'พระพุทธเจ้า' เป็นมนุษย์หรือไม่? / HND! โดย นิ้วกลม 

พระพุทธเจ้าไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์ แต่มีญาณ ซึ่งเกิดจากการฝึกปฏิบัติ การมีญาณบางด้านเหมือนแฮกเกอร์ที่แฮคระบบได้ กรณีนี้ พระพุทธเจ้าใช้จิตแฮคระบบบางอย่าง ไม่ใช่การใช้อิทธิฤทธิ์ พระพุทธเจ้าเกิดแก่เจ็บตายเหมือนคนทั่วไป

ต้องศึกษาเรื่องจักรวาลในพระพุทธศาสนาด้วยคับเเล้วศึกษาเรื่อยๆอย่างจิงจังครับ ทำสมาธิทำโดยไม่เข้าใจไม่รู้ว่าทำเพื่ออะไรตายเเล้วไปไหนโลกมีกี่โลกอนิสงที่จะได้คืออะไรก็เเค่นั้งหลับคับ

คุณคงไม่ได้ ทำขริงๆๆหรอก

@@MrSupornchai2525 ไม่ได้ทำแบบที่คุณแนะนำหรอก ขอบคุณที่แนะนำค่ะ

@@rit2025 อันนี้ผมขออธิบายในเชิงตรรกะเบื้องต้นนะครับ.. 1.) ผู้คนทั่วไป..ในยุคสมัยโบราณ กับ คนยุคปัจจุบัน ความรู้..วิวัฒนาการเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ? คหสต. ผม ตามที่ได้ศึกษาค้นคว้า..จบผมสิโรราบ..ให้กับพุทธองค์นั้น..คือการพิสูจน์วิทยาศาสตร์ ประกอบหลักฐานทางโบราณคดี.. กล่าวคือ คนยุคสมัยก่อนย้อนไป..2500ปี ลองคิดเล่นๆ พุทธองค์ท่านเทศน์ ด้วยเครื่องเสียงยี่ห้อใด? จึงทำให้หล่าวสาวกจำนวนกว่าหมื่นเกือบถึงแรือนแสน..ที่มาฟังบรรลุโสดาบันพร้อมกันได้.. คำตอบคือ..ท่านมีทั้งฌาณที่ใช้สื่อสารกับเหล่าเทวดา/พรหม/และบรรดาศิษย์ที่ปฎิบัติจนได้ฌาน และสื่อสารกันได้โดยแพร่หลาย.. หากยังเอะใจ คนที่ไม่มีล่ะ.. ก็จะให้บรรดาศิษย์ของท่านอธิบาย..พร้อมยกตัวอย่าง หรือเปิดให้ถามตอบ และยังมีการบรรยายเพื่อความรู้อันถูกต้องอีกด้วย.. ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะให้ท่องเป็นคำคมเลย..ติดว้าวแก่ผู้ฟังไปเลยก็ได้.. ย้อนกลับไป 4500ปี ก่อนนั้นอีก หลักฐานทางโบราณคดี พีระมิด ซึ่งก็ยังไม่เคยได้ข้อสรุปวิธีการสร้างการออกแบบ..เครื่องมือที่ใช้..สรุปสั้นๆคือ คนสมัยก่อนมีความเจริญในทางปัญญาสูงมาก..จนเสื่อมลงมาเรื่อยๆถึงปัจจุบัน.. โดยที่แทบจะไม่สามารถใช้วิธีการนั้นหรือพิสูจน์ความจริงได้เลย..ทั้งที่ตอนนี้มีความเจริญทางวัตถุสูง.. (แต่กลับด้อยวิชาความรู้/การปฎิบัติ//ยึดถือแต่วัถถุ ทำให้สิ่งต่างนั้นเลือนหายไปตามเวลา

ทุกคำที่พระพุทธองค์สอนคือธรรมชาติที่เราต้องเจอและเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน

ถ้าเราอยู่โลก simulator... บางคนเหมือนไม่มีหน้าที่อะไร เขาสร้างมาทำไม

@@klairungchimmai4869 เป็นไปไม่ได้ครับ..ทุกคนที่เกิดมา..ล้วนมีหน้าที่เป็นของตนเอง..เปรียบเทียบได้กับฟิสิกส์ควอนตัม..ความรู้ ทางวิทยาศาสตร์ ณ ปัจจุบันนี้. สร้างคอมพิวเตอร์ด้วยชิบอนุภาคเล็กระดับโฟตอนการแสดงผลของตัวมันเองจะเปลี่ยนไป..ขึ้นอยูกับว่า.."เราจ้องมองมัน" เมื่อไหร่? เป็นทั้งคลื่น..และอนุภาคได้ในเวลาเดียวกัน.. 1.)เมื่อเราวัดค่าลอยๆ..จะตรวจจับได้ว่ามันแสดงผลเป็นคลื่น 2.)แต่พอเอากล้องมาส่องกลับพบว่ามันดันเป็นอนุภาคแบบนิ่งๆ ดังนั้น..สมมุติฐานที่พระพุทธบอกไว้..ถูกหมด ทุกสิ่งล้วนเชื่อมโยงกัน..มีหน้าที่แตกต่างกันไป.. บางคนเกิดมาโด่งดัง..ร่ำรวยมีชื่อเสียง..แต่กำเนิดเพราะพ่อแม่และพันธุ์กรรมความสามารถโอกาส.. แต่ ก็มีคนธรรมดาๆทั่วไป..ที่ไม่มีต้นทุนอะไรเลย..ก็สามารถให้กำเนิด..คนดังระดับโลกได้เช่น..คุณพ่อ/แม่น้องลิซ่า.. คนธรรมดาที่มีบุตร และฝากลูกสาวไว้ยายเลี้ยง.. อย่างนี้.. ถ้าเทียบโลกซิมูเลเตอร์กับควอนตัมฟิสิกนั้น..การสร้างโลกในครั้งนี้..ก็เพื่อจะรู้ที่มารู้เหตุปัจจัย เพื่อเข้าใจปัญหาหรือภัยธรรมชาติ.. หรือเพื่อหาจุดเปลี่ยนที่จะต้องรีบแก้ไขก่อน จะเกิดการเปลี่ยนแปลง และทุกวันนี้..เมื่อเทคโนโลยีมีความพร้อมพอตัว.. บางทีเราอาจอยู่ในโลกที่นักวิทยาศาสตร์ กำลังใช้คอมพิวเตอร์ควอนตัม คำนวน/จำลอง ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดสงครามโลก3 เพื่อดูแรงจูงใจและพฤติกรรมต่างๆที่ก่อให้เกิดสงครามก็เป็นได้.. และที่น่าทึ่งไปกว่านั้น.. นักวิทยาศาสตร์ ได้ใข้เครื่องมือวัดค่าทางธรรมชาติ และได้พบความลับของ..มิติต่างๆที่มันทับซ้อนกันอยู่ ถึง11มิติแล้วครับ..แต่ยังไท่สามารถหาวิธีที่จะ พิสูจน์หรือชี้ให้เห็นองค์ประกอบหรือสามารถ หาผลประโยชน์จากความรู้ในส่วนนี้ได้ไม่ครับ

@@klairungchimmai4869 ปล.ถ้าให้ตอบสั้นๆ.. คือ เพื่อเป็นทั้งเหตุ และปัจจัย.. ที่จะก่อให้เกิดเรื่องราวในอนาคต.. หรืออาจกำลังรับผลจากการกระทำอยูในขณะนี้..ก็เป็นได้ครับ..

เหมือนก่อนตายจะได้เห็นไอคอนล็อกเอาท์ จากการฝึกจิตตั้งมั่นไหม เพราะถ้าไม่ฝึกระบบจะออโต้ไปตามธรรมชาติ เกิดตายหมุนเวียนแลนด้อมต่อไป

