Quantum Technology เปลี่ยนโลกอย่างไร คืบหน้าถึงไหน คนไทยพร้อมไหม | Executive Espresso EP.271 

ชัดเจน ขอบคุณค่ะ

สุดยอด​ครับเข้าใจชัดเลยอยากกระทืบหัวใจให้แต่กดได้แค่ครั้งเดียว

ถูกความสะดวกสะบายจะทำไห้เราลืมสัญชาติญานสัตว์ดิบเอง

ท่านยกตัวอย่างทำให้นึกว่า มนุษย์กำลังเข้าสู่เทคโนโลยีเท่าเทียมมนุษย์ต่างดาว หรือเทียบเท่าผู้มีอภิญญาที่มีพลังทางจิต อย่างพระอริยะสงฆ์ พวกคุรุ ผู้ฝึกตบะ แต่พึงระวังไว้ว่า หากวัตถุเรายิ่งเจริญก้าวหน้ามากเท่าใด มนุษย์จะยิ่งมีความเสื่อมลงทางจิตใจ ศีลธรรม สังคมยิ่งอยู่ยากลำบาก คงต้องตรองให้มากครับ

อนาคตน่าจะสามารถ ส่งสารได้ทั้ง ภาพ เสียง กลิ่น สัมผัส เคลื่อนย้ายสาร teleport น่าตื่นเต้นจังค่ะ

ถ้าจะเปรียบว่าบลอกเชนคือมาร ส่วนควอนตัมคือพระ พอจะได้รึปล่าวครับ

@@sanersatingpra4837 ลอกไปก็เอาไปทำงานไม่ด้ายครับ จากเจ้าของควรนตัมคอมพิวเตอร์และเจ้าของกูเกิ้ล

การถอดรหัสในการขุดจะเร็วขึ้น บลอคเชนคงต้องเอาควอนตัมมาพัฒนาให้ใช้ได้กับเทคโนโลยี​คริปโตมากกว่าครับ ทำไปคู่กันแน่นอน

เคยได้อ่านมาว่าการเกะรหัสผ่าน มันทำได้เร็วมากๆ แล้วถ้าเราเอาเวลามาเป็นเงื่อนไขด้วย มันจะแก้ปัญหาได้ไหมครับ เช่นเลขรหัส 6ตัว ให้กดในเวลาไม่ต่ำกว่า 10วินาที อะไรทำนองนี้ หรือใช้รหัสที่ยากขึ้นไปอีกเช่น ใช้รูปภาพ ใช้พิกเซล เฉดสีเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่นรูปที่เราสร้างขึ้นเอง 720*720พิกเซล ตำแหน่งแต่ละพิกเซลและเฉดสีต้องเหมือนกัน ถึงจะเข้ารหัสได้ แต่จริงๆมันก็มีการป้องกันอีกระดับคือ การกดซ้ำได้ไม่เกินจำนวนกี่ครั้ง หรือการ OTP/2FA ก็ยังงงๆ ที่เขาว่าควอนตั้มคอมพิวเตอร์สามารถถอดรหัสได้ทุกอย่าง แบบเร็วมากๆ

คุณพอจะรู้จักบริษัทที่ทำธุรกิจสื่อสารความเร็วสูงไหมครับ บริษัทที่ทำเกี่ยวกับธุรกิจพวกนี้น่าจะรุ่งเพราะ ตัวเครื่องควอนตัมมีขนาดใหญ่แต่สามารถประมวลผลได้เร็ว การสื่อสารที่เร็วเพื่อเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ใช้น่าจะเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เช่นเป็นล่ามในการสื่อสารระหว่างบุคคล ในยุคโดเรมอน น่าจะเรียกว่าวุ้นแปลภาษา

อยากเรียนอะคับมีที่ในเปิดบ้างอะคับ สนใจมากคับ

@@Bos-dr8qv รู้สึกอยากเรียนเหมือนกันครับมันน่าสนใจมากเลย

พอมี quantum computing เราจะเขียน code โง่ขนาดไหนก็ได้ big O ^n ก็ได้ 55

@@OnawevolO 555555555555

@@Bos-dr8qv มช จะมีสอนครับเห็นได้ยินว่าจะเปิดเป็นสาขาของป.เอกซึ่งคนสมัครมีแต่นักฟิสิกทั้งนั้น ไม่มีคอมฯสักคน 😂

