โม้เรื่องรถ ep.58 : ทำพอร์ทเรียบเงา กับขรุขระ แบบไหนดี 

ผมก็เห็นฝา Moto gp เเล้วเหมือนกันเลย ผิวเรียบเงา

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

ลืม บอก อีก เรื่อง ช่องพอร์ท แบบ ผิวลูกกอล์ฟ เห็น ฝรั่ง เอา ฝา สูบ รถ ยนต์ ๔ ช่องพอร์ท ขัด ผิว ต่างกัน อยู่ ครับ มาทดสอบอยู่ ครับ ช่องที่ อากาศ ไหล ได้ดี คือ ช่อง ผิวลูกกอล์ฟ ครับ #แต่รมที่เขาใช้ ทดสอบ แรง พอกับ พวก เครื่องเทอร์โบ เลย

ถ้านมหนูน้ำมันใหญ่. ทำให้จ่ายน้ำมันมาก มันเลยมีน้ำเกาะรอบๆคาบูเพราะน้ำมันจ่ายเยอะ. และถ้ารถสมบูรณ์ก็จะเห็นไอน้ำเกาะรอบๆคาบูเช่นกัน. น้ำมันทำให้คาบูเย็น และความร้อนจากเครื่องจะไม่ขึ้นมาทำลายคาบู

เอาลูกกอล์ฟมาเทียบกับอากาศในท่อไอดีไม่ได้ ลูกกอล์ฟมันเป็นวัตถุที่ต้องลอยตัวอยู่บนอากาศ เลยต้องทำแบบนั้น แต่ที่พูดถึงคือ ท่อไอดี มันเป็นทางวิ่งของอากาศ ผิวมันแทบจะไม่มีผลอะไรมากมายเลยถึงจะเงาหรือขรุขนระ น้ำมันไม่มีทางเป็นหยด เพราะฉีดแต่ละครั้งมันไม่ถึง1มิลลิลิตรด้วยซ้ำ ฉีดปุ๊บก็ผสมอากาศ คาร์บูก็เหมือนกัน พอเจอแวคคั่มขึ้นน้ำมันก็เป็นฝอยรวมกับอากาศไม่ต่างจากหัวฉีดเลย สิ่งสำคัญช่องพอร์ตคือความโค้ง ความตรง การหักมุม รอยต่อ ว่าตรงไหนต้องโค้งเท่าไรต้องหักมุมต้องมีฝั่งโปร่งตรงข้ามฝั่งหักมุม ต้องมีฝั่งอ้วนไว้รีดลม ต้องอาศัยอากาศพลศาสตร์ ไม่ใช่ขัดๆไปเรื่อยหรือเข้าใจไปว่าแบบนั้นดีนี้ดี มันต้องไปเทสกับลมควัน airflow ถึงจะรู้ ช่องนี้ให้ข้อมูลผิดๆเยอะหรือเขาอาจจะไม่รู้ไปหาอ่านคนที่ให้ข้อมูลผิดๆมาเลยเอามาบอกต่ออะไรแบบนั้นไม่อาศัยตำราหรือวิชาการ ผมก็ไม่รู้ว่าเขารู้เรื่องเข้าใจเรื่องรถจริงๆหรือเปล่า หรือแค่มาทำเพื่อหารายได้เฉยๆ

ขอข้อมูลด้วยครับ อย่ามั่ว

แต่ทำไมพวกรถแข่ง 402 เมืองนอกนิยมผิวเวฟกันครับเป็นแบบคลื่น ผมเห็นรถ Honda NA แรงๆใช้ผิวเวฟกันหมด

ที่ถามนั้นวิศวะอะไรคับ เครื่องกลหรือป่าว ขนาดพอตเดิมมาจากโรงงานยังไม่เห็นจะแต่งเพิ่ม แล้วทำผิวลูกกอล์ฟมาคิดว่าเค้าจะมานั่งแต่งเพิ่มทำไม

ใช้ครับ ผมก็ทดลองแล้ว ตามสูตรนี่เลย ไอดีหลุมกอฟ ไอเสียแต่งเรียบ ทำรอบมาดีมากไม่กินน้ำมันเพิมด้วย

Abs ปกติจะมีกล่องควบคุมครับ บางรุ่นใช้กล่องแมน บางรุ่นเป็นกล่องabs แยก ยุ่งยากมากครับ