@@npc_charyong ถ้าคนมันฝึกแล้วเห็นจริงๆ..เข้าใจจริงๆ และเคยผ่านความเฉียดตายมา หลายรอบแบบผม..จะรู้ว่า.."การฝึกสติให้เกิดสมาธิและบังคับ..จดจ่อ,ตั้งมั่น,กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้น..มันจะเกิดสภาวะอย่างหนึ่ง..(เรียกว่าสภาวะธรรม) ซึ่งหากเรียกมีสติพอ..ที่จะตั้งมันจะเห็นว่า..จิต (ที่เราปรุงแต่งมันขึ้นมาเป็นไอดวงกลมๆที่เรามโนกันนั้นแหละ) มันไม่นิ่งจริงๆจับ..ผัสจากภายนอกที่กระทบอายะตะนะไปทั่ว..ทำให้เกิดนิมิตต่างๆนาๆ แต่ถ้าเราเก่งพอที่จะไม่คล้อยตามไปสนมัน..สติจะกลับมาอยู่ที่ลม..จึงเกิดสภาวะบีบคั้นอันรุนแรง.. เรียกว่า..สภาวะธรรมแบบแท้ๆ ที่เราบังคับกฎเกณฑ์การมองเห็นอะไรไม่ได้.. ส่วนตัวผมเห็นสิ่งต่างๆตั้งแต่เด็ก กรอย้อนมา..จะสโลช้าหยุดที่จุดสำคัญๆที่เป็นปมในใจ..ทำให้เรารู้ที่มา..ลักษณะนิสัยความเป็นตัวเราที่มันค่อยก่อตัวทีละนิดๆ รวมไปถึงเรื่องผิดบาปไม่ดีทั้งหลาย และมันเห็นได้ด้วยที่ผมนั่งสมาธิเปิดตานั่นแหละ.. แค่เวลาไม่เกิน5นาทีด้วยซ้ำ..แต่กลับเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตแล้วถาพก็ดับวูบ..ต่อด้วยความรู้สึกที่ว่า..เพราะเราเป็นแบบนี้..มันก็เช่นนั้นเอง..แล้วน้ำตาก็ไหล..นั่นแหละ3-4คืนแห่งการเปลี่ยนแปลงชีวิตครับ.. ปมทุกอย่าง นิสัยแย่ๆ มันหายไปดื้อๆบุหรี่ก็เลิกเหล้าเลิก มันเป็นเองแบบไม่ตั้งใจเลิกเลย..มันลืมไปเลย..เหมือนคนเอ๋อ..ต้องหัดล็อคประตูบ้าน..หรือหากุญแจรถที่ปกติตั้งไว้ที่ประจำกลับไม่เจอ..แต่พอพ้น ช่วงอภินิหารมีมันมีอยู่ในธรรมชาติ.. ก็สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติครับ.. ปล. อธิบายเพิ่ม อานาปาสตินี้..แบบนี้ที่เขาต้องการกัน..จริงๆส่วนตัว ผมบอกเลยว่ามันเหมือนการจำลองการทำงานสมองระบบสติ.ว่าเราจะมีอาการ.อย่างไรมันวุ่นอย่างไรก่อนตาย..มันเหมือนตอนผมจมน้ำ..ตอนสติมันวุ่นมันกระเสือกกระสน..ไปหมดจิตมันไม่นิ่ง..ไปอยู่ที่แขน/ขาว่าจะควานหาอะไรจับ..แต่พอขาดอากาศ ตอนที่หมดกำลังกาย จิตมันกลับนิ่งว่าง..แล้วเกิดภาพกรอแบบเดียวกัน..คิดถึงพ่อ..แม่ต่างๆนาๆ คิดถึงปมย้อนไปตั้องแต่เกิดโน่น.. แต่ความต่างกันคือ..การตาย..ตอนจมน้ำ..สติมันจะดับลงตอนไหน..เราไม่สามารถรู้ได้เลย..ที่พระพุทธเจ้าบอกจิตสุดท้ายนี่แหละสำคัญ.. จึงต้องฝึกอานาปานสติไว้ให้มากๆจนเกิดสภาวะธรรม ได้รู้ว่า..ถึงวันสอบจริง..ไม่อ่านหนังสือมา มึงสอบตกแน่นอน..สิ่งนี้คือมีอยู่จริงโดยธรรมชาติครับเป็นสัญชาติที่ลึกลงไป..เรียกว่า จิตไร้สำนึก..เราจะควบคุมอะไรไม่ได้เลย..มันจะเป็นตัวเหวี่ยงให้เราไปเกิดในภพต่างๆ..ถ้าชาติหน้ามีอยู่จริง ครับ