เดียวประชาชนรู้แล้วฉลาดจะปกครองยาก

แล้วจะมีสักกี่คนละครับที่สนใจดู เผลอๆเปลี่ยนช่องหนีเลย เลสติ้งก็ตกทำเงินได้ไม่มาก เขาก็เลยไม่เอามาเพราะน้อยคนจะสนใจและเข้าใจถ้าไม่มีพื้นฐานมาก่อน เขาก็ต้องเสนออะไรที่คนสนใจมากๆมาก่อนเพราะเขาต้องทำเงินไม่ใช่ทำการกุศลสะน่อย ก็รู้ๆอยู่คนบ้านเราอะไรที่มีประโยชน์ไม่ค่อยสนใจหรอกสนใจแต่อะไรที่บ้าๆบอๆ ไร้สาระ ไร้แก่นสาร นี้แหละที่คนส่วนใหญ่สนใจ

หวยออกแล้วทายแม่นทุกคน มีเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ก็ตาม

เค้ามีสอนมาเป็นสิบปีแล้วครับ คุณภาพมหาวิทยาลัยของสิงคโปร์สูงมาก ถ้าเทียบระดับโลกก็ติด 1 ใน 20 ในขณะที่มหาลัยที่ดีที่สุดของไทย อันดับอย่างต่ำก็ 200 แล้วแต่องค์ไหนจัด บางองค์กร ไทยติดอันดับ 600+

มีแอบเหน็บเบาๆ

เคยเห็นข่าว ที่ว่าความสามารถในการแข่งขัน (National competitiveness) ประเทศสิงค์โปร์แซงหน้าอเมริกาไปแล้วครับ

เป็นความโชคไม่ดีของสิงค์โปที่มีผู้นำที่ไม่รู้จักพอเพียง🙏

ก็คือประเทศจีนจำลองนั่นแหละ

ชอบเม้นนี้ครับ เห็นภาพอยู่นะครับ 5555

เริ่มต้นจินตนาการ...ตามได้แล้ว มันกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้เราแล้ว !!!

มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรเอามาวิจัยก็เสียเปล่า ไปทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์เถอะ

ดีครับ ก่อนเกิดคอมพิวเตอร์ก็มีนาฬิกาเกิดขึ้นมาก่อนเช่นกันครับ ถ้าพัฒนาต่อไปจะเป็นประโยชน์มากครับ

ผมเคยบอกในการหาเวลา(เช่นเราลงริฟ100ชั้นและจับเาลาเราจะเห็นเวลาที่ต่างกัน)

แต่การที่จะทำให้จินตนาการเกิดผลสัมฤทธิ์ต้องมีความรู้ ดังนั้นการมีจินตนาการควบคู่ไปกับความรู้ก็สำคัญ

ช

ช

หนังภาคนี้ ดูแล้วดูอีก 555+

นี่ละครับความสำคัญของการ์ตูน และภาพยนตร์ มันคิอจินตนาการที่สร้างความรู้ใหม่ๆ ไม่ใช่ว่าอนาคตจะเป็นไม่ได้ อย่างชุดเกราะนาโนของไอรอนแมนนั้นก็ล้ำมาก 👍😉

@@user-uq9cr1gk3u ล่าสุดเป็นชุดโฮโลแกรมแล้วครับ อยากได้ชุดที่เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ แค่คิดชุดก็มาเป็นโฮโลแกรมแล้วสวมให้เลย คนเขียนcomicsล้ำจัด

จำลองวิธีที่เป็นไปได้และโอกาศที่เกิดขึ้น quantum computer เป็นไปได้ วิธีไหนเกิดได้มากที่สุด น่าจะต้องพึ่งพา AI?