@@forfuntechnic ผมซื้อมาครบชุดเลยของCBR250Rครับ

ถูกครับ มันคือ กลศาสตร์ของใหล. มันไม่ไช่อากาศพลศาสตร์ มันคนละเรื่องกันเลย

Akareskaewdee Hjkfdtuibfrtgvhf ดีในระดับธรรมดา แต่ไม่ได้ดีที่สุด เพราะมีราคาคู่แข่งเป็นตัวกำหนด

ถ้าไม่มาก พอกเอาพอได้ครับ ถ้ามากเกิน คงต้องเปลี่ยนฝาครับ

Dv Bj ขอตอบแทนนะครับ แคมคือหัวใจหลักในการดูดและคายไอดีไอเสียเลยครับ กำหนดได้ทั้ง ปริมาณ​อากาศ​ที่เข้าออก(ระยะยก)​ ระยะเวลาในการดูดและคาย(องศาแคม)​ ระยะเวลาการเปิดเหลื่อมกันของไอดีไอเสีย(องศาโอเวอร์แล็ป)​ ที่นึกออกก็ประมาณนี้ และแคมนี่เป็นตัวกำหนดย่านกำลังสูงสุดของรถเลยครับ(ถ้าตัดเรื่องส่วนประจุไอดีไอเสียส่วนอื่นๆออกเพราะมีผลน้อยกว่าแคมมากๆ)​ ตอบคำถามที่2 ถ้าแคมที่มีระยะยกมากๆมีโอกาสชนหัวลูกมั้ย ตอบเลยมีแน่นอนครับ เค้าถึงต้องกลึงลูกหลบวาล์วกันไง และถ้ายกสูงมากๆ แม้กลึงลูกหลบวาล์วแล้วในรอบต่ำอาจพ้น แต่พอรอบสูงสปิงวาล์วดันวาล์วปิดไม่ทัน(เพราะยกสูงเกิน)​ วาล์วลอย มันก็จะไปโขกที่รอบสูงอยู่ดี(ส่วนใหญ่ถ้าเจอปัญหานี้ เปลี่ยนสปริงวาล์วก็หาย)​

ขอบคุณมากครับ

@ถึงจ่ะเก่า แต่! เก๋าเว้ย ต้องเอาไปหลดวาลว์เพิ่มไช้ไหมครับ

ใช่ครับเค้าเอาไปเข้าเครื่องโฟอากาสผิวลูกกอฟโฟอากาสได้ดีกว่าคับ

ยังไงเเบบเรียบก็ดีกว่า

เหมือนถังอากาศสำรองครับ สำหรับรถที่มีท่ออากาศยาวๆ จะช่วยให้รอบต้นดีขึ้น เพราะ 2 จังหวะ เป็นรถที่ดูดอากาศเร็ว แต่ระยะเวลาในการดูดอากาศน้อย ถ้าต่อท่ออากาศยาวๆ ในรอบต่ำ มันจะเกิดสุญญากาศในท่อไอดี ทำให้ในรอบต่ำ อากาศจะไหลเข้าได้น้อย เมื่อจังหวะดูด หากเกิดสุญญากาศในท่อไอดี ไอดีที่อยู่ในปอดจะมีแรงดันสูงกว่า ทำให้อากาศในปอด ไหลมาในท่อไอดีจนค่าแรงดันอากาศเท่ากัน เป็นการช่วยเพิ่มอากาศ และในจังหวะเลิกดูดอากาศ อากาศจะไหลผ่านลิ้นปีกผีเสื้อ หรือลูกเร่งเข้ามาในท่อไอดี ทำให้ท่อไอดีมีแรงดันสูง อากาศก็จะไหลเข้าไปในปอดจนเกิดแรงดันที่เท่ากัน หากเราถอดปอดออกแล้วเอาของมาอุดใว้ จะพบว่า ในรอบต้นๆ การบิดเพื่อสร้างรอบ จะเกิดการหน่วงจนรู้สึกได้ (เพื่อนผมทำรถแรง เคยเจอปัญหานี้) แต่ในรอบสูงๆ อากาศจะไหลตลอดเวลา ทำให้เกิดสุญญากาศน้อยกว่าในรอบต่ำ จึงเป็นที่มาว่า ปอด ช่วยในการต้นๆ

