The Royal Ballet of Cambodia - Robam Tep Monorom / របាំព្រះរាជទ្រព្យ - របាំទេពមនោរម្យ 

เป็นวัฒนธรรมที่รับมาจากสยาม ข้อมูลประวัติศาสตร์หลายประเทศทั้งรูปวาดและการบันทึกสิ่งนี้เป็นของสยาม เขมรรับวัฒนธรรมสยามเพราะถูกสยามปกครองมากกว่า400ปี และในยุครัตนโกสินทร์ครูชาวสยามไปสอนเขมรเพราะเขมรเป็นเมืองขึ้นของสยาม

Juty Yajai Soonch wow begger ? Are u a beggar?

Juty Yajai Soonch wow who tf are u to say to others nation this words. Sorry aren’t ur school teach u a morality or because of ur behavior?

Juty Yajai Soonch that’s u that don’t have a proper education sound pity to U 😪 I don’t judge u because u look pity already idiot

Juty Yajai Soonch sorry I don’t understand ur speech go ahead and learn more how to say sth great than this idiot

@Yaya Kerd yawn yawn

เราขอพูดว่า ครูสอนเต้นระบำชื่อว่า ชวิวัฒน์/หม่อมเจ้าฉวีวาด ปราโมช ที่เป็นป้าของท่านศึกฤทธิ-ปราโมช อะไรนั้น-ความจริงแล้ว คือเธอ มีสามีหลายคน และไม่ได้มาอยู่ในพระราชวังเขมรเลย จริงๆแล้ว เธอถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญา-แล้วหนีสามีไทย-หลบหนีจากความผิดร้ายแรงในวัง ไม่มีเหตุผลใดๆที่จะต้องนำคณะนาฏศิลป์ระบำไปสอนในวังเขมร เพราะหม่อมเจ้าต้องหลบตัวเองระยะหนึ่งก่อน แล้วหม่อมเจ้าฉวีวาด ถูกหลอกมาอยู่เขมรโดยแม่ทัพเขมรให้มาเป็นภริยา มีลูกชาย หนึ่งคนชื่อพันกุลี แล้วไปแต่งงานกับสามีเขมรคนที่สอง และได้แต่งงานกับสามีคนที่สาม กษัตริย์เขมรรู้จักหม่อมฉวีวาด ปราโมช ตั้งแต่พระองค์เสด็จสู่ประเทศไทยแล้ว ไม่มีเหตุผลใดๆว่าทำไมกษัตริย์เขมรจึงรับเธอเป็นภรรยา ของท่าน เมื่อเธอแต่งงานในประเทศไทยแล้ว และเธอแต่งงานกับแม่ทัพเขมรและมีลูกหนึ่งคน กษัตริย์เขมรทราบเรื่องอื้อฉาวของหม่อมฉวีวาด และไม่อนุญาตให้เธออยู่ในพระราชวังแม้แต่1สัปดาห์ก็ไม่ได้ เจ้าหญิงฉวีวาดอยู่เขมรได้ 30 กว่าปี ย้ายจากจังหวัดหนึ่งไปอีกจังหวัดหนึ่ง-เจอแต่เรื่องเศร้า-โกรธมากๆ แล้วตัดสินใจกลับเมืองไทยและยังคิดค้นเรื่องนี้ขึ้น-หลอกให้หลานชายชื่อศึกฤทธิ-ปราโมช ช่วยเขียนหนังสือประวัติของตัวเอง เพื่อให้ชาววัง และคนไทยทุกคน สนใจเรื่องตัวเองว่า ทำความดีในเขมร และพระราชวังเขมร อันที่จริงแล้วคือว่าซีโร่ เธอไม่ได้สอนระบำในวังเขมร แต่เธอชอบทำอาหาร-ชอบทำขนมเก่ง ต่อมาเธอขอให้คนช่วยพาลูกของเธอที่เกิดในประเทศกัมพูชาชื่อพันกุลี กลับมาประเทศไทย อีกอย่างหนึ่ง ในศตวรรษที่18-ประเทศไทยได้รุกรานอาณาเขต 3 หรือ 4 จังหวัด อาณานิคมมาเป็นเวลากว่า200 ปี เวลานั้น ไทยไม่มีวัฒนธรรมอะไรที่แข็งแกร่งให้เขมรเลย แต่ประเทศไทยต่างหาก ได้รับวัฒนธรรมทุกอย่างจากเขมร มาตั้งแต่ศตวรรษที่13เรียบร้อยไปแล้ว ก่อนที่ไทยได้เข้ามายึดครองกัมพูชาที่หลัง ไทยทุกคนในประเทศไทย หรือในต่างประเทศ ได้รับข้อมูลเท็จๆผิดๆนี้มาเกือบ100 กว่าปีที่แล้ว จากการเขียนหลอกลวง-จากการเขียนหนังสือแบบนวนิยายชื่อว่า"โครงกระดูกในตู้ "ของท่านศึกฤทธิ-ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานรัฐสภาไทยว่าเหตุที่ท่านเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้น โกรธเสียใจมาก เพราะแพ้คดีปราสาทพระวิหาร ในขณะนั้น ทั้งป้าและหลานชายร่วมกันเขียนหนังสือหลอกลวงคนไทยทั้งประเทศ ตลอดจนทุกวันนี้ ลองไปค้นหาอ่านดูนะครับ ถ้าคนไทยโง่เกินไป ก็อย่าฉลาดหลอกลวงโลก-เขามากเกินไป

