31 คนดังระดับโลกที่นับถือศาสนาพุทธ 31 celebrity buddhists 

خَـٰلِدِينَ فِيهَا ۖ لَا يُخَفَّفُ عَنْهُمُ ٱلْعَذَابُ وَلَا هُمْ يُنظَرُونَ ١٦٢ เรียน ชาวพุทธ ควรทราบ 1อัลเลาะห์คือพระผู้เป็นเจ้า 2ใครไม่เชื่ออัลเลาะห์ต้องอยู่ในนรก 3ต้องอดกามอยู่ในนรกตลอดกาล 4ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดเป็นสัตว์ 5ไม่มีการเกิดใหม่เป็นคนเพื่อแก้ตัว 6โลกถูกทำลายก่อนวันพิพากษา​ความผิด 7ใครจะมาเกิดใหม่ได้หลังดาวโลกไม่มี 8อิสลามคือความหวังและความสุข 9พุทธคือความเศร้าไร้อนาคต​ 10บุญ​ไม่ได้ทำให้มีความสุข​เสมอไป 11บุญใหญ่​ที่ทำให้ตนเองต้องตายก็มี 12พุทธยโสดูถูกศาสนา​พราหมณ์​ 13นิพพานเป็นเรื่องกุของกระเทยสิทธัตถะ 14เกิดปุ๊บเดินได้7ก้าวเป็นเรื่องหลอกคนโง่ 15ชาวพุทธ​ทั้งโง่ทั้งเหี้ยศาสนา​วิปริต​ 15แค่ข่มใจไม่แดกหมูพวกมึงยังทำไม่ได้​ 16มีหรือจะข่มใจได้ไม่ตีกระหรี่ 17แต่พวกมันเย่อหยิ่ง​คิดว่าตนเองฉลาด 18พวกมึงอ้างปัญญา​ปฏิเสธ​อัลเลาะห์ 19แล้วคิดว่า​พวกมึงจะฉลาดหรือ? 20การอดกามเป็นแค่การเบื่อกาม 21การเบื่อกามไม่ได้ทำให้ใครสูงส่ง 22สิทธัตถะเป็นผู้​ปฏิเสธ​ศรัทธา 23มันอยู่ในฐานะ​เดียวกัน​กับดัจญาล 23ธรรมะมันทั้งยกเมฆ​ทั้งย้อนแย้ง 24นิพพานที่ไกลกว่าสวรรค์เป็นเรื่องตอแหล 25ไม่เคยเห็นสิทธัตถะแล้วทำไมต้องเชื่อมัน? 26สิทธัตถะเป็นผู้ป่วยจิตเวชขั้นรุนแรง​ 27มันคิดว่าตัวมันคือผู้วิเศษ​ดีเลิศ​ประเสริฐ​สุด​ 28มันไม่ได้​กินยาจึงทิ้งลูกเมียหนีเตลิด 29มันขาดความรับผืดชอบต่อครอบครัว 30ใครที่ละหมาดครบ๕เวลาจะได้เข้าสวรรค์ 31ชาวสวรรค์จะได้เสพกามมีความสุข 21ชาวสวรรค์อยู่สวรรค์​ไม่มีหมดบุญ 22ไม่ต้องไปเวียนว่ายตายเกิดใหม่ 23ตัวท่านแก่ทุกวันวันหนึ่งจะต้องตาย 24ตายแล้วสมองเน่าปัญญาจะช่วยได้ไหม? 15การรับโทษในนรกทรมานกว่าการละหมาด 14พวกท่านพร้อมกับพระพุทธรูปเป็นเชื้อไฟนรก 15ควรศึกษาสิ่งเร้นลับที่อัลเลาะห์เปิดเผย 16อาหารสวรรค์​อร่อยกว่าเนื้อสุกร 17อัลเลาะห์ไม่ได้กลัวเนื้อหมู 18สิทธัตถะ​แดกเนื้อหมูตัวตืดขี้รั่วตาย 19แก๊งคอลเซนเตอร์​มีแต่ชาวพุทธ 20ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว 21ความเท็จมีมากมายนับไม่ถ้วน 22ไม่ใช่​ทุกศาสนาจะสอนให้คนเป็นคนดี 20ทั่วโลกมีมุสลิมมากกว่าชาวพุทธ 21ในสายตาชาวโลก, พุทธคือศาสนาหลอกแดก 22อัลเลาะห์ไม่ใช่เรื่ิองแต่งแต่เป็นความจริง 23การฆ่าคนด้วยความอธรรมเป็นบาป 24ความชั่วต่างๆ99%ชาวพุทธเป็นผู้กระทำ 25มุสลิม​อาจให้ฯ​แต่นรกไม่ให้เกียรติ​พวก​มึง​ 25ห้ามสบประมาท​อัลเลาะห์, 26ใครฝ่าฝืนขอให้ถูกรถทับสมองเละ 27ชาวพุทธหัวเราะเยาะอิสลามได้แค่โลกนี้ 28โลกหน้าพวกมันต้องได้พบความสยอง 27ใครกลับ​ใจเชื่ออัลเลาะห์ขอให้ได้เข้าสวรรค์ 28มุสลิมที่ไม่เชื่ออัลเลาะห์ขอให้ไปนรก 28ชาวสวรรค์​บางท่านจะได้เห็นอั​ลเลาะห์ 29คำว่า,รักชาติรักแผ่นดิน,นั้นไม่มีความหมาย 30เมื่ออยู่โลกหน้าแล้ว,ตัวเราก็ไม่มีชาติให้ต้องรัก 31สิ่งที่ต้องสนใจมากกว่ารักชาติรักแผ่นดิน 32คือ,กูจะได้ไปสวรรค์​หรือนรก 33แล้วกูต้องอยู่ที่นั่นตลอดกาล

เท่าที่รู้พวกเขาส่วนมากนับถือพุทธแบบทิเบต นับถือองค์ดาไลลามะ และเน้นการนั่งสมาธิ

خَـٰلِدِينَ فِيهَا ۖ لَا يُخَفَّفُ عَنْهُمُ ٱلْعَذَابُ وَلَا هُمْ يُنظَرُونَ ١٦٢ เรียน ชาวพุทธ ควรทราบ 1อัลเลาะห์คือพระผู้เป็นเจ้า 2ใครไม่เชื่ออัลเลาะห์ต้องอยู่ในนรก 3ต้องอดกามอยู่ในนรกตลอดกาล 4ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดเป็นสัตว์ 5ไม่มีการเกิดใหม่เป็นคนเพื่อแก้ตัว 6โลกถูกทำลายก่อนวันพิพากษา​ความผิด 7ใครจะมาเกิดใหม่ได้หลังดาวโลกไม่มี 8อิสลามคือความหวังและความสุข 9พุทธคือความเศร้าไร้อนาคต​ 10บุญ​ไม่ได้ทำให้มีความสุข​เสมอไป 11บุญใหญ่​ที่ทำให้ตนเองต้องตายก็มี 12พุทธยโสดูถูกศาสนา​พราหมณ์​ 13นิพพานเป็นเรื่องกุของกระเทยสิทธัตถะ 14เกิดปุ๊บเดินได้7ก้าวเป็นเรื่องหลอกคนโง่ 15ชาวพุทธ​ทั้งโง่ทั้งเหี้ยศาสนา​วิปริต​ 15แค่ข่มใจไม่แดกหมูพวกมึงยังทำไม่ได้​ 16มีหรือจะข่มใจได้ไม่ตีกระหรี่ 17แต่พวกมันเย่อหยิ่ง​คิดว่าตนเองฉลาด 18พวกมึงอ้างปัญญา​ปฏิเสธ​อัลเลาะห์ 19แล้วคิดว่า​พวกมึงจะฉลาดหรือ? 20การอดกามเป็นแค่การเบื่อกาม 21การเบื่อกามไม่ได้ทำให้ใครสูงส่ง 22สิทธัตถะเป็นผู้​ปฏิเสธ​ศรัทธา 23มันอยู่ในฐานะ​เดียวกัน​กับดัจญาล 23ธรรมะมันทั้งยกเมฆ​ทั้งย้อนแย้ง 24นิพพานที่ไกลกว่าสวรรค์เป็นเรื่องตอแหล 25ไม่เคยเห็นสิทธัตถะแล้วทำไมต้องเชื่อมัน? 26สิทธัตถะเป็นผู้ป่วยจิตเวชขั้นรุนแรง​ 27มันคิดว่าตัวมันคือผู้วิเศษ​ดีเลิศ​ประเสริฐ​สุด​ 28มันไม่ได้​กินยาจึงทิ้งลูกเมียหนีเตลิด 29มันขาดความรับผืดชอบต่อครอบครัว 30ใครที่ละหมาดครบ๕เวลาจะได้เข้าสวรรค์ 31ชาวสวรรค์จะได้เสพกามมีความสุข 21ชาวสวรรค์อยู่สวรรค์​ไม่มีหมดบุญ 22ไม่ต้องไปเวียนว่ายตายเกิดใหม่ 23ตัวท่านแก่ทุกวันวันหนึ่งจะต้องตาย 24ตายแล้วสมองเน่าปัญญาจะช่วยได้ไหม? 15การรับโทษในนรกทรมานกว่าการละหมาด 14พวกท่านพร้อมกับพระพุทธรูปเป็นเชื้อไฟนรก 15ควรศึกษาสิ่งเร้นลับที่อัลเลาะห์เปิดเผย 16อาหารสวรรค์​อร่อยกว่าเนื้อสุกร 17อัลเลาะห์ไม่ได้กลัวเนื้อหมู 18สิทธัตถะ​แดกเนื้อหมูตัวตืดขี้รั่วตาย 19แก๊งคอลเซนเตอร์​มีแต่ชาวพุทธ 20ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว 21ความเท็จมีมากมายนับไม่ถ้วน 22ไม่ใช่​ทุกศาสนาจะสอนให้คนเป็นคนดี 20ทั่วโลกมีมุสลิมมากกว่าชาวพุทธ 21ในสายตาชาวโลก, พุทธคือศาสนาหลอกแดก 22อัลเลาะห์ไม่ใช่เรื่ิองแต่งแต่เป็นความจริง 23การฆ่าคนด้วยความอธรรมเป็นบาป 24ความชั่วต่างๆ99%ชาวพุทธเป็นผู้กระทำ 25มุสลิม​อาจให้ฯ​แต่นรกไม่ให้เกียรติ​พวก​มึง​ 25ห้ามสบประมาท​อัลเลาะห์, 26ใครฝ่าฝืนขอให้ถูกรถทับสมองเละ 27ชาวพุทธหัวเราะเยาะอิสลามได้แค่โลกนี้ 28โลกหน้าพวกมันต้องได้พบความสยอง 27ใครกลับ​ใจเชื่ออัลเลาะห์ขอให้ได้เข้าสวรรค์ 28มุสลิมที่ไม่เชื่ออัลเลาะห์ขอให้ไปนรก 28ชาวสวรรค์​บางท่านจะได้เห็นอั​ลเลาะห์ 29คำว่า,รักชาติรักแผ่นดิน,นั้นไม่มีความหมาย 30เมื่ออยู่โลกหน้าแล้ว,ตัวเราก็ไม่มีชาติให้ต้องรัก 31สิ่งที่ต้องสนใจมากกว่ารักชาติรักแผ่นดิน 32คือ,กูจะได้ไปสวรรค์​หรือนรก 33แล้วกูต้องอยู่ที่นั่นตลอดกาล

ไทยอะเมืองพุทธ แต่ไม่ใช่เมืองแห่งพุทธศาสนา คนไทยนับถือศาสนาวาไรตี้ พุทธ พราหมณ์ ฮินดู ปนกันไปหมด

@@seanbhu858 หมายถึงส่วนใหญ่ครับ พุทธ เครน่ะ

้กรี่อยู่ไหน

@@user-mo9fz9qz7l ปัตตานี

@@user-hg6rx6sh8v ไม่จริง

ไม่ลึกซึ้งเลย เลียนแบบมาจาก พวก นาคา สาธุ หาแดกโดยการขายพระ ยกหางพวกกันเองว่าเป้นจอมอภินิหาร อย่าลืมว่าศาสนาพุทธ คิดค้นขึ้นมาจากคนอินเดีย ที่เจ้าเล่ห์ที่สุดในโลก ศาสนาพุทธมีประโยชน์กับเจ้ากับทหารจปร มากกว่าประชาชน เพราะมันอวยเจ้า ยกหางเจ้า และทหารจปร คนไทยต้องเข้าใจว่า เราไม่เคยเห้นประเทศที่นับถือศาสนาพุทธหรือฮินดู ที่มีรัฐสวัสดิการเลย คนพิการคนตาบอดต้องขอทาน ผิดจากเมืองนอก ที่คนตาบอดไม่ต้องขอทาน รัฐบาลแจกหมาที่ฝึกมาอย่างดีให้เดินนําทางข้ามถนน มีเงินเดือนกินทั้งคนทั้งหมา มีหมอดูแลฟรี (เมืองนอก มันฟรีอยู่แล้วไม่ต้องเสียสามสิบบาทเหมือนไอ้ทักษิน )ไปเรียนหนังสือหรือไปฝึกงาน รัฐบาลจ่ายค่าแท๊กซี่ไปกลับให้ ประเทศไทยทําไม่ได้เพราะเงินภาษีโดนเจ้ากับทหารปล้นไปแดกหมด

خَـٰلِدِينَ فِيهَا ۖ لَا يُخَفَّفُ عَنْهُمُ ٱلْعَذَابُ وَلَا هُمْ يُنظَرُونَ ١٦٢ เรียน ชาวพุทธ ควรทราบ 1อัลเลาะห์คือพระผู้เป็นเจ้า 2ใครไม่เชื่ออัลเลาะห์ต้องอยู่ในนรก 3ต้องอดกามอยู่ในนรกตลอดกาล 4ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดเป็นสัตว์ 5ไม่มีการเกิดใหม่เป็นคนเพื่อแก้ตัว 6โลกถูกทำลายก่อนวันพิพากษา​ความผิด 7ใครจะมาเกิดใหม่ได้หลังดาวโลกไม่มี 8อิสลามคือความหวังและความสุข 9พุทธคือความเศร้าไร้อนาคต​ 10บุญ​ไม่ได้ทำให้มีความสุข​เสมอไป 11บุญใหญ่​ที่ทำให้ตนเองต้องตายก็มี 12พุทธยโสดูถูกศาสนา​พราหมณ์​ 13นิพพานเป็นเรื่องกุของกระเทยสิทธัตถะ 14เกิดปุ๊บเดินได้7ก้าวเป็นเรื่องหลอกคนโง่ 15ชาวพุทธ​ทั้งโง่ทั้งเหี้ยศาสนา​วิปริต​ 15แค่ข่มใจไม่แดกหมูพวกมึงยังทำไม่ได้​ 16มีหรือจะข่มใจได้ไม่ตีกระหรี่ 17แต่พวกมันเย่อหยิ่ง​คิดว่าตนเองฉลาด 18พวกมึงอ้างปัญญา​ปฏิเสธ​อัลเลาะห์ 19แล้วคิดว่า​พวกมึงจะฉลาดหรือ? 20การอดกามเป็นแค่การเบื่อกาม 21การเบื่อกามไม่ได้ทำให้ใครสูงส่ง 22สิทธัตถะเป็นผู้​ปฏิเสธ​ศรัทธา 23มันอยู่ในฐานะ​เดียวกัน​กับดัจญาล 23ธรรมะมันทั้งยกเมฆ​ทั้งย้อนแย้ง 24นิพพานที่ไกลกว่าสวรรค์เป็นเรื่องตอแหล 25ไม่เคยเห็นสิทธัตถะแล้วทำไมต้องเชื่อมัน? 26สิทธัตถะเป็นผู้ป่วยจิตเวชขั้นรุนแรง​ 27มันคิดว่าตัวมันคือผู้วิเศษ​ดีเลิศ​ประเสริฐ​สุด​ 28มันไม่ได้​กินยาจึงทิ้งลูกเมียหนีเตลิด 29มันขาดความรับผืดชอบต่อครอบครัว 30ใครที่ละหมาดครบ๕เวลาจะได้เข้าสวรรค์ 31ชาวสวรรค์จะได้เสพกามมีความสุข 21ชาวสวรรค์อยู่สวรรค์​ไม่มีหมดบุญ 22ไม่ต้องไปเวียนว่ายตายเกิดใหม่ 23ตัวท่านแก่ทุกวันวันหนึ่งจะต้องตาย 24ตายแล้วสมองเน่าปัญญาจะช่วยได้ไหม? 15การรับโทษในนรกทรมานกว่าการละหมาด 14พวกท่านพร้อมกับพระพุทธรูปเป็นเชื้อไฟนรก 15ควรศึกษาสิ่งเร้นลับที่อัลเลาะห์เปิดเผย 16อาหารสวรรค์​อร่อยกว่าเนื้อสุกร 17อัลเลาะห์ไม่ได้กลัวเนื้อหมู 18สิทธัตถะ​แดกเนื้อหมูตัวตืดขี้รั่วตาย 19แก๊งคอลเซนเตอร์​มีแต่ชาวพุทธ 20ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว 21ความเท็จมีมากมายนับไม่ถ้วน 22ไม่ใช่​ทุกศาสนาจะสอนให้คนเป็นคนดี 20ทั่วโลกมีมุสลิมมากกว่าชาวพุทธ 21ในสายตาชาวโลก, พุทธคือศาสนาหลอกแดก 22อัลเลาะห์ไม่ใช่เรื่ิองแต่งแต่เป็นความจริง 23การฆ่าคนด้วยความอธรรมเป็นบาป 24ความชั่วต่างๆ99%ชาวพุทธเป็นผู้กระทำ 25มุสลิม​อาจให้ฯ​แต่นรกไม่ให้เกียรติ​พวก​มึง​ 25ห้ามสบประมาท​อัลเลาะห์, 26ใครฝ่าฝืนขอให้ถูกรถทับสมองเละ 27ชาวพุทธหัวเราะเยาะอิสลามได้แค่โลกนี้ 28โลกหน้าพวกมันต้องได้พบความสยอง 27ใครกลับ​ใจเชื่ออัลเลาะห์ขอให้ได้เข้าสวรรค์ 28มุสลิมที่ไม่เชื่ออัลเลาะห์ขอให้ไปนรก 28ชาวสวรรค์​บางท่านจะได้เห็นอั​ลเลาะห์ 29คำว่า,รักชาติรักแผ่นดิน,นั้นไม่มีความหมาย 30เมื่ออยู่โลกหน้าแล้ว,ตัวเราก็ไม่มีชาติให้ต้องรัก 31สิ่งที่ต้องสนใจมากกว่ารักชาติรักแผ่นดิน 32คือ,กูจะได้ไปสวรรค์​หรือนรก 33แล้วกูต้องอยู่ที่นั่นตลอดกาล

