แตกตื่นทั้งวัด! ยายวัย 70 ตายแล้วฟื้นขณะญาตินำร่างเข้าเตาเผา 

ที่ จ.อุดรธานี มีคุณยายอายุ 70 ปี ตายแล้วฟื้น ญาติๆ ทั้งดีใจและตกใจ เหตุเกิดขึ้นขณะที่สามี พร้อมลูกหลานและญาติ เตรียมนำร่างผู้ตายเข้าเตาเผา เพื่อทำพิธีฌาปนกิจ
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 72 หมู่ 8 บ้านอ้อมแก้ว ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านที่จัดงานศพของคุณยายพินิจ โสภาจร อายุ 70 ปี ที่กลับฟื้นขึ้นมา ทั้งที่ญาติๆ กำลังจะนำศพทำพิธีฌาปนกิจอยู่แล้ว และได้นำกลับมาบ้าน พบกับลูกหลานและญาติๆ ที่มาร่วมงานศพของคุณยายพินิจ ต่างพากันดูแลคุณยายพินิจ หวังให้มีร่างกายที่อบอุ่น หลังจากได้นำร่างแช่ในโลงเย็นบรรจุศพมาเกือบ 3 วัน ขณะที่ญาติบางคนมาไกลจากต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ ต่างพากันจับกลุ่มคุยถึงเรื่องที่คุณยายพินิจตายแล้วฟื้นขึ้นมา
นางบุษบา โสภาจร อายุ 46 ปี ลูกสาวของคุณยายพินิจ เล่าเหตุการณ์เหลือเชื่อว่า แม่เสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งลูกหลานต่างช่วยกันจัดงานบำเพ็ญกุศลตามประเพณี และเมื่อวานนี้ (23 ต.ค.) เวลาประมาณ 13.00 น. ได้เคลื่อนศพแม่ออกจากบ้านไปยังวัดอัมพะวัน โดยมีพิธีการตามปกติเหมือนงานศพทั่วไป มีนายกเทศมนตรี ต.บ้านเชียง และญาติพี่น้องมาร่วมพิธี เมื่อถึงพิธีการขั้นสุดท้าย ก่อนจะนำร่างแม่เข้าเตาเผาที่เมรุ ทางพิธีกรได้ประกาศให้พ่อของตนมารดน้ำหอมหน้าศพ แต่ขณะที่พ่อกำลังรดน้ำหอม ปรากฏว่าแม่ลืมตาขึ้นมา ทำให้พ่อร้องดังลั่นวัด บอกว่าแม่ยังไม่ตาย แต่ญาติๆ และคนที่มาร่วมงานไม่เชื่อ คิดว่าพ่อบ้า จึงพาพ่อไปหลบข้างโบสถ์ ขณะที่น้องชายขึ้นมาเห็นแม่ลืมตาอีกคน จึงรีบนำร่างแม่ออกจากโลง และเรียกหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลหนองหาน มาช่วยปั๊มหัวใจแม่ ท่ามกลางความตกใจของผู้มาร่วมงาน ก่อนจะรีบนำร่างแม่ส่งโรงพยาบาลหนองหานทันที แต่เมื่อไปถึง แพทย์ที่โรงพยาบาลบอกว่า รับไว้รักษาไม่ได้ เนื่องจากเซลล์สมองของแม่ตายแล้ว ญาติจึงนำร่างแม่กลับมาไว้ที่บ้าน และช่วยกันทำให้ร่างกายแม่จากที่เย็นให้อบอุ่นขึ้น
ส่วนนายถวิล โสภาจร อายุ 73 ปี สามีของคุณยายพินิจ บอกทั้งที่ยังไม่หายตกใจว่า ภรรยาป่วยเป็นโรคคอพอกมาตั้งแต่เด็ก หลังจากอายุ 50 ปี คอก็เริ่มใหญ่ขึ้น ตนเองพาไปรักษาทั้งยาไทยและยานอก รักษาอยู่ 20 ปี อาการก็ทุเลามาเรื่อย แต่พอย้อนไปประมาณ 10 วันที่ผ่านมา ภรรยามีอาการเป็นไข้ มีเสมหะติดลำคอ หายใจไม่ปกติ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลหนองหาน เมื่อไปถึงหมอได้ใช้สายยางดูดเสมหะออก และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ภรรยาอยู่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีได้ 3-4 วัน หมอบอกว่า สมองบวม และต้องรักษาต่ออีก 3-4 วัน หลังจากนั้นอาการภรรยาก็ทรุดหนัก หมอถามว่าจะให้กระตุ้นหัวใจไหม ตนจึงได้ปรึกษากับลูกๆ ว่า ถ้าแม่ตายก็ให้มาตายอยู่บ้าน ทางโรงพยาบาลจึงมาส่งภรรยาที่บ้านประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 19 ตุลาคม ซึ่งหมอให้ยาไว้เข็มหนึ่ง บอกว่า ถ้าภรรยาทรมานให้ฉีดยา แต่ตนไม่ฉีด ถ้าภรรยาตายก็ขอให้ตายอย่างสงบ กระทั่งวันที่ 20 ตุลาคม เวลาประมาณ 01.00 น. ภรรยาก็จากไป
จากนั้นได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลมาตั้งแต่วันที่ 20-23 ตุลาคม ซึ่งทั้ง 3 วัน ร่างของภรรยาแช่อยู่ในโลงเย็น ตนเป็นคนสุดท้ายที่รดน้ำหอมให้ภรรยา และบอกกับภรรยาว่า ถ้าเกิดในชาติหน้าให้เกิดเป็นลูกมหาเศรษฐี อย่าให้ทุกข์ยากแบบนี้ พอรดน้ำหอมได้ทีเดียว เห็นภรรยาลืมตาขึ้นมา ตนทั้งดีใจและตกใจ บอกกับลูกและญาติๆ ที่มาร่วมงานว่า แม่ลืมตาแล้ว และตนก็ได้โอบกอดภรรยา แต่ลูกๆ มาดึงตนไปไว้ข้างโบสถ์ เพราะนึกว่าตนบ้า แต่ตนไม่ได้บ้า แล้วลูกชายก็ขึ้นมาเห็นแม่เขาลืมตาจริง จึงรีบแจ้งหน่วยกู้ชีพเทศบาลฯ มาช่วยปั๊มหัวใจทันที ตนดีใจมาก คิดว่าภรรยาไม่ตายอยู่แล้ว เพราะอยู่ในโลงเย็นมา 3 วัน ร่างไม่แข็ง แต่ตอนนี้หมอไม่รับ บอกว่าสมองตายแล้ว แต่ตนเองยืนยันว่าจะไม่ยอมเผาภรรยาแน่นอน จะรอจนกว่าภรรยาร่างแข็งถึงจะเผา แต่หากฟื้นกลับมาเป็นปกติ ก็จะทำบุญครั้งใหญ่ให้เต็มที่
คลิกชม ► tna.mcot.net/view/5db0fe5de3f...
-----------------------
✮ชมวิดีโอรอบทิศทาง 360VR ► bit.ly/tna360vr
✮สมัครรับข้อมูลฟรี! Subscribe ► / tnamcot
✮ชมทุกตอน "ชัวร์ก่อนแชร์" ►goo.gl/zmgfeG
✮ข่าวดังข้ามเวลา ► goo.gl/rKcCQq
✮สกู๊ปพิเศษ ► goo.gl/Yw0ZIw
✮เห็นแล้วอึ้ง ► goo.gl/zFvXUA
✮เกษตรทำเงิน ► goo.gl/zF5aWu
✮เกษตรสร้างชาติ ► goo.gl/iSr814
✮ภาพมุมมองใหม่ | ท่องเที่ยววิถีไทยเก๋ไก๋สไตล์ลึกซึ้ง ► goo.gl/Z9DVHZ
------------------------------------
ติดตาม สำนักข่าวไทย อสมท (ช่อง 9MCOT HD หมายเลข 30 | Thai News Agency MCOT
► เว็บ www.tnamcot.com
► เฟซบุ๊ก / tnamcot
► แอดไลน์ (LINE) @TNAMCOT หรือคลิก line.me/ti/p/%40tnamcot
► ทวิตเตอร์ / tnamcot
► อินสตาแกรม / tnamcot
► ยูทูบ / tnamcot
► ชมข่าวย้อนหลัง / tnamcot