😂😂😂😂 វង្វេងបឹង

Khmer imitates Thai culture That's a Thai outfit! Cambodians who don't know how to weave Thai pattern cloth ordered all Thai dresses. As for Thai songs and dances, they came from those sent by the Thai royal court to be transmitted. This evidence was also told by the Khmer king.😂

เป็นวัฒนธรรมที่รับมาจากสยาม ข้อมูลประวัติศาสตร์หลายประเทศทั้งรูปวาดและการบันทึกสิ่งนี้เป็นของสยาม เขมรรับวัฒนธรรมสยามเพราะถูกสยามปกครองมากกว่า400ปี และในยุครัตนโกสินทร์ครูชาวสยามไปสอนเขมรเพราะเขมรเป็นเมืองขึ้นของสยาม

កំពូជសៀមថោកទាបឥតកេរ្តិ៍ខ្មាស់

👉🇰🇭 is king of copy.

@@ปิ๊กก้า-ด2ผ Yourself are King of intruders then become King of SLANDER: Surin, Buriram, Sisaket, Long Vek, Bangkok were among Khmer outlying provinces that you intruders stole from Cambodia then distorted and slander Khmer histories ! You no no goot!! 🤣🤥

@@hf..7271 joke.! 🤣😂 Fake.!

เป็นวัฒนธรรมที่รับมาจากสยาม ข้อมูลประวัติศาสตร์หลายประเทศทั้งรูปวาดและการบันทึกสิ่งนี้เป็นของสยาม เขมรรับวัฒนธรรมสยามเพราะถูกสยามปกครองมากกว่า400ปี และในยุครัตนโกสินทร์ครูชาวสยามไปสอนเขมรเพราะเขมรเป็นเมืองขึ้นของสยาม

🗣️👉🧠

@@povvoettiktokcambodia9939 👉👶🤝👌

เป็นวัฒนธรรมที่รับมาจากสยาม ข้อมูลประวัติศาสตร์หลายประเทศทั้งรูปวาดและการบันทึกสิ่งนี้เป็นของสยาม เขมรรับวัฒนธรรมสยามเพราะถูกสยามปกครองมากกว่า400ปี และในยุครัตนโกสินทร์ครูชาวสยามไปสอนเขมรเพราะเขมรเป็นเมืองขึ้นของสยาม

អ្នកវង្វេងប៉ារ៉ូល តាមស្តាប់ទៅដូចសម្លេងលោកម៉េងប៊ុនលី

เป็นวัฒนธรรมที่รับมาจากสยาม ข้อมูลประวัติศาสตร์หลายประเทศทั้งรูปวาดและการบันทึกสิ่งนี้เป็นของสยาม เขมรรับวัฒนธรรมสยามเพราะถูกสยามปกครองมากกว่า400ปี และในยุครัตนโกสินทร์ครูชาวสยามไปสอนเขมรเพราะเขมรเป็นเมืองขึ้นของสยาม

