รถไฟฟ้าแบบวิ่งไปชาร์จไป แบตไม่มีวันหมดทำได้จริงมั้ย!? มาเข้าใจการทำงานรถยนต์ไฟฟ้า และระบบรีเจน 

ขอบคุณครับ เหมือนพาผมกลับไปเข้าห้องเรียนกลศาสตร์ (Mechanics) เมื่อ 30-40ปีที่แล้ว ไม่มีอะไรทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ 100% ทุกขนวนการต้องมีการเสียพลังไปบางส่วนออกไปในรูปความร้อนเสมอ

หนี กฎอนุรักษ์พลังงานไม่ได้ กำลังไฟเข้า = กำลังกลออก + การสูญเสีย ..1,2,3.... เยอะแยะ และการที่ใช้ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าปั่นไฟ ก็จะต้องใช้แรงกล มาปั่นไฟ เก็บในแบต ก็มีการสูญเสียเช่นกัน ..... และโดยสามัญสำนึกทั่วไปก็จะเข้าใจว่า ขณะเครื่องกำเนิดจ่ายไฟออก ก็ย่อมมีกระแสไหลเพื่อนำไฟไปใช้งาน ซึ่งจังหวะที่กระแสไหลผ่านลวดตัวนำ เพื่อนำไปใช้ จะเกิดสนามแม่เหล็กต้านกลับ back EMF ทำให้เกิดแรงต้านทางกลในเครื่องกำเนิด ซึ่งจะทำให้ต้องใช้กำลัง ผลักโรเตอร์ โดยยังแสดงผลลัพธ์ตามกฎอนุรักษ์ พลังงานอยู่ดี หนีไม่พ้นจริง..........เพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ กำลังไฟที่ผลักมอเตอร์ และ ใช้แรงเฉื่อยเพื่อชาร์ตไฟกลับ จะได้กำลังงานไฟฟ้าน้อย ตามกฎอนุรักษ์พลังงานดังกล่าว......ส่วนจะ DC หรือ AC ก็หนีไม่พ้นเกฎเกณฑ์ดังกล่าว เช่นกัน...................และเพื่อให้ชัดเจน รถวิ่ง 1 km สมมุติว่าใช้ไฟ 1 หน่วย และตอนเบรคจะได้ไฟ 70 % ตามกลักการ หรือ 0.7 หน่วย อันนี้ก็จะเกิดขึ้นช่วงขณะเบรคเท่านั้น เช่น รถวิ่ง 1 กม เบรคตอน 950 เมตรจะเกิดการปั่นไฟช่วง 50 เมตรสุดท้ายเท่านั้น ก็จะได้พลังงานแค่ช่วงนี้ ซึ่งไม่ใช่ 0.7 หน่วยแน่นอน

รถไฟฟ้าตอนนี้ ก็เหมือนมือถือยุคแรกๆ กว่าจะสมบูรณ์แบบต้องใช่เวลา เทคโนโลยี่เปลี่ยนโลก

อธิบายได้ชัดเจนดีครับ...ซึ่งยังมีบางคอมเม้นท์ ยังไปติดกับดักของคำว่า"ล้อหมุนฟรี" ถ้าคิดในถนนที่เรียบๆ มันไม่มีล้อหมุนฟรีหรอก สมมุติเราใช้พลังจากแบตเตอรี่ 100 วัตต์เพื่อให้ล้อหมุนไปในระยะทาง 100 เมตร แล้วบางคนคิดว่า ถ้าเอาไดชาร์จ ไปต่อแกนล้อ เพื่อปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่อีกลูกหนึ่ง เพื่อให้ไฟชาร์จกลับมาที่แบตเตอรี่ 100 วัตต์...ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ในช่วงที่ไดชาร์จๆกลับคืนมา 100 วัตต์...แต่ๆแบตเตอรี่ลูกเดิมที่จ่ายไฟไปให้แบตเตอรี่ในตอนนี้จะมีภาระเพิ่มขึ้น มิเตอร์ที่แสดงการกินกระแสไฟ อาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 210 วัตต์ในระยะทางที่เท่าเดิมคือ 100 เมตร ครับ

อธิบายกระชับ ชัดเจน เข้าใจได้ง่ายค่ะ

เป็นการอธิบายให้เข้าใจระบบการทำงานของรถยนต์ไฟฟ้า และเชื่อว่าผู้ใช้รถโดยเฉพาะช่างจะมีวิธีการที่นอกเหนือเพื่อให้ได้พลังงานเพิ่มจากส่วนอื่นมาช่วยในเร็ววันนี้จะได้เห็น ตัวอย่าง เครื่องยนต์ เครื่องกลและระบบเกียร์-เฟืองทดรอบ ช่างไทยเราได้โชว์ผลงานให้จ้าวของต้นคิดถึงกับงงมาแล้ว