@@artchanal7218 ค่าบบ

ไม่ได้ทำไว้ครับ

รูพอตCNCใช่ป่าวคับผิวเวฟเนี่ย

ชุติวัต แก้วมณี ใช่ครับผม

Kate K. Datrath แรงเสียดทานน่าจะเพิ่มนะครับถ้าท่อเป็นหลุม อากาศที่ใหลผ่านชิ้นส่วนต่างๆ ในระบบไอดี มันจะใหลไปตามรูบร่างของวัสดุนั้น ซึ่งถ้ามันใหลผ่าน ที่ที่เป็นหลุม อากาศหรือไอดีนะจุดนี้ มันจะมีความเร็ว มากกว่าจุดที่เคลื่อนที่เป็นเส้นตรง ทำให้ความดัน (ตามกฎการอนุรักพลังงาน)บริเวนหลุมมีความดันต่ำ ส่งผลให้ความหนาแน่นของไอดีน้อย กว่าบริเวนกลางท่อ ส่งผลให้ความดัน โดยรวมที่บ่าวาล์วลดลง เมื่อความดันลด การใหลเข้ากระบอกสูบก็ช้า ส่วนแรงเสียดทานนั้นขึ้นอยู่กับความเร็ว ของไอดี กับค่าสัมประสิทของชิ้นส่วนที่อากาศหรือไอดีเคลือนตัวผ่าน ค่าสัมประสิทจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับมุมของชิ้นส่วนนั้นประทะกับการใหลของอากาศ

@@barbe.q8445 terburance layer จะไม่ได้เหมาะสมกับทุกสภาพคับ ถ้าอากาศไหลช้าก็เป็นอย่างที่คุณเข้าใจคับ

Kate K. Datrath จริงอยู่ครับการใหลในท่อไอดี มันใหลแบบ terburance (ปั่นป่วน)แต่การ พิจารณา การใหล จะพิจารณาการใหลแบบคงตัว ถ้าเป็นแบบที่คุณว่า ทำไมปีก เครื่องบิน ถึงไม่ขลุขละ เป็นหลัมเป็นบ่อล่ะ? ทั้งที่มันก็ใหลแบบ terburance ที่ปีกมันเรียบเพราะมันต้องการลดแรงเสียดทานไม่ไช่หรือ !

@@barbe.q8445 ru-vid.com/video/%D0%B2%D0%B8%D0%B4%D0%B5%D0%BE-fcjaxC-e8oY.html

Kate K. Datrath ทฤษฎีลูกกล๊อฟ มันคนละเรื่องกับการใหล ในท่อไอดีนะครับ ตามที่เจ้าของคลิปว่า ซึ่งในคลิปที่คุณส่งให้ดู ก็เห็นอยุ่นี่ว่า จุดที่เป็นหลุม อากาศบริเวนนั้นมันปั่นป่วน ซึ่งจุดที่ปั่นป่วนความดันมันจะต่ำลง ทำให้เกิด vacuum นบริเวณพื้นผิว ทำให้การใหลที่ท้ายลูกกล๊อฟมีพื้นที่ที่เป็น vacuumด้านหลังลดลง ซึ่งมันตรงข้ามกับการใหลในท่อไอดดี ถ้าณจุดที่เป็นหลุมมันใหลปั่นป่วน จุดนั้นความดันก็จะต่ำลง เมื่อความเันต่ำความหนาแน่นของอากาศก็น้อยลง เมื่อความหนาแน่นน้อยลง การประจุก็น้อยลง การใหลของของใหลในท่อมันจะเกิดการสูญเสียความดันเสมอจากแรงต้านการใหลของระบบ ซึ่งแรงต้านที่เกิดขึ้นก็เกิดจากพื้นที่ผิวไม่เรียบ พื้นที่ผิวไม่เรียบ ค่าสัมประสิทเสียดทานก็เพิ่ม

น่าเซาะร่องเกลียวดูเหมือนกัน

art chanal ผมว่าอะธิบายไม่ถูกตั้งแต่ข้อ1ถึงข้อ3เลยครับ ถ้าเรียนเรื่องของใหลมา มันจะไม่ไช่แบบที่คุณอธิบายเลย การเคลือนที่ของวัถถุที่เป็นก้อน กับการเคลื่อนที่ของของใหลมันไม่เหมือนกันนะครับ ของใหลในท่อมันจะเคลื่อนที่ไปตามขนาดและรูปร่างของท่อหรือชิ้นส่วนที่อยู่ภายในท่อ ซึ่งอาจขลุขระ ซึ่งในจุดที่มันขนุขระมันทำให้ของใหลณ.จุดนั้น เคลื่อนที่เร็ว ขึ้น หรือช้าลง ตามแต่จุดที่ของใหล เคลื่อนผ่าน มันทำให้เกิดการ ปั่นป่วน ของการใหล ทำให้ ความดันของระบบลดลง ส่งผลให้ อตราการใหลลดลง