Haha Siam theft don’t stole it ok

We have our own style of dance

แม้ปัจจุบันกัมพูชาก็ยังยิ่งใหญ่ ในเรื่องวัฒนธรรมการขอทาน

@@pongjangwang6731 บ้านกูไม่ใส่ชุดนักเรียน​มาขอทานเหมือนบ้าน​มึ้ง​ ไอ้เสียม

@@menvimongsa6257 555 แสดงว่ามึงยอมรับ เรื่องความยิ่งใหญ่ในเรื่องการขอทาน

@@pongjangwang6731 บ้านมึ้งก้มีขอทานไอ้เสียม​ เป็นนักเรียนดวยมึ้งไปดู​ตลาดนัด​ มี่ทุกที่​555

แล้วคนดูถูกคนอื่นมันดี่กว่าคุณยังไงละคุณอยาดูถูกคนแค่ภายนอกถ้าคุณคิดว่าตัวแอ่งมี่ถูกยางแล้วสู่งได้ตำได้เสมอ

เป็นวัฒนธรรมที่รับมาจากสยาม ข้อมูลประวัติศาสตร์หลายประเทศทั้งรูปวาดและการบันทึกสิ่งนี้เป็นของสยาม เขมรรับวัฒนธรรมสยามเพราะถูกสยามปกครองมากกว่า400ปี และในยุครัตนโกสินทร์ครูชาวสยามไปสอนเขมรเพราะเขมรเป็นเมืองขึ้นของสยาม

Thank you PA 😂

ច្រណែនឈ្នានីសកំពូជសៀមមិនទទួលស្គាល់ការពិត

​@@ฟ้าตียูโซะไม่มีใครริษยาทาสเขมรหรอกนะ เขมรต้องยอมรับความจริงว่าได้รับอิทธิพลจากไทย