ตอบคำถามได้ยอดเยี่ยมครับคุณเวล มีคนถามผมบ่อยมากครับคำถามนี้

เป็นช่องที่ให้ข้อมูลดี ถูกต้องชัดเจนอธิบายดีเข้าใจง่าย ขอบคุณคลิปดีๆแบบนี้

อธิบาย​ได้​ดีมาก​ครับ​เข้าใจ​แล้ว​การทำงาน​เป็นไป​อย่าง​ที่​คิด​เลย​

ไม่จำเป็นต้องวิ่งได้ตลอดไปก็ได้นะ ถ้าสร้างรถให้มีชุดแบตสัก2 ชุด สลับชาร์จสลับใช้ไปเรื่อยๆ ไม่จำเป็นว่าต้องให้ใช้ได้ตลอดไป แต่แค่ทำให้มันยืดระยะใช้ได้ไปนานๆให้มากขึ้น ผมว่าทำได้นะ ดีไม่ดีวิ่งได้ถึง 2-3 พัน กม.เลยนะ วิธีการคือ ขณะที่แบตลูกที่1 ไปขับเคลื่อนมอเตอร์ ก็ใช้ล้อที่หมุนฟรีไปปั่นไฟชาร์จแบตลูกที่2 พอแบตลูกที่1 แบตใกล้หมด ก็สลับไปใช้ไฟจากแบตลูกที่2 ส่วนล้อที่หมุนฟรี ก็สลับไปชาร์จแบตลูกที่1 ทำแบบนี้สลับๆกันไปเรื่อยๆ ส่วนระบบการชาร์จไฟ ไม่ต้องรอรถเบรคถึงชาร์จ แต่ใช้แรงหมุนของล้อที่หมุนฟรีอยู่แล้วชาร์จไปได้เรื่อยๆ ตราบใดที่รถยังวิ่งไป ก็ชาร์จไปเรื่อยๆ แบต 1 ลูก ไม่จำเป็นต้องใช้ ความจุมากมาย แต่ระบบทำให้มันสลับกันใช้ไปเรื่อยๆ ส่วนGenerator ก็ไม่ได้มีน้ำหนักมากมายอะไรเลย

เข้าใจอยู่ครับ แต่ถ้าเป็นผมจะติดตั้งแผ่นโซล่าเซลล์

เรื่องนี้อธิบายได้ง่ายมาก ไม่ต้องถึงขั้นกฎทางฟิสิกส์ก็ได้ คือถ้าเราเกิดมากินข้าวให้อิ่มท้อง(รถไฟฟ้าชาร์จไฟให้เต็ม) แล้วไม่ต้องกินข้าวอีกเลย กินขี้เยี่ยวตัวเองที่ร่างกายผลิตออกมา(กระแสไฟฟ้าที่เกิดขณะวิ่งชาร์คืนแบตเตอรี่) วนเวียนอยู่อย่างนี้ จะเกิดพลังงานนิรันดร์หรือเปล่า? แค่นั้นเอง..

ผมว่ามีความเป็นไปได้ใหมครับพี่เวลที่รถไฟฟ้าจะวิ่งไปชาร์ไฟไปได้ครับถ้านักคิดค้นมีช่วงเวลาและอนาคตข้างหน้าคิดสร้างต่อไปครับ โดยมีการคิดค้นให้มีระบบเพิ่มพลังชาร์โดยที่ไม่ต้องเพิ่งไฟจากหม้อเจนชาร์โดยตรงมากไป ก็จะทำให้เจนชาร์ไม่หน่วงไม่เบรคมากไปด้วยครับ เดี่ยวนี้มี ตัวอุปกรณ์ ตัวเก็บปัจุไฟที่มีค่าสูงๆแล้วด้วยครับ เช่น ซุปเป้อคาปาร์ซิเต้อครับบ เป็นตัวปัจุไฟสำรองที่ใช้ไฟชาร์ที่น้อยและเร็วไม่กี่นาทีในการชาร์ตัวเค้าเองครับ ช่วยลดภาระแบตได้ด้วยครับ ช่วยเป็นตัวสำรองไฟช่วย ในการชาร์และใช้งานวิ่งด้วยครับ พลังงานแบตก็จะประหยัดขึ้นและเพียงพอต่อการใช้และการชาร์ครับ มอเต้อและอุปกรณ์ในรถยนต์ก็จะไม่ต้องพึงไฟจากแบตโดยตรงด้วยครับได้ไฟจากตัวอุปกรณ์เก็บประจุไฟสำรอง ถ้ามีไฟมากพอต่อการชาร์ เหลือต่อการวิ่งใช้งานได้ผมว่า มีความเป็นได้ครับบ ผมช่วยออกความคิดเห็นเพื่อช่วยผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าครับ