นับถือพุทธ แล้วพุทธสอนให้ยกตัวเหยียดคนนับถือศาสนาอื่นหรือไม่นับถือศาสนาเหรอ?

@@Lady_Pompadour ไม่มีคำสอนใดที่สอนให้เยียดคนที่ไม่รู้แต่การจะรู้ได้ตามคำสอนก็เรียนรู้และใช้ปัญญาพิจราณาตามคำสอนนั้น จริงๆแล้วก็คือธรรมชาติของสิ่งที่อยู่บนโลกใบนี้ และที่สุดของคำสอนคือการไม่ต้องมาเกิดบนโลกนี้ ทั้งหมดทั้งสิ้นต้องสะสมบารมี

มันเริ่ม แล้ว!ไปจนถึง พ.ศ4,000จะเหลือเพียงศาสนาพุทธ ชาวโลกจะมีความรู้และตัดสินใจโดยไม่ต้องบังคับเขาจะเปลี่ยนเอง หลังจากนั้นคนจะต้องการบุญให้ระวังการทำนายเริ่มเป็นจริงแล้ว

วิธีชาวพุทธจะเป็นคนที่รักความสงบไม่ชอบความรุนเเรง

خَـٰلِدِينَ فِيهَا ۖ لَا يُخَفَّفُ عَنْهُمُ ٱلْعَذَابُ وَلَا هُمْ يُنظَرُونَ ١٦٢ เรียน ชาวพุทธ ควรทราบ 1อัลเลาะห์คือพระผู้เป็นเจ้า 2ใครไม่เชื่ออัลเลาะห์ต้องอยู่ในนรก 3ต้องอดกามอยู่ในนรกตลอดกาล 4ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดเป็นสัตว์ 5ไม่มีการเกิดใหม่เป็นคนเพื่อแก้ตัว 6โลกถูกทำลายก่อนวันพิพากษา​ความผิด 7ใครจะมาเกิดใหม่ได้หลังดาวโลกไม่มี 8อิสลามคือความหวังและความสุข 9พุทธคือความเศร้าไร้อนาคต​ 10บุญ​ไม่ได้ทำให้มีความสุข​เสมอไป 11บุญใหญ่​ที่ทำให้ตนเองต้องตายก็มี 12พุทธยโสดูถูกศาสนา​พราหมณ์​ 13นิพพานเป็นเรื่องกุของกระเทยสิทธัตถะ 14เกิดปุ๊บเดินได้7ก้าวเป็นเรื่องหลอกคนโง่ 15ชาวพุทธ​ทั้งโง่ทั้งเหี้ยศาสนา​วิปริต​ 15แค่ข่มใจไม่แดกหมูพวกมึงยังทำไม่ได้​ 16มีหรือจะข่มใจได้ไม่ตีกระหรี่ 17แต่พวกมันเย่อหยิ่ง​คิดว่าตนเองฉลาด 18พวกมึงอ้างปัญญา​ปฏิเสธ​อัลเลาะห์ 19แล้วคิดว่า​พวกมึงจะฉลาดหรือ? 20การอดกามเป็นแค่การเบื่อกาม 21การเบื่อกามไม่ได้ทำให้ใครสูงส่ง 22สิทธัตถะเป็นผู้​ปฏิเสธ​ศรัทธา 23มันอยู่ในฐานะ​เดียวกัน​กับดัจญาล 23ธรรมะมันทั้งยกเมฆ​ทั้งย้อนแย้ง 24นิพพานที่ไกลกว่าสวรรค์เป็นเรื่องตอแหล 25ไม่เคยเห็นสิทธัตถะแล้วทำไมต้องเชื่อมัน? 26สิทธัตถะเป็นผู้ป่วยจิตเวชขั้นรุนแรง​ 27มันคิดว่าตัวมันคือผู้วิเศษ​ดีเลิศ​ประเสริฐ​สุด​ 28มันไม่ได้​กินยาจึงทิ้งลูกเมียหนีเตลิด 29มันขาดความรับผืดชอบต่อครอบครัว 30ใครที่ละหมาดครบ๕เวลาจะได้เข้าสวรรค์ 31ชาวสวรรค์จะได้เสพกามมีความสุข 21ชาวสวรรค์อยู่สวรรค์​ไม่มีหมดบุญ 22ไม่ต้องไปเวียนว่ายตายเกิดใหม่ 23ตัวท่านแก่ทุกวันวันหนึ่งจะต้องตาย 24ตายแล้วสมองเน่าปัญญาจะช่วยได้ไหม? 15การรับโทษในนรกทรมานกว่าการละหมาด 14พวกท่านพร้อมกับพระพุทธรูปเป็นเชื้อไฟนรก 15ควรศึกษาสิ่งเร้นลับที่อัลเลาะห์เปิดเผย 16อาหารสวรรค์​อร่อยกว่าเนื้อสุกร 17อัลเลาะห์ไม่ได้กลัวเนื้อหมู 18สิทธัตถะ​แดกเนื้อหมูตัวตืดขี้รั่วตาย 19แก๊งคอลเซนเตอร์​มีแต่ชาวพุทธ 20ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว 21ความเท็จมีมากมายนับไม่ถ้วน 22ไม่ใช่​ทุกศาสนาจะสอนให้คนเป็นคนดี 20ทั่วโลกมีมุสลิมมากกว่าชาวพุทธ 21ในสายตาชาวโลก, พุทธคือศาสนาหลอกแดก 22อัลเลาะห์ไม่ใช่เรื่ิองแต่งแต่เป็นความจริง 23การฆ่าคนด้วยความอธรรมเป็นบาป 24ความชั่วต่างๆ99%ชาวพุทธเป็นผู้กระทำ 25มุสลิม​อาจให้ฯ​แต่นรกไม่ให้เกียรติ​พวก​มึง​ 25ห้ามสบประมาท​อัลเลาะห์, 26ใครฝ่าฝืนขอให้ถูกรถทับสมองเละ 27ชาวพุทธหัวเราะเยาะอิสลามได้แค่โลกนี้ 28โลกหน้าพวกมันต้องได้พบความสยอง 27ใครกลับ​ใจเชื่ออัลเลาะห์ขอให้ได้เข้าสวรรค์ 28มุสลิมที่ไม่เชื่ออัลเลาะห์ขอให้ไปนรก 28ชาวสวรรค์​บางท่านจะได้เห็นอั​ลเลาะห์ 29คำว่า,รักชาติรักแผ่นดิน,นั้นไม่มีความหมาย 30เมื่ออยู่โลกหน้าแล้ว,ตัวเราก็ไม่มีชาติให้ต้องรัก 31สิ่งที่ต้องสนใจมากกว่ารักชาติรักแผ่นดิน 32คือ,กูจะได้ไปสวรรค์​หรือนรก 33แล้วกูต้องอยู่ที่นั่นตลอดกาล