เราขอพูดว่า ครูสอนเต้นระบำชื่อว่า ชวิวัฒน์/หม่อมเจ้าฉวีวาด ปราโมช ที่เป็นป้าของท่านศึกฤทธิ-ปราโมช อะไรนั้น-ความจริงแล้ว คือเธอ มีสามีหลายคน และไม่ได้มาอยู่ในพระราชวังเขมรเลย จริงๆแล้ว เธอถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญา-แล้วหนีสามีไทย-หลบหนีจากความผิดร้ายแรงในวัง ไม่มีเหตุผลใดๆที่จะต้องนำคณะนาฏศิลป์ระบำไปสอนในวังเขมร เพราะหม่อมเจ้าต้องหลบตัวเองระยะหนึ่งก่อน แล้วหม่อมเจ้าฉวีวาด ถูกหลอกมาอยู่เขมรโดยแม่ทัพเขมรให้มาเป็นภริยา มีลูกชาย หนึ่งคนชื่อพันกุลี แล้วไปแต่งงานกับสามีเขมรคนที่สอง และได้แต่งงานกับสามีคนที่สาม กษัตริย์เขมรรู้จักหม่อมฉวีวาด ปราโมช ตั้งแต่พระองค์เสด็จสู่ประเทศไทยแล้ว ไม่มีเหตุผลใดๆว่าทำไมกษัตริย์เขมรจึงรับเธอเป็นภรรยา ของท่าน เมื่อเธอแต่งงานในประเทศไทยแล้ว และเธอแต่งงานกับแม่ทัพเขมรและมีลูกหนึ่งคน กษัตริย์เขมรทราบเรื่องอื้อฉาวของหม่อมฉวีวาด และไม่อนุญาตให้เธออยู่ในพระราชวังแม้แต่1สัปดาห์ก็ไม่ได้ เจ้าหญิงฉวีวาดอยู่เขมรได้ 30 กว่าปี ย้ายจากจังหวัดหนึ่งไปอีกจังหวัดหนึ่ง-เจอแต่เรื่องเศร้า-โกรธมากๆ แล้วตัดสินใจกลับเมืองไทยและยังคิดค้นเรื่องนี้ขึ้น-หลอกให้หลานชายชื่อศึกฤทธิ-ปราโมช ช่วยเขียนหนังสือประวัติของตัวเอง เพื่อให้ชาววัง และคนไทยทุกคน สนใจเรื่องตัวเองว่า ทำความดีในเขมร และพระราชวังเขมร อันที่จริงแล้วคือว่าซีโร่ เธอไม่ได้สอนระบำในวังเขมร แต่เธอชอบทำอาหาร-ชอบทำขนมเก่ง ต่อมาเธอขอให้คนช่วยพาลูกของเธอที่เกิดในประเทศกัมพูชาชื่อพันกุลี กลับมาประเทศไทย อีกอย่างหนึ่ง ในศตวรรษที่18-ประเทศไทยได้รุกรานอาณาเขต 3 หรือ 4 จังหวัด อาณานิคมมาเป็นเวลากว่า200 ปี เวลานั้น ไทยไม่มีวัฒนธรรมอะไรที่แข็งแกร่งให้เขมรเลย แต่ประเทศไทยต่างหาก ได้รับวัฒนธรรมทุกอย่างจากเขมร มาตั้งแต่ศตวรรษที่13เรียบร้อยไปแล้ว ก่อนที่ไทยได้เข้ามายึดครองกัมพูชาที่หลัง ไทยทุกคนในประเทศไทย หรือในต่างประเทศ ได้รับข้อมูลเท็จๆผิดๆนี้มาเกือบ100 กว่าปีที่แล้ว จากการเขียนหลอกลวง-จากการเขียนหนังสือแบบนวนิยายชื่อว่า"โครงกระดูกในตู้ "ของท่านศึกฤทธิ-ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานรัฐสภาไทยว่าเหตุที่ท่านเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้น โกรธเสียใจมาก เพราะแพ้คดีปราสาทพระวิหาร ในขณะนั้น ทั้งป้าและหลานชายร่วมกันเขียนหนังสือหลอกลวงคนไทยทั้งประเทศ ตลอดจนทุกวันนี้ ลองไปค้นหาอ่านดูนะครับ ถ้าคนไทยโง่เกินไป ก็อย่าฉลาดหลอกลวงโลก-เขามากเกินไป

ពូជចោរល្មើសគុណថ្ងៃណាមួយអ្នកត្រូវវិនាសមិនខាន

​@@ฟ้าตียูโซะเป็นวัฒนธรรมที่รับมาจากสยาม ข้อมูลประวัติศาสตร์หลายประเทศทั้งรูปวาดและการบันทึกสิ่งนี้เป็นของสยาม เขมรรับวัฒนธรรมสยามเพราะถูกสยามปกครองมากกว่า400ปี และในยุครัตนโกสินทร์ครูชาวสยามไปสอนเขมรเพราะเขมรเป็นเมืองขึ้นของสยาม

เป็นวัฒนธรรมที่รับมาจากสยาม ข้อมูลประวัติศาสตร์หลายประเทศทั้งรูปวาดและการบันทึกสิ่งนี้เป็นของสยาม เขมรรับวัฒนธรรมสยามเพราะถูกสยามปกครองมากกว่า400ปี และในยุครัตนโกสินทร์ครูชาวสยามไปสอนเขมรเพราะเขมรเป็นเมืองขึ้นของสยาม

Who you Thai theft your ancestors is a thief and now the next generation wants become a theft too

Kon Khmer

เป็นวัฒนธรรมที่รับมาจากสยาม ข้อมูลประวัติศาสตร์หลายประเทศทั้งรูปวาดและการบันทึกสิ่งนี้เป็นของสยาม เขมรรับวัฒนธรรมสยามเพราะถูกสยามปกครองมากกว่า400ปี และในยุครัตนโกสินทร์ครูชาวสยามไปสอนเขมรเพราะเขมรเป็นเมืองขึ้นของสยาม