เทวดาคือผีที่มีบุญ เคยเป็นคนมาก่อน

ใช่ครับ พุทธเจ้า คือ มนุษย วิเศษ กว่า คนทั่วไป ครับ

ขอบคุณ​ครับ​ 🙏

ไฟไหม้เส้นผมให้มองดูหัวแม่ตีนคับ

เห็นด้วยครับ เพราะธรรมทั้งหมดก็เกิดขึ้นจากกายที่เป็นมนุษย์ กายทิพย์ กายละเอียด ไม่สามารถทำให้เกิดธรรมขั้นสุดได้ พระพุทธเจ้าท่านเป็นมนุษย์จริงๆๆครับแค่ร่างกายหรือธาตุทั้งสี่หรือ ขันธ์ทั้งห้าเท่านั้น แต่จิตของท่านไม่ใช่มนุษย์และหรือไม่ใช่เป็นอะไรทั้งหมดที่สติปัญญาจะนึกว่าท่านเป็นอะไร เพราะสติปัญญายังคงวนเวียนอยู่ในมิติต่างๆๆอยู่ แต่จิตของท่านนั้น ไม่ได้อยู่ในมิติทั้งหลายเหล่านั้นแล้ว สรุปก็คือ ท่านเป็นสิ้งที่เรียกว่ามนุษย์แค่ร่างกายเท่านั้นครับ

ผมก็ชอบฟังการบรรยายของ อ.สมภาร พรมทา มากครับ อ.แกอ่านหนังสือยากๆมาย่อยให้เรา เปิดมุมมอง โลกทรรศน์ ผมมาก

ในพระไตรปิฏกไม่มีบอกเเบบนั้น อันนั้นมันเป็นเรื่องเเต่งของศาสนาพราหมที่เเต่งขึ้นทีหลัง

ฮินดูแต่งขึ้นมาในปางที9ของพระนาราย

อะไรคือปาฏิหาริย์ที่ไม่มีจริง

ผมว่าคุณลองฝึกจิตฝึกสมาธิดูก่อนครับ คุณจะเห็นความอัศจรรย์เอง เรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์มันมีอยู่ ในพระไตรปิฎกก็พูดถึงพระอรหันต์มีหลายประเภท ตั้งแต่สุขวิปัสสโกที่ไม่มีฤทธิ์ จนถึงพระอรหันต์แบบปฏิสัมภิทา แม้แต่พระโมคคัลลานะก็เป็นเลิศด้านฤทธิ์... ผมเองฝึกสมาธิแค้เบื้องต้นยังได้สัมผัสเรื่องพวกนี้(คงเพราะได้เจอคนปฏิบัติเก่งๆด้วย) ผมเคยได้อยู่ในเหตุการ์ณพระธาตุเสด็จ เคยเจอคนที่รู้วาระจิต หรือมีครั้งนึงที่ผมได้ยินเสียงคนเรียกก่อนโทรศัพท์จะดังซึ่งเป็นเสียงคนๆนั้น... เอาแค่หมอบีที่ทุกคนนน่าจะรู้จัก หลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ทำนายเหตุการณ์ต่างๆในปัจจุบันไว้ตั้งแต่ปี 30 .. แค่นี้ก็น่าจะพอเป็นตัวอย่างว่าของเหล่านี้มี

เราไม่ได้มาจากนิพพานอย่างที่คุณเข้าใจครับ

@@ดุ๊กดอนแดง ไม่ได้พิมพ์คำว่า "นิพพาน" เลยค่ะ

มากกว่านั้น นิพพาน คือ อะไร ด้วยครับ เรากำลังแสดงว่าขัดแย้ง ในสิ่งที่เราต่างไม่รู้ หรือ ถ้ารู้ ราอาจจะไม่ขัดแย้งก็ได้ครับ ​@@innerpeace115