21 นาที ทำคอนเท้นต์ ออกมาได้ดีมากครับ เป็นกำลังใจให้ครับ ทำต่อไปนะครับ🥰🥰

ในโลกนี้แต่ละช่วงเวลา พัฒนาการทางความคิดและเทคโนโลยี่มันเปลี่ยนแปลงตลอดในทางดีขึ้น ที่บอกว่าทำไม่ได้ อนาคตอาจทำได้ก็ย่อมเป็นไปได้ ความคิดแย้งสร้างพลังบวกท้าทายให้นักพัฒนาหาทางค้นหาวิธีการ คนเก่าผ่านมาทำไม่ได้ คนรุ่นใหม่อาจคิดค้นทำได้ เพียงอย่าปิดความคิดว่าทำไม่ได้ตามทฤษฏีเก่าๆ

พูดถึงรถ EV ที่ติดตั้ง Solar Roof เพื่อ Regenerate ไฟกลับไปเก็บใน Battery จะมีผลิตเป็น Option ให้ลูกค้าเลือกซื้อน่าจะดี นะครับ

ผมว่ามนุษย์สามารถทำได้อยู่แล้ว แต่ยังไม่ถึงเวลา ณ ตอนนี้ ไหนจะสร้างการสร้างเซลล์แบตชนิดใหม่ สร้างแผงโซล่าเซลล์ชนิดใหม่ รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆในอนาคต สัก 10-30ปี ข้างหน้า

เอา Solar Roof มาใส่หลังคาเลย Tesla ผลิตอยู่แล้ว มาใส่หลังคาเลยครับ จริงๆผมว่าทำได้ แต่จะขายตู้ชาร์จไม่ได้มากกว่าครับ

น้องเวล ถ้าเราใช้พลังงานลมมาปั่นไดนาโมผลิตกระแสไฟให้กับแบตเตอรี่ล่ะได้มั้ยครับ โดยอาจจะออกแบบตัวรถที่ปกติมันจะต้องวิ่งต้านลมอยู่แล้ว ก็ออกแบบติดตั้งกังหันคล้ายๆใบพัดลมหลายๆตัวช่วยกันปั่นไดนาโม ปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่ จะพอได้มั้ย ถามแบบคนไม่มีความรู้เรื่องไฟฟ้ามากมายเท่าไรครับ

เวลอธิบายได้เข้าใจง่ายมากเลย ขอบคุณมากๆนะครับเวล

ใช้โซล่าแซลบางคล้ายฟีล์มติดตั้งบนหลังคาและที่ฝากระโปรงหน้าหลังวิ่งรถตอนกลางวันและจอดรถไว้กลางแดด

ก็เคยคิดไว้เหมือนกันในเรื่องนี้ มันคงจะใช้กำลังมากก็เหมือนกับจักรยานนั่นแหละ เวลาเราใช้ไฟคือ เอามอเตอร์เล็ก ๆ ที่ล้อ จะปั่นจักรยานใช้กำลังปั่นมากขึ้น

แม้แต่แผงโซล่า ก้สร้างพลังงานได้น่าจะไม่เกิน 30-50% จะสร้างพลังงานแค่ 5Kw ต้องใช้ขนาด 500W 10-12 แผง 5-7 ชม/วัน แบตรถอย่างน้อยสุด 35kw ใช้เวลา 50 ชม แต่สำคัญที่สุด ขนาดแผง 1.8x1.2ม เท่ากับ 2 ตรมx10 ต้องใช้พื้นที่ 200 ตารางเมตร มันจะดอาไปติดตรงไหนของรถได้บ้าง อันนี้เล่าให้คนบอกว่าทำไม ไม่ติดแผงโซล่าเซลไว้หลังคารถเอา

ผมว่าน่าจเป็นไปได้นะครับ โดยติดรีเจนกลับมา70% แล้วติดระบบโซล่าร์ได้อีก40% จะคืนมาสัก110% เหลือให้loss สัก10% ก็จะได้100%ตลอด ไม่มีวันหมดแล้วครับ อีกหน่อยคงมีคนทำออกมาได้แน่เลยครับ

ทำไมเราเอาแบต ไปใส่กับรถธรรมดา ไม่ได้หละครับ เหมือนแต่ก่อนที่ว่าน้ำมันแพง ก็ไปใช้แก๊สทำระบบแก๊ส ในอนาคตค่าไฟจะแพงขึ้นมากซึ่งปกติก็แพงขึ้นทุกปีอยู่แล้วพอมีรถไฟฟ้ามาก็ต้องแพงขึ้นอีกแน่ๆ สุดท้ายแล้วอาจไม่ต่างกับการใช้น้ำมัน เพราะค่าไฟแพงขึ้น เว้นแต่จะไปชาจไฟกับ แผงโซลาเซลได้