ឲឲ

ឥ

เป็นวัฒนธรรมที่รับมาจากสยาม ข้อมูลประวัติศาสตร์หลายประเทศทั้งรูปวาดและการบันทึกสิ่งนี้เป็นของสยาม เขมรรับวัฒนธรรมสยามเพราะถูกสยามปกครองมากกว่า400ปี และในยุครัตนโกสินทร์ครูชาวสยามไปสอนเขมรเพราะเขมรเป็นเมืองขึ้นของสยาม

toyland go away dont bark here

That means Thai copy from Khmer because this dance we call Robam preah reach trop and already registered in the unesco 2003 that why I said fine out the true history about Angkor dance fist before you come comment nonsense about other country culture ok Thai thefts

Shut up

Hay idiot you should go asked your teacher where your language and culture comes from ? Cambodia is original culture stupid people

@@rojanetoukWTF.my teachers say that Khmer. Copy. Combodia.part of. Thailand you. stupid never know nothing

Thailand hasn't existed before them. So go take your propaganda elsewhere.

Đây là văn hóa Khmer , có phải bạn muốn ăn cắp điệu múa Khmer chúng tôi?

อย่าเอากลิ่นเน่าเหม็นมาเปรียบเทียบ มันคนชั้น😂

Insane so crazy

when your siam people can dance and dress up then can come to say it again, your ancestors are TAI people live in china they still exist so the Siam people and nation should go there and reunion with them, shame nation shame people, SIAM ever សៀមជាសត្វតិរច្ឆានក្នុងលោក

เป็นวัฒนธรรมที่รับมาจากสยาม ข้อมูลประวัติศาสตร์หลายประเทศทั้งรูปวาดและการบันทึกสิ่งนี้เป็นของสยาม เขมรรับวัฒนธรรมสยามเพราะถูกสยามปกครองมากกว่า400ปี และในยุครัตนโกสินทร์ครูชาวสยามไปสอนเขมรเพราะเขมรเป็นเมืองขึ้นของสยาม

@@billfahchannel934theft VIP you don’t have no shame come to claim other people identity without any evidence