ก็แบ้งเค้ามีข้อมูลการเงินไม่ใช่หรอ

มันเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาที่ยาก ครับ คือง่ายๆครับ ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ quantum ก็ น่าจะใช้ การคำนวณเชิงควอนตัมในการใช้แก้ปัญหา ครับ ทีนี้ ให้ลึกลงงานในทาง economic จริงๆนี่ใข้คณิตศาสตร์ควอนตัมเยอะมากครับ

ใช่ค่ะ cpu แรงแค่ไหนก้อต้องพึ่งมนุษย์ยุ่ดีค่ะ🙏❤️

ดูจากทัศนคติของนายก แค่ความรู้ยุคดั้งเดิมแกยังเข้าใจไม่ถูกต้องเลย เรื่อง innovative ไม่ต้องพํดถึงหรอก ตามไม่ทันแน่นอน 😔 ยุทธศาสตร์ 20 ปีล่มตั้งแต่ตรงนี้แล้ว

รอดู The Matrix 4 วันที่ 22 ธันวาค่ะ 555+

ถูกค่ะ🙏❤️

ไปฟังคุณอาร์มมาเช่นกันครับ ผมเห็นด้วยกับคุณอาร์มครับ ยังต้องไปอีกไกล ^ ^

เพราะตอนนี้เรายังจินตนาการมันไม่ได้ เราถึงบอกว่ายังไม่ต้องกังวล แต่คนที่เขาจินตนาการได้เขาเห็นบางสิ่งบางอย่างที่คนอื่นไม่เห็นหรือจินตนาการได้ อดีตมันก็สอนเรามาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ว่าทุกอย่างมันเหนือกว่าจินตนาการที่จะคาดการได้ แต่ที่คุณคิดก็ไม่ได้ผิดนะ เพราะเราเป็นมนุษย์ที่มีความคิดที่แตกต่างกันได้

@@EU_MJ168 เรื่องจิตนาการ ผมไม่เถียงครับ ส่วนคนที่จินตนาการได้ และ ทำงานสายตรง ทำจริงๆ ทำกับบริษัทที่ทำ Supper computer ที่เก่งที่สุดในโลก ถ้าจะมีใครใช้ Quantum ก็คือบริษัทนี้แหละ ผมเชื่อคนๆนั้นมากกว่าครับ มากกว่าคนที่ แค่เรียน จบ ดร.มาแล้ว ศึกษา หรือ อ่านเจอ แล้วเสนอผลงานนำ บทความของคนอื่นมาเล่าให้ คนอื่นฟัง หรือ คนที่ไม่เคยรู้เรื่องนี้ฟัง ให้เป็นเรื่องที่ เหนือจินตนาการ ผมแนะนำให้เข้าไปฟังเด็กไทยคนนี้นะครับฟังหลาย คลิป จะได้รู้ว่าเขาเป็นใคร..

อีกท่านที่ ท่านกำลังสร้าง แต่ไม่ค่อยออกสื่อ อยู่ มช ครับ

@@incotdesign แต่คนนี้เขาจบฟิสิกส์ด้านนี้มาโดยตรงนะทำไมคิดว่าคนจบโดยตรงจะมีน้ำหนักพูดน้อยกว่าคนทำด้านประยุกต์ เพราะก่อนที่ประยุกต์ได้ก็ต้องผ่านด่านฟิสิกส์ไปก่อน

