A9 Mark iii
Lay out การจัดวางปุ่มต่างๆ บนตัวกล้อง ก็ต้องบอกว่า เหมือนกับกล้อง Alpha ในยุคที่ 3 และ A1 เลย จะต่างกันกับกล้องใหม่ๆ คือมีปุ่มกดบันทึกวีดิโออยู่ตรงนิ้วโป้งขวาของเรา ซึ่งผมชอบแบบนี้มาก กว่าการที่มีปุ่ม Rec อยู่ด้านบน ซึ่งเอาเข้าจริงๆ เราปรับตั้งค่าปุ่มชัตเตอร์ให้ถ่ายวีดิโอในโหมดวีดิโออยู่แล้ว
และดีไซน์ตรงปุ่มชัตเตอร์มันเป็นแบบใหม่ ที่ทำเอาผมรู้สึกคล้ายๆ กำลังจะกริบของกล้องนิคอน D800 อยู่ยังไงยังงั้น คือ ฟิลลิ่งมัน อ้วนกลม เหมือนกัน คือถ้าจะให้ดี ซื้อ Grip มาติดเพิ่มไปเลย ผมว่าน่าจะเหมาะ ไหนๆ ก็เป็นฟูลเฟรมกล้องใหญ่ๆ ละ ติดกริบให้จับง่ายๆ เพิ่มขึ้น ใส่แบตได้สองก้อน ถ่ายยาวๆ ไปเลย น่าจะดีครับ
ฟีเจอร์ภายใน ก็ต้องบอกว่า อะไรที่กล้องโซนี่ปัจจุบันนี้มี มันมีมาให้ครบเลยล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการถ่ายวีดิโอ 4k120 หรือ ถ่าย Slog3 S-Cinetone ใส่ LUT ได้ หรือกระทั่งต่อแอพได้ ทำเป็นกล้องเว็บแคมได้ที่ 4k30 เหลือๆ
--------------------
ลองใช้ในโหมดที่อยากลอง
120FPS
ปุ่มเลือกโหมดความเร็วที่ Custom ได้ พร้อมกับปุ่ม C5 ที่ค่า Default ตั้งมาให้เป็นปุ่มเร่งความเร็ว Drive Mode ให้ทะลุปรอท
ความรู้สึกหลังจากได้ใช้ ชอบโหมด Pre Capture ที่กล้องจะจับภาพล่วงหน้าให้เรา ก่อนที่เราจะถ่าย ซึ่งแต่นอนว่า ถ้าเรากดถ่ายตอนที่เห็นภาพแล้ว มันจะบันทึกภาพก่อนถ่ายมาให้เราด้วย รวมกับความเร็วการถ่ายต่อเนื่องระดับ 120fps มันทำให้เรามีโอกาสได้ภาพที่ต้องการ มากขึ้นมากๆ
แต่ต้องแลกมาด้วย การใช้การ์ดที่ควรใช้ CFA เพื่อรีดเร้นความเร็วให้เต็มประสิทธิภาพ หรืออย่างน้อยก็ V90 ก็ยังดี เพื่อให้กล้องสามารถเคลียร์บัฟเฟอร์ได้เร็วทันกับความต้องการถ่ายที่สูงมากและที่สำคัญ เตรียมใจกับการจัดเก็บไฟล์ปริมาณมหาศาล - ทริคคือ เมื่อถ่าย Busrt รัวๆ มาแล้ว แนะนำให้เลือกภาพจากชุดภาพที่รัวมา ล็อกมันเอาไว้ แล้วลบชุดภาพนั้นทิ้งไป เพื่อประหยัดพื้นที่ก่อนการจัดเก็บได้ครับ
สำหรับความเร็วการเคลียร์บัฟเฟอร์นั้น ที่ 120fps แบบ Raw Uncompressed ได้ที่ประมาณ 1 วินาที หรือ 120 รูปนั่นแหละครับ แต่ถ้าเป็น Compressed ก็จะได้ประมาณ เกือบๆ 2 วิ หรือประมาณ 200 ภาพเห็นจะได้ และใช้เวลาในการเคลียร์ประมาณ 7 วินาทีหมด ทั้งหมดนี้ทำงานบนการ์ด CFA
แต่ถ้าเป็นการ V90 จะเคลียร์บัฟเฟอร์ในเวลา 22 วินาทีโดยประมาณ
ส่วนการ V30 ที่เรามีกันทุกบ้านนั้น จะใช้เวลาประมาณ 1.10 นาทีครับ
หนึ่งนาทีนี่ ถ้ารีบๆ อยากทุ่มกล้องทิ้งเลยนะครับ ไหนๆ ก็ซื้อกล้องดีขนาดนี้แล้ว CFA สำคัญมากๆ ครับ
Global Shutter
เซ็นเซอร์ชนิดใหม่จากโซนี่ที่เข้ามาเปลี่ยนวิธีคิดการถ่ายภาพไปเป็นอย่างมาก อย่างแรกคือ Global Shutter มันคือ Electronics ชัตเตอร์แบบนึง ที่ทำงานพร้อมกันทั้งเซ็นเซอร์ ไม่กวาดบนลงล่างเหมือนเซ็นเซอร์แบบเก่า ผลที่ได้คือ ภาพไม่มี Rolling Shutter อีกต่อไปและให้สปีดชัตเตอร์สูงถึง 1/80,000 ที่เรียกว่า สูงที่สุดเท่าที่เคยใช้มา แต่ว่า ทำได้แค่ทีละภาพนะครับ ถ่ายจะถ่ายรัว จะได้สูงสุดที่ 1/12,000 เท่านั้น