เราขอพูดว่า ครูสอนเต้นระบำชื่อว่า ชวิวัฒน์/หม่อมเจ้าฉวีวาด ปราโมช ที่เป็นป้าของท่านศึกฤทธิ-ปราโมช อะไรนั้น-ความจริงแล้ว คือเธอ มีสามีหลายคน และไม่ได้มาอยู่ในพระราชวังเขมรเลย จริงๆแล้ว เธอถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญา-แล้วหนีสามีไทย-หลบหนีจากความผิดร้ายแรงในวัง ไม่มีเหตุผลใดๆที่จะต้องนำคณะนาฏศิลป์ระบำไปสอนในวังเขมร เพราะหม่อมเจ้าต้องหลบตัวเองระยะหนึ่งก่อน แล้วหม่อมเจ้าฉวีวาด ถูกหลอกมาอยู่เขมรโดยแม่ทัพเขมรให้มาเป็นภริยา มีลูกชาย หนึ่งคนชื่อพันกุลี แล้วไปแต่งงานกับสามีเขมรคนที่สอง และได้แต่งงานกับสามีคนที่สาม กษัตริย์เขมรรู้จักหม่อมฉวีวาด ปราโมช ตั้งแต่พระองค์เสด็จสู่ประเทศไทยแล้ว ไม่มีเหตุผลใดๆว่าทำไมกษัตริย์เขมรจึงรับเธอเป็นภรรยา ของท่าน เมื่อเธอแต่งงานในประเทศไทยแล้ว และเธอแต่งงานกับแม่ทัพเขมรและมีลูกหนึ่งคน กษัตริย์เขมรทราบเรื่องอื้อฉาวของหม่อมฉวีวาด และไม่อนุญาตให้เธออยู่ในพระราชวังแม้แต่1สัปดาห์ก็ไม่ได้ เจ้าหญิงฉวีวาดอยู่เขมรได้ 30 กว่าปี ย้ายจากจังหวัดหนึ่งไปอีกจังหวัดหนึ่ง-เจอแต่เรื่องเศร้า-โกรธมากๆ แล้วตัดสินใจกลับเมืองไทยและยังคิดค้นเรื่องนี้ขึ้น-หลอกให้หลานชายชื่อศึกฤทธิ-ปราโมช ช่วยเขียนหนังสือประวัติของตัวเอง เพื่อให้ชาววัง และคนไทยทุกคน สนใจเรื่องตัวเองว่า ทำความดีในเขมร และพระราชวังเขมร อันที่จริงแล้วคือว่าซีโร่ เธอไม่ได้สอนระบำในวังเขมร แต่เธอชอบทำอาหาร-ชอบทำขนมเก่ง ต่อมาเธอขอให้คนช่วยพาลูกของเธอที่เกิดในประเทศกัมพูชาชื่อพันกุลี กลับมาประเทศไทย อีกอย่างหนึ่ง ในศตวรรษที่18-ประเทศไทยได้รุกรานอาณาเขต 3 หรือ 4 จังหวัด อาณานิคมมาเป็นเวลากว่า200 ปี เวลานั้น ไทยไม่มีวัฒนธรรมอะไรที่แข็งแกร่งให้เขมรเลย แต่ประเทศไทยต่างหาก ได้รับวัฒนธรรมทุกอย่างจากเขมร มาตั้งแต่ศตวรรษที่13เรียบร้อยไปแล้ว ก่อนที่ไทยได้เข้ามายึดครองกัมพูชาที่หลัง ไทยทุกคนในประเทศไทย หรือในต่างประเทศ ได้รับข้อมูลเท็จๆผิดๆนี้มาเกือบ100 กว่าปีที่แล้ว จากการเขียนหลอกลวง-จากการเขียนหนังสือแบบนวนิยายชื่อว่า"โครงกระดูกในตู้ "ของท่านศึกฤทธิ-ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานรัฐสภาไทยว่าเหตุที่ท่านเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้น โกรธเสียใจมาก เพราะแพ้คดีปราสาทพระวิหาร ในขณะนั้น ทั้งป้าและหลานชายร่วมกันเขียนหนังสือหลอกลวงคนไทยทั้งประเทศ ตลอดจนทุกวันนี้ ลองไปค้นหาอ่านดูนะครับ ถ้าคนไทยโง่เกินไป ก็อย่าฉลาดหลอกลวงโลก-เขามากเกินไป

សួរមើលថាគ្រូមួយណាបង្រៀន?