สมองเครื่องจักรทำงานหรือเรียนรู้ได้เร็วนำหน้าสมองชีวะภาพเป็นหมื่นปี ล้านปีสินะ

ฟังก์ชันคลื่น (เช่น sine, cosine หรือ Euler’s formula) จะถูกแทนด้วยตัวอักษรกรีกเช่น psi ครับ … เราจะใช้ฟังก์ชันคลื่นเพื่ออธิบายอนุภาค เช่น อิเล็กตรอน ครับ … ลองพิจารณาเส้นเชือก 1 เส้น โดยให้ psi(x,t) เป็นความสูงของเส้นเชือก (ตามแนวแกน y) ซึ่งฟังก์ชัน psi(x,t) นี้ขึ้นกับพิกัดในแนวราบ x ครับ และเวลา t ครับ … เรามาพิจารณาที่พิกัดแนวราบ x1 และ ความสูง psi(x1,t) กันครับ … โดยความสูงของเชือก psi(x1,t) ที่พิกัดแนวราบ x1 จะกวัดแกว่งขึ้นลงไปเรื่อยๆเมื่อเวลาเปลี่ยนไปครับ … ความสูง psi(x1,t) เปลี่ยนได้เพราะมีแรงในเส้นเชือกที่กำลังดึงขึ้น และดึงลงอยู่ตลอดเวลาครับ … ในบางเวลาที่แรงดึงขึ้นชนะแรงดึงลง psi(x1,t) จะยกตัวขึ้น … ในทางกลับกันถ้าแรงดึงลงชนะแรงดึงขึ้น psi(x1,t) จะยกตัวลงครับ … ลองตั้งสมการนิวตัน sigma F = ma นะครับ … แทน sigma F เป็น F_ชี้ขึ้น - F_ชี้ลง … ผลจากการที่มันลบกันนี้ ใครชนะ มวลของเส้นเชือกที่พิกัด x1 จะมีความเร่ง ma ครับ… จากการพิสูจน์จากในหนังสือต่างประเทศมีหลายเล่ม (ใช้แคลคูลัสนิดหน่อย) เราจะพบว่า F_ชี้ขึ้น - F_ชี้ลง มีค่าเท่ากับ การดิฟ psi(x,t) 2 ครั้งเทียบกับ x ครับ และคูณกับแรงตึงเชือก (T) และคูณด้วย dx (ผลต่างของ x ที่เล็กมากๆ)… ส่วนแรงสุทธิที่มวลของเชือกเฉพาะพิกัด x1 ที่ได้รับจากการดึงขึ้นดึงลงมาสามารถเขียนได้เป็น (m/L)dx คูณการดิฟ psi(x,t) 2 ครั้งเทียบกับเวลา t ครับ โดย m คือมวลทั้งหมดของเส้นเชือก, L คือความยาวเส้นเชือก ทำให้ (m/L)dx คือ มวลที่ segment เล็กๆของเชือก ที่พิกัด x1 … สิ่งที่เราได้ทำก็คือเราได้เปลี่ยนสมการนิวตัน sigma F = ma เป็น สมการเชิงอนุพันธ์ ( partial differential equation) ซึ่งสมการนี้ยังคงความหมายการถูกดึงขึ้นดึงลงของมวลเส้นเชือก ณ พิกัด x ใดๆ เหมือนกับสมการนิวตันอยู่ครับ … พอเราแก้สมการเชิงอนุพันธ์นี้แล้วเราจะได้คำตอบของสมการเป็น ฟังก์ชันคลื่นที่เคลื่อนที่อิสระไปตามพิกัดแกน x (traveling wave) ซึ่งมันจะเป็นตัวบอกว่าคลื่นที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เราสนใจหน้าตามันเป็นยังไงครับ พอเราเข้าใจว่าสมการเชิงอนุพันธ์มันสื่ออะไรกับเราแล้ว … เราลองมาดูตัวอย่างที่สภาพแวดล้อมที่น่าสนใจครับจากหนังสือ Introduction to Quantum mechanics 3rd edition ของ Griffiths หน้า 31 … กรณีนี้เราไม่ได้ให้อิเล็กตรอนเคลื่อนที่อิสระ แต่ให้มันถูกกักตัวอยู่ภายในบ่อศักย์ … ลองพิจารณาที่ขอบด้านซ้ายสุดที่พิกัด x = 0 เราจะพบว่ามีกำแพงศักย์ที่มีค่าเข้าสู่อนันต์เช่นเดียวกับขอบด้านขวาสุดของบ่อที่พิกัด x = a … เวลาอิเล็กตรอนเคลื่อนที่ไปทางด้านซ้ายจะชนกับกำแพงแล้วเด้งกลับมา เช่นเดียวกับด้านขวา … ถ้าเปรียบอิเลกตรอนเป็นคลื่นแล้ว ความสูงของคลื่นต้องเป็น 0 ที่ขอบด้านซ้ายสุดพิกัด x=0 และขอบด้านขวาสุด x=a … พอเราแก้สมการเชิงอนุพันธ์ของปัญหาบ่อศักย์นี้แล้ว … เราจะพบว่า คลื่นนี้จะถูกกำหนดรูปร่างหน้าตาด้วย quantum number ครับเช่น k1 = (1)pi/a, k2 = (2)pi/a พอเอา k1 ไปแทนในฟังก์ชันคลื่นก็จะได้ sin((k1)x) = sin([(1)pi/a]x)…และแทน k2 จะได้ sin((k2)x) = sin([(2)pi/a]x) …เราจะพบว่า sin((k2)x) กวัดแกว่งได้ฉวัดเฉวียนกว่า sin((k1)x) เมื่อเราหาพลังงานเราจะพบว่าพลังงานของ sin([(2)pi/a]x) นั้นมากกว่า sin([(1)pi/a]x)… นอกจากนี้พลังงานยังถูกกำหนดเลขด้วย k1, k2,…,kn ซึ่งพลังงานมีค่าเท่ากับ E_n = (n^2)(pi^2)(hbar^2)/2ma^2)) แปลว่าอิเล็กตรอนที่ถูกกักในบ่อนี้ จะครอบครองพลังงานแบบไม่ต่อเนื่องครับ ขอยกตัวอย่างระดับพลังงานเป็น ตัวเลขง่ายๆนะครับ (ซึ่งเป็นเลขที่ผิด) เช่น E_1 = 1 , E_2 =4, E_3 = 9 แปลว่าอิเล็กตรอนตัวนี้จะครอบครองพลังงานได้แค่ E=1,4,9,… ถ้าเราให้พลังงาน E=3 ไปในบ่อนี้ อิเล็กตรอนจะไม่ถูกยกระดับไปในระดับพลังงานที่ 2 หรือ E_2 ครับ แต่มันจะคงอยู่ที่ระดับ E_1…เราต้องให้พลังงานในบ่อเป็น 4 ครับ อิเล็กตรอนจะถูกยกระดับจาก sin([(1)pi/a]x) เป็น sin([(2)pi/a]x) ซึ่งครอบครองพลังงานเป็น E_2 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 4 … ดังนั้น อิเล็กตรอนจะมีระดับพลังงานเป็นระดับขั้นไปเรื่อยๆครับ… ระดับขั้นภาษาอังกฤษเรียกว่า “quantum” ….ตัวอย่างที่ชัดเจนในชีวิตประจำวัน… อาจจะเป็นหลอด LED … อิเลกตรอนจะถูกกักไว้ในบ่อ เราให้พลังงานยกระดับอิเล็กตรอนจากขั้นที่ 1 ไป 2 พออิเล็กตรอนจะลดระดับพลังงาน มันจะปลดปล่อยพลังงานตามที่มันดูดเข้าไปและเปล่งแสงออกมา… แต่ละขั้นพลังงานที่อิเลกตรอนได้รับและคายพลังงานออกมาจะให้สีที่แตกต่างกันครับ…