ประโยชน์ของ Global Shutter อันนึงที่ผมอยากลอง อยากใช้มากก็คือเรื่องของการ Sync Flash ที่ จะทำให้การทำงานของแฟลช ไม่มีภาระของการยิงแฟลที่ความเร็วสูงมากนัก เพราะ กล้องไม่มี Rolling มาเป็นปัญหาอีกต่อไป คือการกระพริบของแฟลช มันจะสัมพันธ์กันกับกล้องได้สูงขึ้น ไม่ต้องยิงไฟให้นานขึ้นเหมือนใน HSS แบบเดิม แต่ก็ต้องรอ ให้มีแฟลชที่รองรับโดยตรงออกมาก่อน ถึงจะทำงานได้อย่างเรียบง่ายและเต็มระบบ
คือตอนนี้ ผมได้ลองใช้แฟลชเดิม ในการถ่ายแล้ว ก็สามารถใช้โหมด HSS เพื่อสัมพันธ์กับแฟลชความเร็วสูงได้ แต่อาจจะยังไม่สมบูรณ์ในแง่ของกำลังไฟ 100% เพราะตัวแฟลช ยังคิดว่าเป็นการยิงแบบ HSS อยู่ แต่ถ้าใช้ TTL ก็จะช่วยลดปัญหาตรงนี้ไปได้นิดหน่อย เพียงแต่เรายังไม่สามารถที่จะกำกับกำลังไฟตามต้องการได้นั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตาม ในต่างประเทศมีการเทสด้วยการใช้สาย Sync แฟลช แล้ว สามารถใช้ได้สบายๆ โดยไม่ต้องเปิด HSS ซึ่งตรงนี้ ถ้ามีโอกาส จะทำการทดสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง เพราะว่า ถ้า Sync แฟลช โดยตรง แบบไม่ใช้ HSS ของแฟลชแล้ว ถ่ายได้ที่ 1/80,000 แล้วละก็ เราจะสามารถถ่ายภาพบุคคลกลางวัน ให้เป็นกลางคือได้ แบบสบายๆ โดยไม่ต้องใช้ ND เลยครับ
ใดใดก็ตาม ความแปลกของ เซนเซอร์รุ่นนี้คือ มันมี ISO เริ่มต้นมาที่ 320 นะครับ ในโหมดภาพนิ่งปกติ และถ้าถ่าย Slog3 มันจะมี Base ISO แรก ที่ 2000 และ Dual Base ISO ที่ 5000 เอาจริงๆ ตรงนี้ผมไม่รุ้ว่าเพราะอะไร แต่ที่แน่ๆ มันคงเป็นเรื่องของการออกแบบเซนเซอร์แหละครับ ซึ่งแน่นอนว่ามันส่งผลต่อ
คำถามของเพื่อนๆ ที่ถามว่า Noise ของภาพเป็นอย่างไรบ้าง
เรื่อง Noise ในภาพ ส่วนตัวผมว่า มันอาจจะไม่สุดทางเท่าไหร่ ในแง่ของการจัดการ Noise ทั้งในภาพนิ่งและวีดิโอ
----
ส่วนตัวผมคิดว่า มันไม่ได้ดีเลิศขนาดนั้น แต่ดีมากพอแล้ว สำหรับการถ่ายภาพเพื่อเอาไปใช้งานและปรับแต่งแก้ไขต่อไป
คือถ้าจะเอาแบบ จบหลังกล้องแล้วต้องดีที่สุด A93 มันไม่ใช่ครับ เพราะกล้องมันไม่ได้ออกแบบมาให้ดีเลิศขนาดนั้น แต่คุณจะได้ภาพจากมันแน่ๆ ในระดับที่เลือกกันสนุกมือเลยครับ
-----
แล้วกล้องตัวนี้เหมาะกับใคร
คนที่ต้องการเก็บจังหวะสำคัญๆ นะครับ ช่างภาพข่าว กีฬา สัตว์ป่า หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยง ที่ทุกๆ โมเมนท์ที่เกิดขึ้นแล้ว มีค่ากับเรา ผมว่า A93 เหมาะกับคนเหล่านี้
แต่ถ้าเราเซ็ตอัพได้ รอได้ แก้ไข เอาใหม่ ถ่ายซ่อมได้ เอาส่วนต่างไปซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นและพัฒนางานของเราทางอื่นเพิ่มก็ไม่เป็นไรครับ
28 янв 2024