เราขอพูดว่า ครูสอนเต้นระบำชื่อว่า ชวิวัฒน์/หม่อมเจ้าฉวีวาด ปราโมช ที่เป็นป้าของท่านศึกฤทธิ-ปราโมช อะไรนั้น-ความจริงแล้ว คือเธอ มีสามีหลายคน และไม่ได้มาอยู่ในพระราชวังเขมรเลย จริงๆแล้ว เธอถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญา-แล้วหนีสามีไทย-หลบหนีจากความผิดร้ายแรงในวัง ไม่มีเหตุผลใดๆที่จะต้องนำคณะนาฏศิลป์ระบำไปสอนในวังเขมร เพราะหม่อมเจ้าต้องหลบตัวเองระยะหนึ่งก่อน แล้วหม่อมเจ้าฉวีวาด ถูกหลอกมาอยู่เขมรโดยแม่ทัพเขมรให้มาเป็นภริยา มีลูกชาย หนึ่งคนชื่อพันกุลี แล้วไปแต่งงานกับสามีเขมรคนที่สอง และได้แต่งงานกับสามีคนที่สาม กษัตริย์เขมรรู้จักหม่อมฉวีวาด ปราโมช ตั้งแต่พระองค์เสด็จสู่ประเทศไทยแล้ว ไม่มีเหตุผลใดๆว่าทำไมกษัตริย์เขมรจึงรับเธอเป็นภรรยา ของท่าน เมื่อเธอแต่งงานในประเทศไทยแล้ว และเธอแต่งงานกับแม่ทัพเขมรและมีลูกหนึ่งคน กษัตริย์เขมรทราบเรื่องอื้อฉาวของหม่อมฉวีวาด และไม่อนุญาตให้เธออยู่ในพระราชวังแม้แต่1สัปดาห์ก็ไม่ได้ เจ้าหญิงฉวีวาดอยู่เขมรได้ 30 กว่าปี ย้ายจากจังหวัดหนึ่งไปอีกจังหวัดหนึ่ง-เจอแต่เรื่องเศร้า-โกรธมากๆ แล้วตัดสินใจกลับเมืองไทยและยังคิดค้นเรื่องนี้ขึ้น-หลอกให้หลานชายชื่อศึกฤทธิ-ปราโมช ช่วยเขียนหนังสือประวัติของตัวเอง เพื่อให้ชาววัง และคนไทยทุกคน สนใจเรื่องตัวเองว่า ทำความดีในเขมร และพระราชวังเขมร อันที่จริงแล้วคือว่าซีโร่ เธอไม่ได้สอนระบำในวังเขมร แต่เธอชอบทำอาหาร-ชอบทำขนมเก่ง ต่อมาเธอขอให้คนช่วยพาลูกของเธอที่เกิดในประเทศกัมพูชาชื่อพันกุลี กลับมาประเทศไทย อีกอย่างหนึ่ง ในศตวรรษที่18-ประเทศไทยได้รุกรานอาณาเขต 3 หรือ 4 จังหวัด อาณานิคมมาเป็นเวลากว่า200 ปี เวลานั้น ไทยไม่มีวัฒนธรรมอะไรที่แข็งแกร่งให้เขมรเลย แต่ประเทศไทยต่างหาก ได้รับวัฒนธรรมทุกอย่างจากเขมร มาตั้งแต่ศตวรรษที่13เรียบร้อยไปแล้ว ก่อนที่ไทยได้เข้ามายึดครองกัมพูชาที่หลัง ไทยทุกคนในประเทศไทย หรือในต่างประเทศ ได้รับข้อมูลเท็จๆผิดๆนี้มาเกือบ100 กว่าปีที่แล้ว จากการเขียนหลอกลวง-จากการเขียนหนังสือแบบนวนิยายชื่อว่า"โครงกระดูกในตู้ "ของท่านศึกฤทธิ-ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานรัฐสภาไทยว่าเหตุที่ท่านเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้น โกรธเสียใจมาก เพราะแพ้คดีปราสาทพระวิหาร ในขณะนั้น ทั้งป้าและหลานชายร่วมกันเขียนหนังสือหลอกลวงคนไทยทั้งประเทศ ตลอดจนทุกวันนี้ ลองไปค้นหาอ่านดูนะครับ ถ้าคนไทยโง่เกินไป ก็อย่าฉลาดหลอกลวงโลก-เขามากเกินไป

ชาวกัมพูชาทุกคน ไม่เคยได้ยินว่า ประเทศไทย เล่นเพลงบทนี้ จนทุกวันนี้ มียูทูปอยู่ไหน ช่วยบอกหน่อย ไทยเอาวัฒนธรรมประเพณีทั้งหมด-ทุกอย่างของแขร มาหลายร้อยปีไปแล้ว แล้วกลับมากล่าวหาว่า เขมรลอกเลียนcopy เหมือนสัตว์ลิงขโมยข้าวกินแล้ว เอาไปทาปากแพะ มันมากเกินไปคุณรวยกายร้ายใจ โยนโทษภัยให้ผู้อื่น ประเทศเพื่อนบ้าน เกิดก่อนหลายพันปี เป็นสักขีพยาน หลอกลูกหลานของตน จนล้มความลับ