@@innerpeace115 ค่าเดิมที่เราจะกลับไปคืออะไรครับ

ถ้าคิดแบบคริสต์ก็จะคิดแบบนั้น แต่ในทางพุทธ เราฝึกจากความมีตัวตนไปสู่ความไม่มีตัวตน ไม่เป็นอะไรเลย คำว่าผู้สร้างของทางพุทธน่าจะตรงกับกฎแห่งกรรม เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในโลกไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ มีกรรมเป็นตัวกำหนด ทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากกฎนี้คือนิพพาน ช่วงนี้ฝรั่งหันมาฝึกสมาธิกันเยอะ บางคนเริ่มรู้เห็นสิ่งต่างๆมากขึ้น แต่ยังไม่ได้รู้จริงๆ ก็จะโยงเข้ากับความรู้ความเชื่อเดิม แต่พุทธไปไกลกว่านั้นครับ ปล. ถ้าเรามาจาก god แล้วก็กลับไปสู่ god แล้ววันดีคืนดีเราก็จะหลุดมาจาก god อีกมั้ย ซึ่งต่างกับนิพพานที่ไปแล้วไม่กลับมาอีก

ถ้าทางพุทธไม่ได้มองว่ามีจักรวาลเดียวหรือเอกภพอย่างที่นักวิทย์หรือศาสนาอื่นๆบอกไว้ (ลองดูเรื่องพระพุทธศาสนากับจักรวาล) พระพุทธเจ้าบอกมีหลายจักรวาล ท่านแบ่งเป็นจักรวาลขนาดเล็ก กลาง ใหญ่... ซึ่งผมก็ว่าน่าจะจริง ทำไมมันจะต้องมีแค่จักรวาลเดียว ในเมื่อนอกจักรวาลมันก็ไม่มีที่สิ้นสุด

2620 ปี แล้วครับ ปี พศ น่บจากนิพพาน ไม่ได้นับจากตอนตรัสรู้

พระพุทธเจ้าเป็นคน แต่ฝึกจิตจนได้ญาณ ความรู้จากญาณเหมือนการดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลจากเซอร์ฟเวอรฺของจักรวาล ไม่ได้เกิดจากการคิดวิเคราะห์แบบปกติ

พระเจ้าไม่มีจริงครับ คนสร้างพระเจ้า

พระเจ้ารู้น้อยกว่าคนสมัยนี้ด้วยซ้ำ

@@rit2025 พระเจ้าหรือเทพที่คนสมัยโบราณเชื่อก็ หมายถึง ธรรมชาติ นั่นแหละครับ

อย่างไรครับ

ใครบอกคุณว่าวิทย์เลี่ยงปรัชญาแต่ปรัชญาอยากยุ่งวิทย์

เคยได้ยินคำว่า นัก ปรัชญาทางวิทยาศาสตร์ไหมครับ

อะไรคือเหนือมนุษย์ปาฏิหาริย์

พระพุทธเจ้าก็คือคนนี่แหละครับ พระพุทธเจ้าบอกชัดเจนว่า ทุกคนอยู่ใต้กฎแห่งกรรม เราเองก็เช่นกัน แต่พระพุทธเจ้าฝึกจิตจนบรรลุญาณ

เป็นคนมีกายเนื้อประกอบด้วยดินน้ำลมไฟอย่างเราๆท่านๆนี่แหละ แต่ปัญญาและจังหวะที่ไปเกิดในช่วงเวลานั้นตำแหน่งนั้นน่าจะเป็นเพราะอินเดียเป็นแหล่งวัฒนธรรมความเชื่อลัทธิคำสอนหลากหลายซึ่งมีวัตถุดิบต่อข้อสงสัยและคำถามแก่ชนหมู่มาก ถ้ามองว่าท่านเป็นนักวิทยาศาสตร์นักทดลองทางจิตการให้คำตอบได้กระจ่างก็ย่อมทำให้แนวคิดหรือลัทธิอื่นๆ เสื่อมศรัทธาลง "คุณภาพของปัญญา"ที่อยู่ในคำสอนนี่เป็นชนิดที่ควรได้รู้ได้ฟังอย่างยิ่ง

"เราไม่พัก เราไม่เพียร ข้ามโอฆะได้แล้ว" มันต้องทำยังไงครับ?

หมายถึง ไม่ใช่มนุษย์ตั้งแต่แรกกำเนิดเลยหรือครับ

คนสุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร สีน้ำเงิน= สีเขียว สีเขียว= สีใบตอง

ผมคนอุตดิตครับ🤣เรียกชื่อจังหวัดยังเรียกสั้นๆ

ทางอีสานจะเรียกสีน้ำเงินว่า สีแหล่