อันแรก ถือศีล ๕
อันที่สอง ทำในรูปแบบ
เบื้องต้นไหว้พระ สวดมนต์ นิดหน่อย
นึกถึงคุณงามความดีของตัวเอง
แล้วมีใจมีความสุข
ไปรู้อารมณ์ที่มีความสุข อย่างต่อเนื่อง
อารมณ์ที่ไม่ยั่วกิเลส
แล้วถัดจากนั้น
พอจิตใจมีความสุข จิตใจสงบตั้งมั่นแล้ว
เจริญปัญญา แยกรูปนาม
เห็นร่างกายนั่ง ร่างกายหายใจ
ร่างกายเคลื่อนไหว ร่างกายหยุดนิ่ง
ใจเป็นคนดู
หรือเห็นจิตใจตัวเอง เฝ้ารู้
รู้ลม รู้พุทโธ จิตสงบ เราก็รู้เอา สบายๆ
พอถัดจากนั้น มาเจริญปัญญา
มันจะเห็นความสงบ ความสุข หรือความดี ความชั่ว
ที่เกิดขึ้นในจิต เป็นของไม่คงที่
ไหลมาแล้วก็ไหลไป ตัวนี้เจริญปัญญา
ทีนี้พอเราฝึกเจริญปัญญาในขณะทำในรูปแบบได้แล้ว
ต่อไปก็ออกสนามรบจริง คือ เจริญสติในชีวิตประจำวัน
อันนี้ยากนะ ครูบาอาจารย์สอนถึงขนาดบอกว่า
ทำสมาธิมากเนิ่น คือทำความสงบอย่างเดียวเนิ่นช้า
พิจารณามาก ฟุ้งซ่าน
หัวใจสำคัญของการปฏิบัติ คือการเจริญสติในชีวิตประจำวัน
การเจริญสติในชีวิตประจำวันมีหลักง่ายๆ
มีตาก็ดู มีหูก็ฟัง มีใจก็คิด ให้มันทำงานตามปกติ
อายาตนะทั้งหลาย ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทำงานไป
แต่พอมันทำงานแล้ว
เกิดสุขให้รู้ เกิดทุกข์ให้รู้
เกิดกุศลให้รู้ เกิดอกุศลให้รู้
ฝีกไปอย่างนี้
-- พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม
วันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ไฟล์ 610729A ซีดีแผ่นที่ ๗๗
ติดตามข่าวสาร อ่านพระธรรมคำสอน และดาวน์โหลดไฟล์เสียง
เว็บไซต์ทางการ: www.dhamma.com
Facebook Page: dhammateachings
Instagram: dhammadotcom
Line : @dhammadotcom
10 сен 2024