خَـٰلِدِينَ فِيهَا ۖ لَا يُخَفَّفُ عَنْهُمُ ٱلْعَذَابُ وَلَا هُمْ يُنظَرُونَ ١٦٢ เรียน ชาวพุทธ ควรทราบ 1อัลเลาะห์คือพระผู้เป็นเจ้า 2ใครไม่เชื่ออัลเลาะห์ต้องอยู่ในนรก 3ต้องอดกามอยู่ในนรกตลอดกาล 4ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดเป็นสัตว์ 5ไม่มีการเกิดใหม่เป็นคนเพื่อแก้ตัว 6โลกถูกทำลายก่อนวันพิพากษา​ความผิด 7ใครจะมาเกิดใหม่ได้หลังดาวโลกไม่มี 8อิสลามคือความหวังและความสุข 9พุทธคือความเศร้าไร้อนาคต​ 10บุญ​ไม่ได้ทำให้มีความสุข​เสมอไป 11บุญใหญ่​ที่ทำให้ตนเองต้องตายก็มี 12พุทธยโสดูถูกศาสนา​พราหมณ์​ 13นิพพานเป็นเรื่องกุของกระเทยสิทธัตถะ 14เกิดปุ๊บเดินได้7ก้าวเป็นเรื่องหลอกคนโง่ 15ชาวพุทธ​ทั้งโง่ทั้งเหี้ยศาสนา​วิปริต​ 15แค่ข่มใจไม่แดกหมูพวกมึงยังทำไม่ได้​ 16มีหรือจะข่มใจได้ไม่ตีกระหรี่ 17แต่พวกมันเย่อหยิ่ง​คิดว่าตนเองฉลาด 18พวกมึงอ้างปัญญา​ปฏิเสธ​อัลเลาะห์ 19แล้วคิดว่า​พวกมึงจะฉลาดหรือ? 20การอดกามเป็นแค่การเบื่อกาม 21การเบื่อกามไม่ได้ทำให้ใครสูงส่ง 22สิทธัตถะเป็นผู้​ปฏิเสธ​ศรัทธา 23มันอยู่ในฐานะ​เดียวกัน​กับดัจญาล 23ธรรมะมันทั้งยกเมฆ​ทั้งย้อนแย้ง 24นิพพานที่ไกลกว่าสวรรค์เป็นเรื่องตอแหล 25ไม่เคยเห็นสิทธัตถะแล้วทำไมต้องเชื่อมัน? 26สิทธัตถะเป็นผู้ป่วยจิตเวชขั้นรุนแรง​ 27มันคิดว่าตัวมันคือผู้วิเศษ​ดีเลิศ​ประเสริฐ​สุด​ 28มันไม่ได้​กินยาจึงทิ้งลูกเมียหนีเตลิด 29มันขาดความรับผืดชอบต่อครอบครัว 30ใครที่ละหมาดครบ๕เวลาจะได้เข้าสวรรค์ 31ชาวสวรรค์จะได้เสพกามมีความสุข 21ชาวสวรรค์อยู่สวรรค์​ไม่มีหมดบุญ 22ไม่ต้องไปเวียนว่ายตายเกิดใหม่ 23ตัวท่านแก่ทุกวันวันหนึ่งจะต้องตาย 24ตายแล้วสมองเน่าปัญญาจะช่วยได้ไหม? 15การรับโทษในนรกทรมานกว่าการละหมาด 14พวกท่านพร้อมกับพระพุทธรูปเป็นเชื้อไฟนรก 15ควรศึกษาสิ่งเร้นลับที่อัลเลาะห์เปิดเผย 16อาหารสวรรค์​อร่อยกว่าเนื้อสุกร 17อัลเลาะห์ไม่ได้กลัวเนื้อหมู 18สิทธัตถะ​แดกเนื้อหมูตัวตืดขี้รั่วตาย 19แก๊งคอลเซนเตอร์​มีแต่ชาวพุทธ 20ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว 21ความเท็จมีมากมายนับไม่ถ้วน 22ไม่ใช่​ทุกศาสนาจะสอนให้คนเป็นคนดี 20ทั่วโลกมีมุสลิมมากกว่าชาวพุทธ 21ในสายตาชาวโลก, พุทธคือศาสนาหลอกแดก 22อัลเลาะห์ไม่ใช่เรื่ิองแต่งแต่เป็นความจริง 23การฆ่าคนด้วยความอธรรมเป็นบาป 24ความชั่วต่างๆ99%ชาวพุทธเป็นผู้กระทำ 25มุสลิม​อาจให้ฯ​แต่นรกไม่ให้เกียรติ​พวก​มึง​ 25ห้ามสบประมาท​อัลเลาะห์, 26ใครฝ่าฝืนขอให้ถูกรถทับสมองเละ 27ชาวพุทธหัวเราะเยาะอิสลามได้แค่โลกนี้ 28โลกหน้าพวกมันต้องได้พบความสยอง 27ใครกลับ​ใจเชื่ออัลเลาะห์ขอให้ได้เข้าสวรรค์ 28มุสลิมที่ไม่เชื่ออัลเลาะห์ขอให้ไปนรก 28ชาวสวรรค์​บางท่านจะได้เห็นอั​ลเลาะห์ 29คำว่า,รักชาติรักแผ่นดิน,นั้นไม่มีความหมาย 30เมื่ออยู่โลกหน้าแล้ว,ตัวเราก็ไม่มีชาติให้ต้องรัก 31สิ่งที่ต้องสนใจมากกว่ารักชาติรักแผ่นดิน 32คือ,กูจะได้ไปสวรรค์​หรือนรก 33แล้วกูต้องอยู่ที่นั่นตลอดกาล

ศาสนาขายพระเครื่อง หลอกรับส่งอาหาร เงินไปให้คนตาย นี่หรือศาสนา มึงโดนหลอกแล้ว ศาสนาพุทธคือศาสนาที่พาคนไทยซวยมากกว่าดี เพราะไอ้โล้นห่มเหลืองส่วนมาก มันคือพวกคลั่งเจ้าทั้งนั้น มันช่วยกันสกัดกั้นระบบรัฐสวัสดิการ หลอกขายพระเครื่อง หลอกขายสวรรค์ หลอกขายบริการส่งของอาหารให้คนตาย ตอนเป็นๆปล่อยให้ยากจน ตายไปมันค่อยให้กินโดยผ่านมัน เจ้าเล่ห์มาก เมืองนอกไม่มีคนห้อยพระ ไม่มีร้านขายพระ แต่มีรัฐสวัสดิการทําให้คนยากจนมีน้อยมาก ประชาชนทุกคนมีเงินเดือนกินทุกคน คนตาบอดไม่ต้องขอทาน รัฐบาลแจกหมาที่ฝึกมาอย่างดี เดินนําทาง ข้ามถนน ทั้งคนทั้งหมามีเงินเดือนกิน มีหมอดูแลรักษาฟรี (ปกติก็ฟรีหมดอยู่แล้ว)ไม่ต้องเสียสามสิบบาทแบบไอ้ทักษิน เงินภาษีที่เก็บไป กลับมาสู่ประชาชนที่ยากจนทั้งนั้นไม่ใช่โดนทหารจปรกับกากสัตว์ไทยปล้นไปหมด เหมือนทุกวันนี้