ពួកថៃ ឬប្រទេសថៃ គេអាងថាប្រទេសគេ ជាអ្នកមាន-មានប្រជាជន ជាង៧០លាននាក់-ហើយគេមិនធ្លាប់មានសង្រ្គាមក្នុងស្រុក។ម្លោះហើយថៃ គេមានឱកាសច្រើន បានឃោសនា ផ្សព្វផ្សាយ សិល្បះ វប្បធម៌ដើមពីអាណាចក្រខ្មែរ បោកប្រាស់ អោយបរទេសបានយល់ បញ្ចុះបញ្ចូលអោយបរទេសបានជឿស៊ប់ ជិត១០០ឆ្នាំមកនេះ។ចំណែកប្រទេសខ្មែរ រវល់តែសង្រ្គាម ឈ្លានពានពីប្រទេសជិតខាង-សង្រ្គាមក្នុងស្រុក ម្តងហើយម្តងទៀត-ធ្វើអោយការរក្សា ការពារមរតកសិល្បះ វប្បធម៌ប្រពៃណី ទំនៀមទំលាប់មិនបានគង់វង្ស ជានិរន្តរភាពទេ។តែទោះយ៉ាងណា សិល្បះវប្បធម៌ខ្មែរ ប្រពៃណី ទំនៀមទំលាប់បុរាណខ្មែរ នៅតែបង្ហាញ និងសម្តែង ប្រគុំ បានល្អជាងប្រទេសជិតខាងឆ្ងាយ។ចំណែកប្រទេសឡាវវិញ គេតែងតែនិយាយការពិតពីឥទ្ធិពលសិល្បះវប្បធម៌ខ្លួនពីខ្មែរ និងពុទ្ធសាសនាពីខ្មែរ។ខុសអីតែថៃជាមនុស្សរមិលគុណ ក្បត់បុព្វបុរសដូនតាខ្មែរ ហើយមេដឹកនាំថៃមុនៗ ពង្វក់ពួកថៃកូនចៅ អោយប្រឌិតនិងបំភ្លៃការពិតជាច្រើនជាមួយខ្មែរ បើទោះបី មានប្រទេសជិតខាងកើតមានហើយសម័យនោះ ជាសាក្សីជាភស្តុតាងក៏ដោយ។ព្រោះតែថៃមិនសូវព្រមទទួលស្គាល់ការពិតចឹងហើយបានក្រុមប៉បោឥស្លាម៣ខែត្រខាងក្រោមថៃបាញ់ជិត២០ឆ្នាំហើត។ คนไทย หรือประเทศไทยอ้างตัวเองว่ารวย-มีประชากรมากกว่า 70 ล้านคน ไม่เคยเกิดสงครามกลางเมือง ประเทศไทยจึงมีโอกาสมากมายในการเผยแพร่ศิลปะวัฒนธรรมดั้งเดิมจากอาณาจักรเขมร แล้วหลอกลวงชาวต่างชาติ และชักชวนชาวต่างชาติ ให้เชื่อมาเกือบ 100 ปีแล้ว ขณะเดียวกัน ประเทศกัมพูชา ก็ยุ่งอยู่กับสงคราม รุกรานจากประเทศเพื่อนบ้าน ซ้ำแล้วซ้ำอีก สงครามกลางเมือง - ทำให้การอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณี ไม่คงอยู่ อย่างไรก็ตาม ศิลปะวัฒนธรรมเขมร และประเพณี ยังคงแสดง และปฏิบัติได้ดีกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ในทางกลับกัน ลาวกลับพูดความจริงเกี่ยวกับ อิทธิพลศิลปะวัฒนธรรมจากเขมร และพุทธศาสนาจากเขมร ผิดแต่ประเทศไทย เป็นคนเนรคุณ ผู้ทรยศต่อบรรพบุรุษเขมร และผู้นำไทยในอดีตที่ผ่านมา พยายามชักชวนให้คนไทยคนรุ่นใหม่ ประดิษฐ์ และบิดเบือนข้อเท็จจริงมากมายกับคนเขมร ถึงแม้จะมีประเทศเพื่อนบ้านในสมัยนั้น เป็นพยานก็ตาม. เพราะประเทศไทย ไม่ค่อยยอมรับความจริง จึงกลุ่มอิสลามใน 3 จังหวัดภาคใต้ ยิงกันใส่กันเกือบทุกวัน เกือบ 20 ปีแล้ว