ความคิดเห็นของผมนะครับ เราก็เอาเกียมาใส่ไดนาโมครับพี่เวล ทำให้หน่วงน้อยลง ใส่ไดนาโมสัก 6 ชุด ข้างล่ะ 3 ชุด ทำให้ได้พลังงานมากขึ้น รถวิ่งไปชาจไป เกียช่วยทดรอบไดนาโม แบบนี้เราก็มีพลังงานกลับมา ไม่ต้องชาจ ตามสถานีแล้วครับ

ขอให้ช่วยแนะนำการเรียนการศึกษา​ เพื่อให้เป็นแนวทางการรองรับการปรับตัว​ การประกอบอาชีพ​ ทักษะ​แรงงาน​ ด้วยครับ

เป็นความรู้พื้นฐาน แต่หลายคนคิดไม่ถึง..ขอบคุณที่ทำให้เข้าใจระบบของรถไฟฟ้าครับ..👍👍👍👍

อธิบายได้ชัดเจนดีมาก สุดยอดครับ

ระหว่างทำความเร็ว หากมีใบพัดลมปั่นไฟได้คงดี เพราะหน้ารถทุกคันต้านลมตลอดเวลาอยู่แล้ว แรงด้วย

เข้าใจแจ่มแจ้งเลยครับ ขอบคุณมากครับที่มาอธิบายให้ฟังจนเข้าใจในระบบการใช้งานของไฟฟ้า👍👍👍

ถ้าไม่เอาไดนาโมติดล้อ แต่เราเอาไปติดพัดลมใบพัดเพื่อปั่นไฟล่ะครับ

ชัดเจนเจ้าใจง่าย คุณเวล

อย่างระบบ e-power ของนิสสัน ใช้เครื่องน้ำมันปั่นไฟ ชาจแบตแล้วส่งไปมอเตอร์ส่งกำลังขับ👉ทำไมไม่เปลี่ยนใช้มอเตอร์ส่งกำลังหลักปั่นไดชาจไปด๋วย เพื่อเลี้ยงแบต แล้ววนมาเลี้ยง มอเตอร์ส่งกำลังหลัง

ถ้ารถ EV สามารถติดไดนาโมให้วิ่งไปชาร์จไปได้นี่มันจะ = free energy ชัดๆ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ มันขัดกับกฏอนุรักษ์พลังงาน ใครคิดได้นี่เตรียมขึ้นเวทีรับรางวัลโนเบลได้เลย

รถอืดต้องใช้พลังงานมาก คิดว่าคงเหมือนเดิม ไช้พลังงานมาจากแสงแดดประกอบกะไฟฟ้ารถจะใด้ระยะทางมากขึ้น แบบนี้เหตุผลพอฟังใด้

ทำสำเร็จมาแล้วจ้า เมื่อ6ปีก่อนที่สุโขทัย ไปดูคริปได้ในยูทปนี้แหละ

ฟังอาจารย์​เวล.​ เลคเชอร์​ แล้วกระจ่าง บรรลุ​ เลยครับ... เหมือนใส่ไป​ 100​ ได้คืนมา​ 70 หรือคนอยากถูกหวยทุกงวด​ แทงเลขท้ายมันทุกเลข​ จ่ายไปกับได้คืนไม่เท่ากัน

ใช่ครับ ทำไมไม่ทำ หรือเช่นทำไมไม่ติดตั้งแผงโซล่าเซลไว้บนหลังคาเป็นต้น เพราะแดดบ้านเราแรงมากและมีทั้งวัน ถ้าติดไว้คงไม่กลัวการจอดตากแดดอีกต่อไป จะชาร์ตได้มากน้อยแค่ไหน ก็ยังดีกว่าไม่ได้ชาร์ตเลย

ควนทำเป็นแบบสำเร็จรูปออกมาขายเลย..รับลองขายดีทันที...ทำออกมาขายเลย...

ต้องมีชุดคำสั่งให้ไดนาโมชาร์จเเบตเเบ่งเป็น 2 ส่วน -ส่วนที่ชาร์จไม่ให้ใช้ -ส่วนที่ใช้ไม่ให้ชาร์จ ไม่ต้องให้วิ่งย้อนไปย้อนมาสลับเพื่อใช้เเละชาร์จ หรือเขากักไว้เอาเหตุผลนั้นนี้มาอ้างเเค่ไม่อยากให้เราใช้พลังงานฟรี

ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้เยอะขึ้นมากครับ

ขอบคุณครับ คิดมานานแล้ว แต่ก็คิดไว้แล้วว่ามันต้องมีเหตุผล เพราะไม่มีใครทำ มีเรื่องหนึ่งเคยเห็นคลิปในประมาณในอินเดีย เค้าแปลงล้อมอเตอร์ไฟฟ้ามาติดล้อหน้าแล้วก็ยังสามารถขี่ด้วยน้ำมันได้ปกติ มันพอจะเป็นไปได้จริงหรือสามารถพัฒนาต่อได้ไหมครับ ขอบคุณครับ