ไม่เกี่ยวว่าเกิดในชาติศาสนาใด ขอแค่เป็นคนดีก็พอ คนไทยนับถือพุทธแต่ปากซะส่วนใหญ่

อีกอย่าง ... พุทธะ ไม่ใช่สมบัติของใคร กลวิธีที่มีมาแต่เดิมและไม่ขัดหรือส่งเสริมวิถีแห่งพุทธะ พระพุทธองค์ทรงรับมาปรับใช้อย่างเหมาะสม ทั้งยังประกาศให้ละเลิกวัตรบางอย่างเมื่อกาลล่วงพ้นไปแล้วไร้ซึ่งความเหมาะสมได้ อย่างการทำสมาธินั้น พระองค์ก็ทรงรับมาจากพวกโยคี หาใช่ของพุทธโดยเนื้อแท้ไม่ ไม่ว่าจะศาสนิกใดก็สามารถเข้าถึงการทำสมาธิได้เสมอกันโดยไม่ได้ต้องเป็นพุทธเท่านั้น

@@MeddlerOx69 การทำสมาธิมีมาก่อนจริงครับ แต่ท่านค้นพบวิธีทำสมาธิในแบบของตัวเอง จึงเกิดเป็นศาสนาพุทธขึ้นมา นั่นคือ ศีล สมาธิ ปัญญา ต้องมีศีลก่อนเป็นข้อแรก ถ้าศีลไม่ถึง สมาธิก็ไม่พัฒนา ปัญญาก็ไม่เกิด

ปรมัตถ์ธรรมเข้าถึงด้วยจิต ระดับพ้นความจริงทวิภาวะนอกเหตุ เหนือผล ไร้ปัจจัยปรุงแต่ง.

@@tep222 ใช่ครับbasicแค่นี้ดำรงค์ตัวอยู่ในสังคมได้ไม่ต้องเข้าป่า เข้าถ้ำ ปลีกวิเวก

พูดได้ดี

ถ้างั้น คนอีก หลายพันล้านคน ที่ไม่ได้นับถือพุทธแบบไทย ก็พลาดน่ะซิครับ

@@karlnoxx4137 ไม่ใช่แค่พันล้านคนนะ ดวงจิตมีนับไม่ถ้วน ที่เกิดมาเป็น มด แมลง พวกนี้ก็ไม่มีโอกาสได้ฟังธรรม สร้างกรรมบาป แล้วก็รับผลกรรม ไปเกิดในภพภูมิที่ควรจะไป แต่ถ้าศาสนาไหนสอนให้คน เป็นคนดี ทำตัวดี อันนี้ก็ถือว่าสร้างกรรมดี น่าชื่นชม🤗🤗

​@@karlnoxx4137คำสอนของพระพุทธเจ้ายังมีอยู่ เช่น ปฏิจจสมุปบาท คำสอนของพระพุทธเจ้าสอนให้รู้ธรรมตามความเป็นจริง ธรรมคือธรรมชาติ ธรรมซึ่งเป็นสัจจธรรมคือ อดีตจริง อนาคตจริง ปัจจุบันจริง การเข้ามารู้ตามซึ่งธรรมที่เป็นสัจจธรรมที่มีสิบสองขั้นตอน พระพุทธเจ้าก็ได้บอกไว้ เพียงแค่เข้ามาเงี่ยโสตลงฟังคำสอนของท่าน ก็จะทำให้รู้จักธรรมตามความเป็นจริง ซึ่งคนส่วนมากก็ไม่มีใครเขามาเงี่ยโสตลงฟังคำสอนของท่าน จึงทำให้พลาดโอกาสในการได้รู้ตามธรรมที่เป็นสัจจธรรมนั่นเอง คือไม่รู้จัก ปฏิจจสมุปบาท นั่นเอง ซึ่งมันคือ รูป ที่มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย เวทนา อารมณ์ที่มี ทุกข์บ้าง สุขบ้าง เฉยๆบ้าง สัญญา ความคิดความจำได้หมายรู้ในเรื่องอดีต สังขาร ความคิดปรุงแต่งไปในเรื่องของอนาคต วิญญาณ ผู้รู้แจ้ง วิญญาณเข้าไปตั้งที่ รูป ในช่องทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย วิญญาณเข้าไปตั้งที่ เวทนา ทุกข์ สุข เฉยๆ วิญญาณเข้าไปตั้งที่ สัญญา วิญญาณเข้าไปตั้งที่ สังขาร เข้ามาฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อให้รู้จักขันธ์ห้า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เพื่อให้รู้จัก ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ตามความเป็นจริงนั่นเอง คำสอนของพระพุทธเจ้าท่านสอนให้รู้จักธรรมตามความเป็นจริง ปฏิจจสมุปบาท

@@user-tl5ws1fe7e 1. ถ้ายึดถือว่า คำสอนของพระพุทธเจ้า มีค่าเป็น จริง truth คำสอนของศาสนาอื่น ซึ่ง ไม่ได้สอน หรือ ไม่ได้ให้ความหมายเดียวกันกับ เรื่องที่พระพุทธเจ้าสอน ให้ค่าเป็น เท็จ false อย่างนี้ใช่มั้ยครับ 2. พระพุทธเจ้าในที่นี้ หมายถึง พุทธในแบบพุทธไทยใช่มั้ยครับ เพราะว่า พุทธ เหมือนกัน แต่ต่างนิกาย ก็สอนต่างกัน

@@karlnoxx4137 คำสอนของพระพุทธเจ้า พุทธวจน ท่านสอนให้รู้จักขันธ์ห้า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ว่ามีเกิดมีเสื่อมมีดับมีตัวตนแค่ชั่วคราว เมื่อเข้ามารู้ตามซึ่งสัจจธรรมที่มีสิบสองขั้นตอนก็จะเริ่มมีปัญญา ปัญญาคือความเข้าใจ เข้าใจว่า รูป มีเกิดมีเสื่อมมีดับมีตัวตนแค่ชั่วคราว เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็เช่นกัน เมื่อเกิดปัญญาคือเข้าใจ ก็จะเป็นปัจจัตตังรู้ได้เฉพาะตน ตรงนี้แหละที่ทำให้รู้ว่านี่คือสัจจะความจริง ความจริงคือ อดีตจริง อนาคตจริง ปัจจุบันจริง คนที่ไม่ได้เข้ามาฟังคำสอนก็จะไม่รู้ว่า สิ่งที่ทำในทุกๆวันมันคือการทำงานของวิญญาณและนามรูป คือ ปฏิจจสมุปบาทนั่นเอง เพราะมีอวิชชา อวิชชาคือความไม่รู้นั่นเอง เข้ามารู้ตามซึ่งสัจจธรรมที่มีสิบสองขั้นตอนซิ ความจริงก็จะปรากฏ ก็จะทำให้รู้จัก ปฏิจจสมุปบาท นี่คือการเชิญชวนให้เข้ามารู้ตามซึ่งสัจจธรรม ถ้าเป็นการสอนธรรมต้องก็อปปี้คำสอนของพระพุทธเจ้า คนที่เข้ามาฟังคำสอนก็จะได้รู้ธรรม เพราะ มันคือ การทำงานของวิญญาณและนามรูป เพราะมันคือ ปฏิจจสมุปบาทนั่นเอง ถ้าสอนให้เกิดความเข้าใจในขันธ์ห้า สอนให้รู้จัก ปฏิจจสมุปบาท สอนให้รู้อริยสัจสี่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค พุทธแท้แน่นอนคะ

คมมาก..ครับ..!!

ชอบที่สุดคือ ปฏิจจสมุปบาท ครับ

สาธุ..ขอรับ..!!