แสดงว่า อ่านข้อ 2 ไม่เข้าใจ ผมหมายถึง วัตถุที่มีพื้นเรียบ ทั้ง 2 แต่มีอันหนึ่งที่เป็นหลุม อาจจะเกิดจากการใช้สหว่านเจาะหลายๆหลุม แต่หน้าสัมผัสที่ไม่ได้เจาะ ยังเรียบเหมือนเดิม และที่บอกว่า เกิดการปั่นป่วนของการไหล แน่นอนครับ หากไหลด้วยความเร็วที่ช้า อาจจะเกิดอากาศวนในหลุมได้ แล้วถ้ามันไหลด้วยความเร็วสูงละ มันจะยังเกิดเหตุการณ์แบบนั้นอยู่ไหม เอาง่ายๆเลย เคยเป่าปากขวดให้เกิดเสียงไหม? เป่าโดยให้ขวดทำมุมกับทิศทางลมที่เราเป่าประมาณ 90 องศา หากเป็นขวดที่ใหญ่ ต้องเป่าให้มีลมออกจากปากมากๆ เพื่อให้เกิดอากาศวนเพื่อให้อากาศที่วนออกมาจากขวดกระทบกับอากาศที่เราเป่าเข้าไป แล้วจะเกิดเสียง แต่ถ้าเป็นขวดที่มีความจุน้อยๆ ปากขวดเล็ก เราเป่าเบาๆก็จะเกิดเสียง แต่ถ้าเป่าแรงขึ้นเรื่อยๆ จะพบว่า หากถึงความเร็วที่อากาศที่เราเป่า สามารถบีบอากาศในขวดไม่ให้ไหลออกมาได้ ก็จะไม่เกิดการวนของอากาศ แล้วก็จะไม่มีเสียง เพราะอากาศที่เราเป่า จะไหลผ่านพื้นอากาศที่ปากขวด ที่ผมกำลังอธิบาย ไม่ใช้พื้นผิวที่ขรุขระ แต่เป็นพื้นผิวเรียบ ที่มีการเจาะรูเล็กๆหลายๆรู หลักการณ์นี้ พบเจอได้ทั่วไปครับ ที่เห็นได้ง่ายๆเลย คือท่อรถมอไซค์ที่เขาใส่ใส้ที่เจาะรูนั่นแหละครับ หากเป็นท่อโล่งๆ อากาศจะไหลได้ดีและเกิดเสียงดัง แต่ถ้าเราใส่ท่อที่เจาะรูตรงปลายท่อแล้วหุ้มด้วยใยแก้ว ในรอบต่ำ อากาศมีแรงดันต่ำ จะเกิดอาการที่คุณบอกผม แต่พอเราเร่งเครื่อง อากาศจะมีปริมาณมาก และความเร็วที่มาก ทำให้มวลอากาศที่อยู่ในห้องใยแก้ว เกิดแรงดันสูง จนอากาศไม่สามารถไหลเข้ารูได้อีก ทำให้รูเหล่านั้นเกิดเป็นผนังอากาศ อากาศก็จะเหมือนไหลผ่านท่อโล่งๆ จึงเกิดเสียงดัง หรือที่เขาเรียกกันว่าท่อ 2 เสียง อาจจะดูเยอะๆไปหน่อย แต่แรงที่เกิดในท่อไอดี มันมีมากกว่าการไหลของอากาศ ถ้าให้อธิบาย คงจะยาว หวังว่าพอจะมองภาพออกนะครับ

art chanal ครับ

ได้ความรู้จากทั้งสองท่านมากๆครับ สุดยอด✌

art chanal แล้ว แบบไหนดีกว่า ตอบมาเลย ที่พอดี

แล้วทำไมถึงวัดโพรอากาศได้ดีกว่าละ

การใหลในท่อ ไม่ไช่อากาศพลศาสตร์ครับ มันคือ กลศาสตร์ของใหล. ถ้ามาศึกษาจริงๆ มันคำนวณต่างกันครับ ไม่ว่าจะอากาศเคลื่อนที่ผ่านวัตถุหรือวัดถุเคลื่อนที่ผ่านอากาศมันมีค่าเหมือนกัน มันไม่สนใจว่าจะเป็นอะไรเคลื่อนผ่านอะไร. แต่มันสนใจความเร็วของการเคลื่อนผ่าน. กับรูปร่างของสิ่งที่มันเคลื่อนผ่าน