@@nuttasartjintananon902 โอ๊ยมึน 555

@@nuttasartjintananon902 ขอบคุณครับ กำลังค้นหาคำ จำกัดความ ของ"quantum" อยู่พอดีครับ เปรียบเทียบกับหลอด LED ให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น 🙏🙏

@@bunjongkit ขอโทษด้วยครับที่อธิบายเชิงคณิตศาสตร์เยอะ ผมเห็นน้องเค้าเรียนวิชานี้พอดีเลยตอบเชิงคณิคศาสตร์ไปด้วย เข้าใจความรู้สึกของน้องเค้าดีครับ ตอนที่ผมเรียนวิชา Quantum mechanics เป็นครั้งแรก ก็หนักหน่วงพอตัวเลยครับ 555555 ต้องย้อนไปปูพื้นฐานคณิตศาสตร์ที่เคยเรียนตอน ม.ปลาย และตอนปี 1,2 และพยายามทำความเข้าใจในความหมายของคณิตศาสตร์ ต่างๆ เช่น ฟังก์ชันคลื่นคืออะไร, ทำไมถึงหยิบ calculus มาใช้ เพราะว่า รากฐานของ quantum mechanics เกิดจากคณิตศาสตร์หลายเรื่องมาเชื่อมโยงรวมกันเป็นวิชา Quantum Mechanics ตัวอย่าง เช่น คลื่นกลที่เราเคยเรียนตอน ม.4, matrix หรือ linear algebra ที่อาจเคยเรียนตอน ม.5, จำนวนจินตภาพที่เรียนตอน ม.5, calculus ที่เราได้เรียนตอน ม.6 ... พอเราเอาความรู้ทั้งหมดนี้มารวมกับสมการเชิงอนุพันธ์ เราจะพอเข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างในวิชา Quantum Mechanics ครับ และเราจะเข้าใจปรากฎการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับสิ่งที่เล็กๆระดับอิเล็กตรอนได้ครับ (มันน่าทึ่งมากครับที่ผลการคำนวณทางคณิตศาสตร์เหล่านี้ สามารถอธิบายปรากฎการณ์ระดับอิเลกตรอนได้แม่นยำ เทียบเท่ากับการทดลองเลยครับ) ... ส่วนใหญ่คณิตศาสตร์ที่ใช้ในวิชา quantum mechanics คนที่เคยเรียนสายวิทย์ตอน ม.ปลาย มักจะเคยเจอมาหมดแล้วครับ ... แต่ปัญหาคือไม่รู้ว่าจะหยิบมันมาใช้ยังไงครับ ผมเลยอธิบายลงไปครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์ ต่อคนที่กำลังศึกษาวิชานี้อยู่ครับ