ทำได้ครับ ในเมื่อมอเตอร์ทำหน้าที่เป็นพลังงานกลได้แต่พอเบรคหรือถอนคันเร่ง มันก็สามารถ reverse กลับมาเป็นไดหรือ ออเทอเนเตอร์ ส่งกระเเสไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ ที่เรียกว่า รีเจนเนอเรทีปกลับมา ประมาณ 5% ในเมื่อมันเป็นเช่นนั้นได้ ทำไมเราถึงจะผลิตกระเเสไฟฟ้าให้ได้ 100% ไม่ได้ละครับ โดยใช้ระบบ เกียร์ทดเข้ามาช่วย ระหว่างล้อแม็กรถที่เป็นต้นกำลัง และแกนเพลาของมอเตอร์ แล้วลองคำนวณหาจากการทดกำลัง 1:5 ,1:50 หรือเท่าไหร่แล้วแต่ เพื่อดูว่า กระแสไฟ ที่ได้กลับมากี่% ดังนั้นเมื่อวิ่งทางไกลมากๆกระเเสไฟน่าจะมาให้ ต้องทดลองเท่านั้นถึงจะเกิดได้ว่าจริงหรือไม่

ทุกอย่างก็ต้องมีการสูญเสียครับ มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย เครื่องยนต์สันดาปก็ยังมีการสูญเสียเหมือนกันครับเผลอๆ จะมากกว่ามอเตอร์ไฟฟ้าชักอีกครับ ได้ไฟกับมา 70% ก็ดีครับ ( แต่มีอีกตัวนึงครับที่ผมชอบมากที่สุดคือระบบหมุนเวียนมอเตอร์ เอามอเตอร์ต้นกำลังไปหมุนไดนาโม ไดนาโมก็ผลิตไฟให้กับมอเตอร์ต้นกำลังเป็นแบบหมุนเวียนไม่มีวันหยุดครับ มอเตอร์ก็ทำงานตลอดไม่ต้องพึ่งพาน้ำมันครับ )

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆนะครับ

ตอบคำถามได้ยอดเยี่ยมมากๆครับ ติดตามดูทุกคลิปครับผม ในช่วงที่น้ำมันแพงเอาๆ แบบนี้ ตอนนี้ก็เริ่มสนใจมามองรถไฟฟ้าบ้างแล้วล่ะครับ

หลักคิด นิดเดียว ประสิทธิภาพ จะลดลง เสมอ เมื่อ มีการ เปลี่ยน สถานะ ไม่ว่าจาก น้ำมัน ไป ความร้อน ไป สู่ แรงกล

ดีครับ​ ขอบคุณ​ ที่นำเสนอความรู้เรื่องรถ​ EV​

ผมมองว่าทำได้ครับ ถนนมันมีราบเรียบ มีขึ้น มีลง ส่วนที่ผลิตไฟได้คือทางราบกับทางลงครับ ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ สั่งให้ไดนาโมทำงานตามจังหวะในส่วนของทางลง ส่วนทางราบให้สำพันกับความเร็วและแรงม้าครับ

ดีมากเลย. ขอบคุณครับ. 👍🤩😍

ใช่ เคยคิด เหมือนมอเตอร์จักรยานตอนเด็ก ปั่นไฟหมุนมาเก็บในแบตและสะสมขณะรถวิ่ง และวนเอามาใช้

สงสัยมานานแล้วครับช่องนี้ ทำให้รุ้ความจริง❤❤❤

มันเป็นไปได้อย่างรวดเร็วสุดยอด

ถ้าติดระบบไดชาร์ท มันจะหนักมากๆ มันถึงทำระบบชาร์ทในตัวยาก

ติดแล้วรถมันจะรับภาระเพิ่มขึ้นได้อย่างไรขนาดหมุนอัลเตอเนเตอร์ด้วยมือเปล่ามันยังหมุนได้เลย มันต้องมามองที่ RPM ของล้อกับไดครับเพื่อหาทางทดรอบ ทำได้ครับ

ใช้แรงจากการไขลาน แบบนาฬิกาแต่ทำให้ใหญ่ขึ้น ขดสปิงแข็งและหลายชั้นขึ้น ไปปั่นไดนาโม เราใช้มือหมุนไขลานเป็นระยะ แบบนี้ หรือออกแบบ ให้ไช้เท้าซ้ายที่ว่างอยู่ เหยียบไขลานไปเรื่อยๆ..แก้ง่วงนอน ได้ด้วยครับ👍

ขอบคุนครับให้ความกระจ่าง

ขอบคุณครับ..ครบจบคลิปเดียวเลย..