พุทธศาสนา มีศีลธรรมเป็นกรอบที่สุงที่สุดคือคำว่าการเบียดเบียนเพราะเหตุมาจากความคิดชั่วจึงทำให้ไปสร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น และผลจึงทำให้ได้รับโทษทางกฏหมาย สุดยอดปัญญาทางนามธรรม ที่พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสรู้แล้วมาชี้ทางแก่มนุษยชาติ

คำสอนของศาสนาพุทธ เป็นปรัชญา มากกว่าความเชื่อ

ผมก็คิดงั้น ก็คงเหมือน โยคะ ไทเก็ก เป็นเรื่องของการฝึกฝนปฏิบัติ เพื่อพัฒนาตนเอง พุทธ ไม่มีพระเจ้า ไม่มีขอบเขต เข้ากันได้กับทุกวัฒนธรรม ไม่จำเป็นต้องเป็นพุทธศาสนิกชน เพื่อจะศึกษาและฝึกฝนตามแนวพุทธ

ศาสนาพุทธตั้งอยู่ในหลักความเป็นจริง ไม่เพ้อฝัน ไอสไตน์ถึงกับเอ่ยปากบอก

ใช่ครับ ทางตะวันตก เขานับถือคริสต์ หรือ เขาจะไม่นับถือศาสนา แต่เขามาฝึกสมาธิแนวทางพุทธ เพราะเหตุผลเชิงจิตบำบัด หรือ เชิงการผ่อนคลายกายและใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาเปลี่ยนศาสนา หรือ เปลี่ยนความเชื่อ หรือ เปลี่ยนศรัทธา จากสิ่งเดิมที่เขามี ซึ่งคำสอนเชิงพุทธจะเปิดกว้าง ไม่บังคับว่าต้องทิ้งสิ่งนั้นก่อนแล้วจึงมารับสิ่งนี้ได้ และสำคัญสุดคือ ไม่ขัดต่อการปฏิบัติดั้งเดิมของเขา

จริงครับ กว่า 15ล้านคน หันมาปฏบัติ สมาธิ ถือศิล5 โดยไม่ต้องเปลี่ยนศาสนา และเขาเรียนแบบจริงจัง ไม่ใช่แบบ พิธีกรรม ต่างๆ

خَـٰلِدِينَ فِيهَا ۖ لَا يُخَفَّفُ عَنْهُمُ ٱلْعَذَابُ وَلَا هُمْ يُنظَرُونَ ١٦٢ เรียน ชาวพุทธ ควรทราบ 1อัลเลาะห์คือพระผู้เป็นเจ้า 2ใครไม่เชื่ออัลเลาะห์ต้องอยู่ในนรก 3ต้องอดกามอยู่ในนรกตลอดกาล 4ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดเป็นสัตว์ 5ไม่มีการเกิดใหม่เป็นคนเพื่อแก้ตัว 6โลกถูกทำลายก่อนวันพิพากษา​ความผิด 7ใครจะมาเกิดใหม่ได้หลังดาวโลกไม่มี 8อิสลามคือความหวังและความสุข 9พุทธคือความเศร้าไร้อนาคต​ 10บุญ​ไม่ได้ทำให้มีความสุข​เสมอไป 11บุญใหญ่​ที่ทำให้ตนเองต้องตายก็มี 12พุทธยโสดูถูกศาสนา​พราหมณ์​ 13นิพพานเป็นเรื่องกุของกระเทยสิทธัตถะ 14เกิดปุ๊บเดินได้7ก้าวเป็นเรื่องหลอกคนโง่ 15ชาวพุทธ​ทั้งโง่ทั้งเหี้ยศาสนา​วิปริต​ 15แค่ข่มใจไม่แดกหมูพวกมึงยังทำไม่ได้​ 16มีหรือจะข่มใจได้ไม่ตีกระหรี่ 17แต่พวกมันเย่อหยิ่ง​คิดว่าตนเองฉลาด 18พวกมึงอ้างปัญญา​ปฏิเสธ​อัลเลาะห์ 19แล้วคิดว่า​พวกมึงจะฉลาดหรือ? 20การอดกามเป็นแค่การเบื่อกาม 21การเบื่อกามไม่ได้ทำให้ใครสูงส่ง 22สิทธัตถะเป็นผู้​ปฏิเสธ​ศรัทธา 23มันอยู่ในฐานะ​เดียวกัน​กับดัจญาล 23ธรรมะมันทั้งยกเมฆ​ทั้งย้อนแย้ง 24นิพพานที่ไกลกว่าสวรรค์เป็นเรื่องตอแหล 25ไม่เคยเห็นสิทธัตถะแล้วทำไมต้องเชื่อมัน? 26สิทธัตถะเป็นผู้ป่วยจิตเวชขั้นรุนแรง​ 27มันคิดว่าตัวมันคือผู้วิเศษ​ดีเลิศ​ประเสริฐ​สุด​ 28มันไม่ได้​กินยาจึงทิ้งลูกเมียหนีเตลิด 29มันขาดความรับผืดชอบต่อครอบครัว 30ใครที่ละหมาดครบ๕เวลาจะได้เข้าสวรรค์ 31ชาวสวรรค์จะได้เสพกามมีความสุข 21ชาวสวรรค์อยู่สวรรค์​ไม่มีหมดบุญ 22ไม่ต้องไปเวียนว่ายตายเกิดใหม่ 23ตัวท่านแก่ทุกวันวันหนึ่งจะต้องตาย 24ตายแล้วสมองเน่าปัญญาจะช่วยได้ไหม? 15การรับโทษในนรกทรมานกว่าการละหมาด 14พวกท่านพร้อมกับพระพุทธรูปเป็นเชื้อไฟนรก 15ควรศึกษาสิ่งเร้นลับที่อัลเลาะห์เปิดเผย 16อาหารสวรรค์​อร่อยกว่าเนื้อสุกร 17อัลเลาะห์ไม่ได้กลัวเนื้อหมู 18สิทธัตถะ​แดกเนื้อหมูตัวตืดขี้รั่วตาย 19แก๊งคอลเซนเตอร์​มีแต่ชาวพุทธ 20ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว 21ความเท็จมีมากมายนับไม่ถ้วน 22ไม่ใช่​ทุกศาสนาจะสอนให้คนเป็นคนดี 20ทั่วโลกมีมุสลิมมากกว่าชาวพุทธ 21ในสายตาชาวโลก, พุทธคือศาสนาหลอกแดก 22อัลเลาะห์ไม่ใช่เรื่ิองแต่งแต่เป็นความจริง 23การฆ่าคนด้วยความอธรรมเป็นบาป 24ความชั่วต่างๆ99%ชาวพุทธเป็นผู้กระทำ 25มุสลิม​อาจให้ฯ​แต่นรกไม่ให้เกียรติ​พวก​มึง​ 25ห้ามสบประมาท​อัลเลาะห์, 26ใครฝ่าฝืนขอให้ถูกรถทับสมองเละ 27ชาวพุทธหัวเราะเยาะอิสลามได้แค่โลกนี้ 28โลกหน้าพวกมันต้องได้พบความสยอง 27ใครกลับ​ใจเชื่ออัลเลาะห์ขอให้ได้เข้าสวรรค์ 28มุสลิมที่ไม่เชื่ออัลเลาะห์ขอให้ไปนรก 28ชาวสวรรค์​บางท่านจะได้เห็นอั​ลเลาะห์ 29คำว่า,รักชาติรักแผ่นดิน,นั้นไม่มีความหมาย 30เมื่ออยู่โลกหน้าแล้ว,ตัวเราก็ไม่มีชาติให้ต้องรัก 31สิ่งที่ต้องสนใจมากกว่ารักชาติรักแผ่นดิน 32คือ,กูจะได้ไปสวรรค์​หรือนรก 33แล้วกูต้องอยู่ที่นั่นตลอดกาล

แขกไม่ต้องมาเสือกเรื่องของคนพุทธ

ไม่ได้สิครับ!เดี๋ยวจะเสียหน้าศาสนาอื่นเค้า!😁😁😁

@@abang635 หมายถึงเจ้าของช่องสิ คนพุทธคนอื่นเขาเฉยๆค่ะคุณ

คนจะนับถือศาสนาไหนช่างแมร่ง แต่ถ้าคุณมีศีลมีธรรมประจำใจ คุณก็ปฏิบัติตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้าแล้ว ตรงข้าม คุณร้องประกาศปาวๆว่าเป็นพุทธ แต่ปฏิบัติในสิ่งที่ขัดแย้งกับคำสอนของพระพุทธเจ้า คุณก็เป็นพุทธแค่เพียงด้านวาจา(วาทะกรรมลวงโลก)เท่านั้น

ผมก็คิดยังงั้นครับ มาดังเอากับ องค์ดาไล ลามะ นั่นแหละครับ ด้วยความที่แก สอนธรรมฉบับฝรั่ง เข้าใจง่าย ดูง่ายๆ สนุกๆ จะต่างกับพุทธไทย เน้นไปทางพิธีกรรม

@@georgegodzila7391 พุทธไทยส่วนมากพิธีกรรม ครับ ธิเบตนี้พิธีกรรมเช่นกันครับ ต่างที่รูปแบบ แบบธิเบตอุปกรณ์ ประกอบพิธีกรรม เอามาผสมกับโยคะที่ฝรั่งชอบได้ ทั้งสองประเทศไม่เน้นพุทธวจน เน้นแต่คำสอนจากประสบการณ์ของตน ถ้อยคำของพระพุทธเจ้าย้อยลง ถ้อยคำสาวกมากขึ้น