@@user-pm8qb9zd5k ครับผม :)

➕➕🅰🅰🅰➕➕ 🍀🍀😊😊😊🍀🍀 📖📖🙏🙏🙏📖📖

แล้วเซิร์ฟเวอร์ที่เก็บข้อมูลเงินเราของธนาคารจะรอดมั้ยอ่าครับ

@@tklaichi6641 โดนได้ดิครับ แต่สักพัก ธนาคาร จะรู้ตัวและปิดให้การบริการชั่วขณะหนึ่ง และ เงินจริงยังอยู่ เพราะขโมยเงินจริงไม่ได้ ส่วนข้อมูลก็ต้องหลุดออกไป

จุๆๆๆๆๆ😅😅😅🤫🤫🤫🫢🫢🫢

เราเรียกอีกอย่างว่าผู้สร้าง

เก่งแล้วไปอยู่ ตปท เงินดีกว่า เสรี กว่า

อย่างงี้Siri ในapple จะมีชีวิตขึ้นมาจริงๆไหมครับ แบบsiri คือเป็นภูมิปัญญาประดิษฐ์ไปเลย แบบai ที่ฉลาดประมวลทุกอย่างจากแหล่งข้อมูลที่ซับซ้อนถึงทุกเชิงของมนุษย์

แก่แล้วครับ อ่านสนุกแค่นั้น

จึงเป็นที่มาของ อีกเทคโนโลยี ที่เรียกว่า probabilistic computing ซึ่งคนทั่วไปน่าจะได้ใช้ก่อน Quantum computer: แนวคิดก็มาจาก Feynman ที่ว่า ถ้าต้องการแก้ปัญหาความน่าจะเป็น ก็ควรใช้ เครื่องคำนวณเขิงน่าจะเป็นครับ

big.data.มหาศาล😅😅😅

ลองศึกษาเรื่องจิตดูครับ ทำให้มันนิ่งที่สุด แม้นกระทั่งได้ยินเสียงในอวัยวะที่กำลังทำงาน ทำซ้ำจนมันเคยชินเดี๋ยวคุณจะเข้าใจมันเอง

เมื่อก่อนผมก็เคยคิดนะครับ ว่าจิตเดินทางได้ไวกว่าแสง แต่เดี๋ยวนี้สรุปได้แล้วว่า จิตที่เราคิด หมายถึงความคิด ไม่ใช่กระแสจิต จนคิดว่าเรื่องกระแสจิต เป็นเรื่องงมงาย เป็นแค่ จินตนาการ ยกตัวอย่าง : ถ้าเราจะถอดจิตแล้วไปสำรวจดาวอังคาร ด้วยระยะทางจากโลก ถ้าแค่คิดว่าจิตเร็วเท่าแสง ไปดาวอังคารน่ะ จิ๊บๆ แต่เดี๋ยวก่อน!!! แล้วพิกัดดาวอังคารตอนนี้ อยู่ไหนหว่า? เพราะโลกก็หมุนรอบตัวเอง แถมโคจรรอบดวงอาทิตย์ ดาวอังคารก็เช่นกัน ล้วนไม่อยู่กับที่ แบบนี้ถ้าไม่มีแผนที่ดวงดาวในหัว จะไปถูกที่ได้ไง? หรือต้องไปสำนักงานเกี่ยวกับดาราศาสตร์ ขอเขาชี้มือไปให้ แล้วเราหลับตา กะระยะ แล้วเพ่งกระแสจิต หรือถอดจิตวิ่งไป ... แต่ก็มีตรรกะที่ว่า คนที่จิตไม่สงบ อาจไม่สามารถถอดจิตได้ คนที่ถอดได้คือพระผู้บำเพ็ญภาวณาอย่างเคร่งครัด จนได้อภิญญาญาณ ถอดจิตได้...แต่ใครจะไปขอท่านถอดจิตได้ล่ะ? เพราะเขาว่ากันว่า ผู้สำเร็จขั้นนั้น จะไม่ยุ่งทางโลก ผิดกับพวกอวดตัวว่ามีญาณ มักไม่มีจริง ไม่งั้นคดีน้องชมพู่คงไม่ยืดยาวขนาดนี้...เรื่องนี้ ริวจะไม่ยุ่ง พระก็คงไม่ยุ่ง เดี๋ยวเอนโทรปี้ จะปั่นป่วนไปกันใหญ่ 555

