่องวุ่นๆ ป่วนๆ ของสองพี่เลี้ยงกันสักหน่อย ย้อนไปวันที่ 24 เดือนกุมภาพันธ์ 2567 เราพบโขลงแม่ด้วนออกมาลงโป่งใกล้ชายป่าอยู่ไม่ห่างจากลานต้นมะม่วงข้างศูนย์วิจัยนัก
ในโขลงเราพบแม่ด้วน แม่บุษบา แม่หางทองพร้อมลูกพลายน้อย และแม่คิ้วขาว สิ่งที่สร้างความตื่นเต้นให้แก่เราคือช้างน้อยเกิดใหม่ซึ่งภายหลังก็รู้ว่าคือลูกแม่คิ้วขาว ซึ่งก็น่าจะเกิดมาหลายวันแล้วเพราะวิ่งกับพี่ๆเก่งแล้ว
แอดมินใช้เวลานั่งดูคลิปวันที่ 24 นี้หลายรอบมาก กล้องก็ตั้งค่าผิดไม่ได้เป็น 4k แต่ก็ได้เห็นอะไรบางอย่าง แม่คิ้วขาว ปล่อยลูกน้อยที่หูแหว่งอยู่กับหนูฟ้าใสและหนูหวิ่น ส่วนคุณแม่คิ้วขาว ก็ไปลงโป่งกับลูกสาวคนโต
เรื่องวุ่น ๆ จึงบังเกิด ไม่รู้เกิดอะไร หนูฟ้าใสและหนูหวิ่น จึงพาน้องวิ่งไป วิ่งมา รวมทั้งน้องเวหา ก็วิ่งกับพี่เขาด้วย ในวันนี้ ลูกแม่คิ้วขาวแผลฉีกขาดที่ใบหูยังมีเลือดไหล มาดูจังหวะวุ่น ๆ กัน ในคลิปเริ่มที่แม่ด้วนยืนอยู่ใต้ต้นไม้ มีลูกช้างเกิดใหม่ ๆ ซึ่งเป็นลูกแม่คิ้วขาวอยู่ข้างๆ มีหนูฟ้าใสซึ่งถูกแม่ด้วนบังดูแลอยู่ และหนูกาวใจก็อยู่กับพี่เลี้ยงฟ้าใสด้วย หนูหวิ่น พาเวหาไปวิ่งเล่นแล้วกลับมารวมกับฟ้าใส
สองพี่เลี้ยงพาน้องหูแหว่ง เวหา กาวใจและลูกสาวคนโตแม่คิ้วขาวเดินไปทางขวา แม่ด้วนยังคงนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่เคลื่อนไหว สองพี่เลี้ยงพาน้องเวหา และหลานหูแหว่งย้อนกลับมาทางซ้าย ยังเห็นว่าฟ้าในเอางวงจับหูหลานน้อยหูฉีกเป็นระยะๆ ส่วนกาวใจกลับเข้าไปหาแม่บุษบา
ลูกแม้คิ้วขาวไม่ตามมาด้วย สองพี่เลี้ยงพาเวหาและหนูน้อยหูแหว่งวิ่งเหมือนหนีอะไรมาลงโป่งที่กุญชรกินอยู่ จนต้องออกจากโป่งมาด้วยความงุนงง แม่นหยังว่ะ หรือจะมีหมีขาประจำอยู่แถวๆนั้น ทำให้พี่เลี้ยงตกใจพาหลานน้อยวิ่งกลับไปหาแม่ด้วน พร้อมร้องเตือนภัย แม่พังทั้งหลาย ต่างก็ดาหน้ามาล้อมลูกช้างเอาไว้ ส่งเสียงร้องลั่นป่า หมีหรือหมาในก็คงเผ่นป่าราบไปแล้ว ต่อให้เป็นเสือก็คงไม่กล้าตอแยก่อนเหตุการณ์จะสงบลง ตอนนี้แม่คิ้วขาววิ่งกลับมาหาลูกแล้ว คอยเอางวงจับหูลูกน้อยเป็นระยะๆ ส่วนกุญชร เป็นพลายขอบโป่ง ไม่ยุ่งอะไรด้วย จะป่วนอะไรก็ป่วนกันไป ก่อนโขลงจะพากันเดินออกจากโป่งข้ามถนนไปฝั่งตะวันออก โดยแม่คิ้วขาวและหนูฟ้าใสสลับกันจับใบหูน้องน้อยเป็นระยะ อาจเป็นการห้ามเลือดหรือรักษาตามวิธีของช้างป่า
ข้ามมาอีกฝากถนน ลูกแม่คิ้วขาวไปอยู่กับแม่แล้ว เรื่องวุ่น ๆ กลับมาเป็นเรื่องของหนูกาวใจ ที่งอแง เพราะแม่ไม่ยอมเข้าป่า เพราะยังไม่ได้กินดินโป่ง ทำเอาพี่เลี้ยงสองนาง หนูฟ้าใสและหนูหวิ่น รวมทั้งกุญชรด้วย ต้องมาคอยดูแลหนูกาวใจ มารับน้องเข้าป่า เพราะแม่บุษบาจะลงโป่ง กาวใจตามพี่ๆเข้าป่าไปแล้วแม่ก็ยังไม่ตามไป ก็ป่วนให้พี่ๆ มาตามแม่ให้อีก แต่พี่ๆ คงไม่กล้ากับผู้ใหญ่ ได้แต่ปลอบใจน้องแล้วพากลับเข้าป่า
ช้างพังในโขลงมีการช่วยเหลือกันและกัน ช่วยกันเลี้ยงลูก เลี้ยงหลาน คอยปกป้องคุ้มภัยให้กันเสมอ โดยเฉพาะสองสาวฟ้าใสและหนูหวิ่น สร้อยสุวรรณา เป็นตัวอย่างให้เราได้ติดตามพฤติกรรมช้าง การเป็นพี่เลี้ยง
ฟ้าใสและหนูหวิ่น ตัวพอๆกันดู ถ้าหันหลังมา ให้ดูหาง ถ้าหางงอคือหนูหวิ่น หางตรงคือฟ้าใส
แล้วเราก็พบว่า พี่เลี้ยงสองนางก็มาทำหน้าที่ร่วมกันอีกครั้ง คราวนี้ เป็นลูกแม่หูรูเล็ก มาปรากฏตัวในวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 งานพี่เลี้ยงเด็กน่าจะรายได้ดี แม่หูรูน่าจะรวย จ้างมาทั้งสองนางเลย
ขอบคุณที่ติดตามรับชมรับฟัง สวัสดีครับ