เมื่อก่อนไม่ทำ. แต่ตอนนี้เริ่มนิยมแล้วครับ

เทสอากาศ ลมหมุน เครื่องมือพวกนี้คนธรรมดาคงหมดหวังแพงอยู่

รอรอบ วอด รอบต่ำไม่มีแรงครับ ถ้าใหญ่มากๆ ไม่มีแรงทุกรอบครับ

ถ้าลูกใหญ่แต่วาวเดิม สามารถแยงพรอทให้ใหญ่แทนที่จะทำวาวใหญ่ได้มั้ยครับ หรือว่ายังใงก็ดูดไม่พอ คายไม่ทันอยู่ดี

Wonsakorn Bawonsup ผมว่าไม่น่าได้นะรรับ เพราะวาวล์เดิม ลูกใหญ่ขึ้น รอบทำงานมันจะมาที่รอบต่ำลง ตามระยะเวลาการประจุไอดี ที่ขนาดซีซีที่มากขึ้น ถ้าลากรอบไปที่รอบทำงานเดิม รถก็จะไม่มีกำลัง เพราะอากาศเข้ามาในปริมานซีซีเดิม ตามขนาดใบวาวล์ ถ้าจะให้ทำงานในรอบทำงานเดิมต้องขยายไบวาวล์ หรือไม่ก็ เพิ่มองศาแคมครับ ขนาดใบวาวล์ ของรถ2 วาวล์ควรจะเป็น 51 %ของ ลูกสูบครับ

ได้คับ แต่ลูกสูบห้ามใหญ่เกินวาวเดิม. ประมาน3-4มิล. (อ้างอิงจากค่ามาตรฐาน) ส่วนเรื่องลูกก๊อฟในคลิปนี้ ในเฟส อาจารย์มด มดคันไฟ ได้โพสให้ความรู้ไปเมื่อเดือนที่แล้วนี้เอง

@@user-yi5ez4mn5o แยงพอทใหญ่ไม่ทำให้แรงน่ะคับมันควรควบคู่ไปกับวาวจะดีกว่าน้ะ

หมายถึงละอองที่ไปเกาะผนังมันจะรวมตัวกันนะ แบบไอน้ำเกาะกระจกอ่ะ

ไม่ครับจะเงาไม่เงา มันจะเกาะก็เกาะเหมือนเดิม ตามหลัก การกลันตัวของน้ำมันกับวัสดุทั่วๆไปนะครับ แต่นี่ของมันอยู่ รถเจอแรงดูดอากาศ เข้าไปแตกเป็นฝอยเช่นเดิม

พื้นผิวและอุณหภูมิของวัสดุมีผลกับการรวมตัวของของเหลวสิครับ อย่างน้ำบนใบบัวไรงี้

@@33undertt ผมว่าคุณน่าจะเข้าใจผิดไปเรืองแรงตึงผิวแล้ว ใบบัวมันเป็นขนเส้นเล๊กๆจำนวนมาก น้ำไม่สามารผ่านซึมไปได้เพราะแรงตึงผิว ลองไปศึกษากฏฟิสิกดูใหม่นะครับ อย่าเอาแต่ฟังเค้าว่า แบบนั่นเค้าว่าแบบนี่ เค้าว่าเนียไครก็ไม่รู้ รู้จริงไม่จริงก็ไม่รู้ แต่ถ้ามันขัดกับกฏฟิสิกก็ฟังหูไว้หูดีกว่าเรามาตรวจสอบกันเอา

เอาแค่ไม่ได้เรียกว่าการกลั่นตัวก่อนไหมครับ ไม่ต้องไปศึกษาให้วุ่นวาย เอาน้ำใส่ป๊อกกี้ฉีดเทียบกันก็เห็นแล้ว แล้วก็แรงดูดอากาศทำให้น้ำมันเป็นฝอยได้ด้วย?? เคยดูโฆษณาน้ำยาเคลือบกระจกไหม มันไหลได้ดีกว่าแต่มันไหลเป็นก้อนน่ะ