คุณพูดไม่ถูกว่าชาวพุทธยังไม่เข้าถึงแก่น,,,มีครับแต่คุณอาจะไม่มีโอกาศเห็นเท่านั้นใครปฏิบัติก็เข้าถึงแก่นธรรมได้ทั้งนั้นแต่คนส่วนใหญ่ไม่สนใจปฏิบัติสักว่าเป็นพุทธตามสำเนาทะเบียนบ้านเท่านั้นแต่นั่นก็ไม่ได้หมายว่าไม่มีคนเข้าถึงแก่นองพุทธสิ่งสำคัญจงอย่าเอาตัวเองเป็นตัวตั้งพอตัวเองทำไม่ได้ก็คิดว่าคนอื่นทำไม่ได้ถ้าคิดได้แค่นี้ก็ไปอ้อนวอนให้เทพยกโทษให้และทำให้เทพพอใจจะเหมาะกว่าครับเชิญครับ

🙏🙏🙏กุศลกรรมบถ ๑๐ (-บาลี ทสก. อํ. ๒๔/๒๘๓/๑๖๕. ) *จุนทะ ! ความสะอาดทางกายมี ๓ อย่าง ความสะอาดทางวาจามี ๔ อย่าง ความสะอาดทางใจมี ๓ อย่าง จุนทะ ! ความสะอาดทางกายมี ๓ อย่างนั้นเป็นอย่างไรเล่า ? (๑) บุคคลบางคนในกรณีนี้ ละการทำสัตว์มีชีวิตให้ตกล่วง เว้นขาดจากปาณาติบาต วางท่อนไม้ วางศัสตรา มีความละอาย ถึงความเอ็นดูกรุณาเกื้อกูลแก่สัตว์ทั้งหลายอยู่. (๒) ละการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้ เว้นขาดจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของมิได้ให้ ไม่ถือเอาทรัพย์และอุปกรณ์แห่งทรัพย์อันเจ้าของไม่ได้ให้ ในบ้านก็ดี ในป่าก็ดี ด้วยอาการแห่งขโมย. (๓) ละการประพฤติผิดในกาม เว้นขาดจากการประพฤติผิดในกาม, (คือเว้นจากการประพฤติผิด) ในหญิงซึ่งมารดารักษา บิดารักษา พี่น้องชาย พี่น้องหญิง หรือญาติรักษา อันธรรมรักษา เป็นหญิงมีสามี หญิงอยู่ในสินไหม โดยที่สุดแม้หญิงอันเขาหมั้นไว้ (ด้วยการคล้องมาลัย) ไม่เป็นผู้ประพฤติผิดจารีตในรูปแบบเหล่านั้น. จุนทะ ! อย่างนี้แล เป็นความสะอาดทางกาย ๓ อย่าง. 👉

**จุนทะ ! ความสะอาดทางวาจา มี ๔ อย่าง นั้นเป็นอย่างไรเล่า ? (๑) บุคคลบางคนในกรณีนี้ ละมุสาวาท เว้นขาดจากมุสาวาท ไปสู่สภาก็ดี ไปสู่บริษัทก็ดี ไปสู่ท่ามกลางหมู่ญาติก็ดี ไปสู่ท่ามกลางศาลาประชาคมก็ดี ไปสู่ท่ามกลางราชสกุลก็ดี อันเขานำไปเป็นพยาน ถามว่า “บุรุษผู้เจริญ ! ท่านรู้อย่างไร ท่านจงกล่าวไปอย่างนั้น” ดังนี้, บุรุษนั้น เมื่อไม่รู้ก็กล่าวว่าไม่รู้ เมื่อรู้ก็กล่าวว่ารู้ เมื่อไม่เห็นก็กล่าวว่าไม่เห็น เมื่อเห็นก็กล่าวว่าเห็น, เพราะเหตุตนเอง เพราะเหตุผู้อื่น หรือเพราะเหตุเห็นแก่อามิสไรๆ ก็ไม่เป็น ผู้กล่าวเท็จทั้งที่รู้อยู่. (๒) ละคำส่อเสียด เว้นขาดจากการส่อเสียด ได้ฟังจากฝ่ายนี้แล้วไม่เก็บไปบอกฝ่ายโน้น เพื่อแตกจากฝ่ายนี้ หรือได้ฟังจากฝ่ายโน้นแล้วไม่เก็บมาบอกแก่ฝ่ายนี้เพื่อแตกจากฝ่ายโน้น แต่จะสมานคนที่แตกกันแล้วให้กลับพร้อมเพรียงกัน อุดหนุนคนที่พร้อมเพรียงกันอยู่ ให้พร้อมเพรียงกันยิ่งขึ้น เป็นคนชอบในการพร้อมเพรียง เป็นคนยินดีในการพร้อมเพรียง เป็นคนพอใจในการพร้อมเพรียง กล่าวแต่วาจาที่ทำให้พร้อมเพรียงกัน. (๓) ละการกล่าวคำหยาบเสีย เว้นขาดจากการกล่าวคำหยาบ กล่าวแต่วาจาที่ไม่มีโทษ เสนาะโสต ให้เกิดความรัก เป็นคำฟูใจ เป็นคำสุภาพที่ชาวเมืองเขาพูดกัน เป็นที่ใคร่ที่พอใจของมหาชน กล่าวแต่วาจาเช่นนั้นอยู่. (๔) ละคำพูดเพ้อเจ้อ เว้นขาดจากคำพูดเพ้อเจ้อ กล่าวแต่ในเวลาอันสมควร กล่าวแต่คำจริง เป็นประโยชน์ เป็นธรรม เป็นวินัย กล่าวแต่วาจามีที่ตั้ง มีหลักฐานที่อ้างอิง มีเวลาจบ ประกอบด้วยประโยชน์ สมควรแก่เวลา. จุนทะ ! อย่างนี้แล เป็นความสะอาดทางวาจา ๔ อย่าง. ***จุนทะ ! ความสะอาดทางใจ มี ๓ อย่าง เป็นอย่างไรเล่า ? (๑) บุคคลบางคนในกรณีนี้ เป็นผู้ไม่มากด้วยอภิชฌา คือเป็นผู้ไม่โลภ เพ่งเล็งวัตถุอุปกรณ์แห่งทรัพย์ของผู้อื่น ว่า “สิ่งใดเป็นของผู้อื่น สิ่งนั้นจงเป็นของเรา” ดังนี้. (๒) เป็นผู้ไม่มีจิตพยาบาท มีความดำริแห่งใจอันไม่ประทุษร้ายว่า “สัตว์ทั้งหลาย จงเป็นผู้ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียน ไม่มีทุกข์ มีสุข บริหารตนอยู่เถิด” ดังนี้ เป็นต้น. (๓) เป็นผู้มีความเห็นถูกต้อง มีทัสสนะไม่วิปริต ว่า “ทานที่ให้แล้ว มี (ผล), ยัญที่บูชาแล้ว มี (ผล), การบูชาที่บูชาแล้ว มี (ผล), ผลวิบากแห่งกรรมที่สัตว์ทำดีทำชั่ว มี, โลกอื่น มี, มารดา มี, บิดา มี, โอปปาติกสัตว์ มี, สมณพราหมณ์ที่ไปแล้วปฏิบัติแล้วโดยชอบ ถึงกับกระทำให้แจ้งโลกนี้และโลกอื่น ด้วยปัญญาโดยชอบเอง แล้วประกาศให้ผู้อื่นรู้ ก็มี” ดังนี้. 😊จุนทะ ! อย่างนี้แล เป็นความสะอาดทางใจ ๓ อย่าง. จุนทะ ! เหล่านี้แล เรียกว่า กุศลกรรมบถ ๑๐. จุนทะ ! บุคคลประกอบด้วยกุศลกรรมบถ ๑๐ ประการเหล่านี้ ลุกจากที่นอนตามเวลาแห่งตนแล้ว แม้จะลูบแผ่นดิน ก็เป็นคนสะอาด, แม้จะไม่ลูบแผ่นดิน ก็เป็นคนสะอาด; แม้จะจับโคมัยสด ก็เป็นคนสะอาด, แม้จะไม่จับโคมัยสด ก็เป็นคนสะอาด; แม้จะจับหญ้าเขียว ก็เป็นคนสะอาด, แม้จะไม่จับหญ้าเขียว ก็เป็นคนสะอาด; แม้จะบำเรอไฟ ก็เป็นคนสะอาด, แม้จะไม่บำเรอไฟ ก็เป็นคนสะอาด; แม้จะไหว้พระอาทิตย์ ก็เป็นคนสะอาด, แม้จะไม่ไหว้พระอาทิตย์ ก็เป็นคนสะอาด; แม้จะลงน้ำในเวลาเย็นเป็นครั้งที่สามก็เป็นคนสะอาด แม้จะไม่ลงน้ำในเวลาเย็นเป็นครั้งที่สาม ก็เป็นคนสะอาด. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? จุนทะ ! เพราะเหตุว่า กุศลกรรมบถ ๑๐ ประการเหล่านี้ เป็นตัวความสะอาด และเป็นเครื่องกระทำความสะอาด. จุนทะ ! อนึ่ง เพราะมีการประกอบด้วยกุศลกรรมบถทั้ง ๑๐ ประการเหล่านี้ เป็นเหตุ พวกเทพจึงปรากฏ หรือว่าสุคติใดๆ แม้อื่นอีก ย่อมมี. (พุทธวจนชุดที่๙ ปฐมธรรม หน้า๑๒๙)