ทำได้นะครับ แต่ผมไม่ของอธิบายรายละเอียด ผมทดสอบทำการวิธีที่อธิบายมากหมดแล้ว แต่อยากได้ของมลูของการชาร์ไฟฟ้า แรงดัน V กระแส A ที่ชาร์จเข้า แบบเตอรี่ อีกประเด็นผมขาดวิศกรกรรมให้การออกแบบวงจรอิเล็กทรอนนิก ขาดทุนในการสร้าง บอกได้นิดหน่อย ไดนาโม กับ เจนเนอเลเตอร์มัน(ไดชาร์จรถยนต์) ต่างกัน พลังงานอาจกินนิดหน่อยขึ้นอยู่กับกระแสที่ชาร์จ แรงบิดแปลผันความเร็วรอบ/นาที ........ถ้ามากกว่านี้ผมก็ไม่ได้ค่าไอเดียเสียเวลาเสียเงิน ใช้เวลากว่า 5 ปี ลองผิดลองถูก

เครื่องปั่นไฟฟ้า โดยใช้น้ำมันมาปั่นไฟให้ มอเตอร์ 3 เฟส ให้กำลังรถดีกว่า ให้เอามาลงให้ความรู้ หน่อยครับ

เหมือนการเอาเฟืองใหญ่ไปหมุนเฟืองเล็ก แล้วให้เฟืองเล็กไปหมุนกลับไปที่เฟืองใหญ่ การหมุนมันจะค่อยๆช้าลง ไม่มีทางที่มันจะหมุนไปด้วยความเร็วเท่าเดิมตลอดไป เพราะการสูญเสียพลังงาน และแรงเสียดทานต่างๆ

แบตเตอรี่-->DCมอเตอร์-->เกียร์-->ล้อ/กังหันลม/แผงโซลาร์เซลล์-->Charger-->แบตเตอรี่

ใครทำได้ รางวัลโนเบลยังน้อยไปเลย เพราะมันทำลายกฏเทอร์โมไดนามิกส์ที่ใช้กันมาหลายร้อยปียับเยินเลย

1.สร้างไดนาโม ขึ้นมาใหม่ โดยใช้ร่วมกับเพลารถยนต์ แกนเดียวกัน 2. แยกแบตเตอรี่เป็น 2 ชุด จ่ายไฟก้อนหนึ่งเก็บไว้ก้อนหนึ่ง แล้วสลับกันใช้

ขอบคุณ​ข้อมูล​ดี​ๆ​ ครับ

มันเป็นการตลาดครับ ต้องทำอย่างไม่ดีมาขายก่อน

Free energy generator สามารถสร้างได้ครับ แค่แก้สมาการ จะผลิตกำลังไฟฟ้า 1 kw. ต้องใช้แรง 1.4 hp

ก็แบบเดียวกับโทรศัพย์มือถือใช้ไปชาร์จไปสรุปแบตเสื่อมเร็วกว่าปรกติเพราะแทนที่จะนับจำนวนชาร์จทุกครั้งที่จอดชาร์จหลังแบตเหลือต่ำกว่า30%กลายเป็นชาร์จตลอดเวลาที่เหลือคิดเอาเอง

ความรู้จุกๆไปเลยค่ะคลิปนี้

คุณเวล ถามเป็นความรู้หน่อยนะครับ เราเคยเห็นบางประเทศที่ใช้คลื่นทะเลผลิตไฟฟ้าใช่มั้ยครับ คือการที่ทุ่นกระเพื่อมขึ้นลงใช่หรือเปล่าครับ ถ้าใช่ผมว่า ก็น่าจะนำมาใช้ในรถยนต์ได้นะครับ โดยการติดตั้งที่โช้คอัพ คุณเวลว่ามีความเป็นไปได้มั้ยครับ เพราะบ้านเราเหมาะมากๆ หลุมเยอะดี😅😅😅 เข้าเรื่องต่อครับ ผมว่าโช้คอัพรถยนต์ก็ทำงานพอสมควรมีการขยับตลอดเวลาที่เราขับ แล้วก็มีติดตั้งทุกล้อ น่าจะนำพลังงานตรงนี้มาใช้ได้นะครับ อยากเห็นคนไทยวิจัยและก็ทำได้ ทำก่อนประเทศอื่นบ้างก็ดีนะครับ เท่านี้แหล่ะครับคุณเวล ขอบคุณครับ..! 🎉🎉🎉

ข้อมูลดีมากครับมีประโยชน์

ระบบDC fast charge. ไม่ได้คุยกับรถครับ..ที่ขั้วเต้ารับแบบDCที่รถเมื่อเสียบปลั๊กจากตู้ต่อสายกันแล้ว ตู้ชาร์จจะวัดแรงดันไฟฟ้าแบตเตอรี่ของรถว่ามีแรงดันเท่าไหร่ และสั่งปรับการจ่ายกระแสไฟฟ้าชาร์จให้กับแบตเตอรี่ โดยที่ไม่เป็นอันตรายต่อแบตเตอรี่คือแบตร้อนจนเกินไปครับ