คนไม่รู้ มาคุยกับคนไม่รู้ แต่อยากให้ได้ความรู้ เป็นไปไม่ได้อ่ะ

มันไม่ใช่ปฎิกิริยาแปลกๆๆหรอกครับมันเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วครับ โฟตรอน จิตที่ฝึกจนว่างจนบริสุทธิ์ดีแล้ว ตั้งแต่ D5-D12 สามารถที่จะสลายกายเนื้อ(ซึ่งเป็นธาตุต่างๆที่ประกอบขึ้นเป็นกายหยาบต่างๆที่ตาเนื้อเห็น ซึ่นั้นเป็นอดีตทั้งนั้นครับ) การใช่พลังงานโพตรอนที่มีในจิตเรา(คลื่นความถี่ที่ใช้สลายและรวมโฟตรอนเมื่อต้องการเคลื่อนผ่านวัตถุต่างๆที่ต้องการเมื่อผ่านแล้วก็รวมโฟตรอนกลับมาเป็นกายเนื้ออย่างเดิม นั้นมาจากการจินตนาการของจิตที่ว่างบริสุทธุ์ซึ่งต่างจากความคิดในD3เพราะจิตที่อยู่ ตั้งแต่D5 มีความถี่ต่างกัน นั้นคือ ควอนตรั๊ม THEORY ครับ

ผมมองว่าทุกอย่างเคยเกิดขึ้นมาหมดแล้วครับทุดอย่างหายไปเพราะเราตกลงกันจะไม่ใช้นวัตกรรมกันจึงมาสร้างโลกใหม่สีฟ้าดาวอังคาร์มีทุกอย่างเหมือนโลกแต่ทำไมทุกอย่างถึงหายไป

อ่าน สุจีรา ด้วย

เทคโนโลยีพื้นฐาน+เทคโนโลยีดิจิทัล.จะค่อยๆพัฒนาไปเรื่อยๆค่ะ.เด็กรุ่นไหม่จะเรียนรุ้ไวกว่าค่ะ.เพราะเขาเกิดมาในยุคเทคโนโลยีมีมากขึ้นค่ะ🙏❤️

Interesting use case! Decentralized Cryptos with redundancy nodes globally. Potential risks: 1. Control of bitcoin mining (if one has access to quantum computer thats waaaaay stronger than anyone else's computer) 2. Brute force hack everyone's crypto wallets...

ถ้าเครื่อง quantum computer สำเร็จ ... มันจะเหมือนระเบิดนิวเคลียร์ของโลกดิจิตอล ... ดังนั้นการใช้ครั้งแรกจะต้องเป็นเป็นหมายที่มีอิมเพคมากที่สุด เช่น ระบบยิงนิวเคลียร์ของสหรัฐ/รัสเซีย/จีน หรืออาจจะระบบธนาคารหรือตลาดหุ้นของสหรัฐ/จีน ... สำหรับบิตคอยน์ยังเป็นเป้าหมายที่มีอิมแพคระดับท้ายๆ ... เหมือนที่ไม่เคยมีใครเคยคิดจะเอานิวเคลียร์จริงๆ ไปถล่ม IS หรือตาลีบัน

มีแน่นอนค่ะ🙏❤️

Quantum BTC ก็จะตามมา