👉อริยญายธรรม คือ การรู้เรื่องปฏิจจสมุปบาท (-บาลี นิทาน. สํ. ๑๖/๘๓/๑๕๓. ) คหบดี ! ก็อริยญายธรรม เป็นสิ่งที่อริยสาวกเห็นแล้วด้วยดี แทงตลอดแล้วด้วยดี ด้วยปัญญา เป็นอย่างไรเล่า ? คหบดี ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อม พิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่าด้วยอาการอย่างนี้ เพราะสิ่งนี้มี, สิ่งนี้จึงมี; เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้, สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น. เพราะสิ่งนี้ไม่มี, สิ่งนี้จึงไม่มี; เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้, สิ่งนี้จึงดับไป : ข้อนี้ ได้แก่สิ่งเหล่านี้ คือ :- เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย; เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ; เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป; เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ; เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ; เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา; เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา; เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน; เพราะมีอุปาทานปัจจัย จึงมีภพ; เพราะมีภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ; เพราะมีชาติ เป็นปัจจัย ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน : ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้. เพราะความจางคลายดับไป โดยไม่เหลือแห่งอวิชชานั้นนั่นเทียว, จึงมีความดับแห่งสังขาร; เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ; เพราะมีความดับแห่งวิญญาณ จึงมีความดับแห่งนามรูป; เพราะมีความดับแห่งนามรูป จึงมีความดับแห่งสฬายตนะ; เพราะมีความดับแห่งสฬายตนะ จึงมีความดับแห่งผัสสะ; เพราะมีความดับแห่งผัสสะ จึงมีความดับแห่งเวทนา; เพราะมีความดับแห่งเวทนา จึงมีความดับแห่งตัณหา; เพราะมีความดับแห่งตัณหา จึงมีความดับแห่งอุปาทาน; เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ; เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ; เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น : ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. คหบดี ! อริยญายธรรมนี้แล เป็นสิ่งที่อริยสาวกเห็นแล้วด้วยดี แทงตลอดแล้วด้วยดี ด้วยปัญญา. (พุทธวจนชุดที่๒ คู่มือโสดาบัน หน้า ๑๒๙)

🙏🙏🙏อริยมรรคมีองค์แปด (-บาลี มหา. ที. ๑๐/๓๔๓/๒๙๙.) ภิกษุทั้งหลาย ! ก็ อริยสัจ คือ หนทางเป็นเครื่องให้ถึงซึ่งความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า ? คือ หนทางอันประกอบด้วยองค์แปดอันประเสริฐนั่นเอง. องค์แปด คือ :- ความเห็นชอบ ความดำริชอบ วาจาชอบ การงานชอบ อาชีวะชอบ ความเพียรชอบ ความระลึกชอบ ความตั้งใจมั่นชอบ. 😊ภิกษุทั้งหลาย ! ความเห็นชอบ เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย ! ความรู้ในทุกข์ ความรู้ในเหตุให้เกิดทุกข์ ความรู้ในความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ ความรู้ในหนทางเป็นเครื่องให้ถึงซึ่งความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ อันใด. นี้เราเรียกว่า ความเห็นชอบ. 😊 ภิกษุทั้งหลาย ! ความดำริชอบ เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย ! ความดำริในการออกจากกาม ความดำริในการไม่พยาบาท ความดำริในการไม่เบียดเบียน. นี้เราเรียกว่า ความดำริชอบ. 😊ภิกษุทั้งหลาย ! วาจาชอบ เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย ! การเว้นจากการพูดเท็จ การเว้นจากการพูดยุให้แตกกัน การเว้นจากการพูดหยาบ การเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ. นี้เราเรียกว่า วาจาชอบ. 😊ภิกษุทั้งหลาย ! การงานชอบ เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย ! การเว้นจากการฆ่าสัตว์ การเว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ การเว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย. นี้เราเรียกว่า การงานชอบ. 😊ภิกษุทั้งหลาย ! อาชีวะชอบ เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย ! อริยสาวกในกรณีนี้ ละการหาเลี้ยงชีพที่ผิดเสีย สำเร็จความเป็นอยู่ด้วยการหาเลี้ยงชีพที่ถูกต้อง. นี้เราเรียกว่า อาชีวะชอบ. 😊 ภิกษุทั้งหลาย ! ความเพียรชอบ เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อความไม่บังเกิดขึ้นแห่งอกุศลธรรมทั้งหลายอันเป็นบาป ที่ยังไม่ได้บังเกิด; ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อการละเสียซึ่งอกุศลธรรมทั้งหลายอันเป็นบาป ที่บังเกิดขึ้นแล้ว; ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อการบังเกิดขึ้นแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย ที่ยังไม่ได้บังเกิด; ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อความยั่งยืน ความไม่เลอะเลือนความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ ความเจริญ ความเต็มรอบแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย ที่บังเกิดขึ้นแล้ว. นี้เราเรียกว่า ความเพียรชอบ. 👉👉

😊 ภิกษุทั้งหลาย ! ความระลึกชอบ เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นกายในกายอยู่, มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม มีสติ นำความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้; เป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่, มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม มีสติ นำความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้; เป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่, มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม มีสติ นำความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้; เป็นผู้มีปกติพิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่, มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม มีสติ นำความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้. นี้เราเรียกว่า ความระลึกชอบ. 😊 ภิกษุทั้งหลาย ! ความตั้งใจมั่นชอบ เป็นอย่างไร ? ภิกษุทั้งหลาย ! ภิกษุในกรณีนี้ สงัดแล้วจากกามทั้งหลาย สงัดแล้วจากอกุศลธรรมทั้งหลาย เข้าถึงฌานที่หนึ่ง อันมีวิตกวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกแล้วแลอยู่. เพราะวิตกวิจารรำงับลง, เธอเข้าถึงฌานที่สองอันเป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายใน ให้สมาธิเป็นธรรมอันเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีแต่ปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิ แล้วแลอยู่. เพราะปีติจางหายไป, เธอเป็นผู้เพ่งเฉยอยู่ได้ มีสติ มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม และได้เสวยสุขด้วยกาย ย่อมเข้าถึงฌานที่สาม อันเป็นฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลาย กล่าวสรรเสริญผู้ได้บรรลุว่า “เป็นผู้เฉยอยู่ได้ มีสติ มีความอยู่เป็นปกติสุข” แล้วแลอยู่. เพราะละสุขและทุกข์เสียได้ และเพราะความดับหายไปแห่งโสมนัสและโทมนัสในกาลก่อน เธอย่อมเข้าถึงฌานที่สี่ อันไม่ทุกข์และไม่สุข มีแต่สติอันบริสุทธิ์ เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่. นี้เราเรียกว่า ความตั้งใจมั่นชอบ. ภิกษุทั้งหลาย ! เหล่านี้แล เรียกว่า อริยสัจ คือ หนทางเป็นเครื่องให้ถึงซึ่งความดับไม่เหลือแห่งทุกข์. (พุทธวจนชุดที่๒ คู่มือโสดาบัน หน้า ๑๒๐)

สมัยผมอยู่ป.3คือดังมากครับ