รถก็วิ่ง ทำไมไม่ใช้ลมช่วยปั่นไฟละครับ ใช้ลมจากความเร็วรถมาช่วยปั่นไฟ

อธิบายได้ดีมากเลยคะ สนใจรถ EV กลัวสุดคือตอาฝนตก แล้วบริเวณถนน มีน้ำท่วมล้อแบบเกือบเต็มล้อ แบบนี้มันจะช้อตเราไหม..ถามคนขายรถ EV ไม่มีใครตอบ ...เลยรอก่อนคะ😂

สุดยอดมากครับ

ถ้าใช้กังหันปั่นเวลารถวิ่งเร็วด้วยหล่ะครับ นอกจากจะลดความเร็วปั่นไฟ ใช้กังหันปั่นเวลาวิ่ง จะเป็นไปได้ไหมครับ ปั่นไฟสองระบบอะครับ ผมว่ามันได้ไฟเพิ่มจากที่จะชลอแล้วปั่นไฟกลับอย่างเดียวนะครับผมว่า

ระบบรีเจ็นมีใช้งานมาตั้งนานแล้วในรถไฟเมืองไทยนี่แหละรถไฟที่วิ่งออกจากหัวลำโพง ลองก้มดูที่ตู้โดยสารทุกตู้จะมีมอเตอร์ไฟฟ้าไว้ขับเคลื่อนตอนรถไฟใช้ความเร็วต่ำมีเจ็นปั่นไฟที่หัวรถจักรมีแบตไว้จ่ายไฟเสริมมีระบบรีเจ็นช่วยหน่วงความเร็วลดภาระเบรคและชาร์จไฟกลับเข้าแบต

ถ้าเป็นรถปิคอัพ หรือบรรทุกที่มีเพลาร้อ ก็น่าทดลองนะครับ โดยให้เพลาล้อเป็นแกนไดนาโม แล้วติดขดลวดรอบเพลา...อยากหให้ทดลองแล้วส่งข่าวด้วยครับ

เราคนชนบท ไช้รถนํ้ามัน หย่าไปติดกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เรายังไม่รู้แจ้ง แต่ฟังแล้วไช้ไม่นานแบตหมดอายุ ต้องชื้อแบตใหม่ ราคาหลายแสนฟังดูก็ตกใจ ไฟฟ้า นํ้ามัน แบบใหนคุ้ม นี้คิดว่าสู้รถนํ้ามันไม่ได้เลย รถนํ้ามันพันซี ซี โลละบาทกว่า รถไฟฟ้าก็โลละบาท แบบนี้ก็สู้รถนํ้ามันไม่ได้ ไม่ต้องกังวนเรี้ยงปั้มชาต นํ้ามันมีทุกจุด

ควรจะพยายามฝึกออกเสียง ร.เรื่อให้ชัดครับ ready mode ก็กลายเป็น Lady mode คันเล่ง แบตเตอลี่ คุณต้องออกเสียงคำเหล่านึ้อีกหลายล้านครั้ง น่าจะเพียงพอสำหรับการฝึกออกเสียง ร.เรือได้

สมมติ พลังงาน100ระยะทาง 80กม แต่ถ้าชาร์จไฟด้วย อาจเหลือ 40กม ยกเว้น. รถไหลลงจากความสูงแล้วชาร์จเลย ได้ประโยชน์แน่นอน หรือเราเปรครถชาร์จเลย. โอเค

ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ

รถพลังแสงอาทิตย์(โซลาเซลล์)เหมาะกับประเทศไทยที่สุดเพราะเป็นเมืองร้อนไม่มีหิมะตก ขับไปก็ชาร์ทไฟเข้าแบตฯเรื่อยๆ หรือไม่ขับแต่จอดตากแดดก็ชาร์ทไฟเข้าแบตตลอดเก็บเอาไว้ใช้ยามค่ำคืน น่าจะประหยัดมาก เพียงแต่ต้องคิดทำแผ่นโซลาเซลล์ที่มีขนาดพอเหมาะ เข้ากับรูปทรงของรถได้ลงตัวสวยงามและมีประสิทธิภาพในการรับแสง..แบตฯก็ต้องมีขนาดและน้ำหนักพอเหมาะกับรถและมีคุณภาพสูงในการเก็บพลังงาน อีกทั้งทนทานมีอายุการใช้งานนานและราคาไม่แพงนัก..ความเร็วได้สัก100ก.ม./ช.ม.ก็นับว่าเหมาะสม..หากทำได้แบบนี้น่าจะโดนใจผู้บริโภคมากกว่ารถไฟฟ้าแน่นอน.

งั้นผมว่ารถไฟฟ้าจะต้องติด เครื่องปั่นไฟโดยใช้น้ำมัน อาจมีถังเอาไว้เติมสัก 10 ลิตร เพื่อกรณีไฟเหลือ 20% ระบบไดปั่นไฟก็จะทำงาน หรือสั่งเปิดปิดโดยคนขับได้ เพราะกรณีที่ไปในจุดที่ไม่มีที่ชาร์ทไฟจริง ๆ ก็ยังสามารถเติมน้ำมันในการใช้ปั่นไฟได้ โดยไม่ต้องเพิ่มเครื่องยนต์สำหรับน้ำมัน

Well done! เวลดันการันตีสมชื่อช่องจริง ๆ ...

กฏอนุรักษ์พลังงาน ถูกฉีกไปแล้วโดยลุงชื่น #เครื่องปั่นไฟลุงชื่น

พลังงาน output มากกว่า input กำลังมีการทดสอบกันอยู่ครับแต่ก็อีกนานกว่าจะสำเร็จเนื่องจากมีการคิดค้นหลักการได้แล้ว กำลังมีการทดสอบในระยะเริ่มต้นกันอยู่ เมื่อทำสำเร็จแล้วก็ต้องพัฒนาเรื่องการควบคุมให้ได้ก็อาจจะใช้เวลาอีกเป็นร้อยถึง 200 ปี ซึ่งทำการทดลองอยู่ที่สถาบัน​ C.E.R.N ใช้เงินลงทุนไปมหาศาลมากนั่นคือหลักการบิกแบง แต่ไม่มีใครพูดถึงประเด็นนี้ พูดถึงแต่ประเด็นของการก่อกำเนิดจักรวาล

ทำแบบขับเคลื่อน 4 ล้อซิครับ เครื่องยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง ทำงานแยกอิสระจากกัน ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าประมาณ 200 กิโลเมตร พอแบตหมดใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อนต่อพร้อมชาร์จแบตเตอรี่เมื่อแบตเตอรี่เต็มกลับมาใช้มอเตอร์ไฟฟ้าอีก สลับไปมา ถ้าอยากขับ4วีลก็ใช้ทั้งเครื่องและมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมกัน

สวัสดรคับคุนเวล ข้อมูลเยี่ยมเลยคับ

ความคิดเหมือนผมเลย ในเมื่อล้อรถมันต้องหมุนอยู่แล้ว มันก็เหมือนใบพัดไดนาโมพลังงานลม หมุนใบพัดเพื่อมาทำไฟฟ้า อนาคตทำได้แน่นอน

แผงต้องผลิตไฟได้สูง แบตต้องเบาแอมต้องสูง ส่วนมอเตอร์ถ้าเป็นdcได้ก็จะบดอุปกรณ์และหาที่ชาตได้ง่ายขึ้น ถ้าเอาล้อมอไซด์3000วัตใส่4ล้อแบต72โวล600แอมลองวิ่งทดสอบดูมันจะเป็นอย่างไร

รีเจน ทำงานเฉพาะตอนเบรค หรือลดความเร็ว และตอนวิ่งลงเขา ได้มา นิดหน่อย ไม่ได้มาก แต่ก็ควรหาทางเอามาใช้ให้มาก ให้ครบ เพราะมันดีกว่าเป็นความร้อนทิ้งที่เบรค

ฟังจนจบถึงบางอ้อเลย เราก็เข้าใจเหมือนกับหลายๆคนคิดกัน เช่นเดียวกัน😔

ตอนใช้งาน อาจจะแฮปปี้ แต่ตอนแบตฯเสื่อม ต้องเปลี่ยนแบตฯนี่แหละ พอๆน้องๆกับซื้ออีโก้คาร์เลย หากต้องซื้อทั้งก้อน

แนะนำครับคือใช้พลังงาน แม่เหล็กผลิตกระแสไฟฟ้า แทน น้ำมัน เหมือน อีเพาเว่อ

ชัดเจนครับ ขอบคุณครับ

คิดง่าย รถยนต์ คือ Load(น้าหนัก) ใช้ไปก็หมด ผลิดแทนได้ก็ไม่เท่าการจ่ายไฟ มันก็จะค่อยๆหมดไปเอง

ทำไมไม่ทำแบบเก็บปะจุไฟฟ้าร่วมด้วยกับแบตเตอรี่?มี-Capacitor--มีไฟฟ้าสำรองอยู่ตลอดเวลาเลย?คงอีกไม่นานคงมีใครสักคนแน่นอนค้นคว้าคิดค้นได้สำเร็จแน่นอน?จะได้ใช้รถไฟฟ้าถูกๆลงมาได้ด้วย

อยากให้แอดฯ ช่วยอธิบายเกี่ยวกับรถไฮบริดครับ ว่ามีกี่แบบ และแบบไหนมีข้อดีข้อด้อยอย่างไร เช่น การใช้มอเตอร์กับเครื่องยนต์ช่วยกันขับเคลื่อน หรือ ใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟอย่างเดียวเพื่อให้มอเตอร์ขับเคลื่อนอย่างเดียว เป็นต้นนะครับ..ขอบคุณครับ 🙏