วิเคราะห์  

1️⃣ คำว่า Crisis Interview คือการให้สัมภาษณ์เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่มันเลวร้ายนะครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคนที่ถูกสัมภาษณ์ ถ้าท่านเป็นผู้ถูกสัมภาษณ์นะท่านทำผิดอะไรสักอย่างหนึ่งหรือต้องแบกรับภาระที่มีคน อื่นทำผิดแต่มันอยู่ใต้ความรับผิดชอบของท่านนะครับ ในทางการแพทย์เราเจออยู่เรื่อยๆนะครับ เราจะสังเกตว่าเวลามีคดีอะไรเกี่ยวข้องกับแพทย์ขึ้นมาทางผู้อำนวยการนี่แหละครับจะต้องออกมาให้สัมภาษณ์นั่นก็คือ Crisis Interview อย่างหนึ่งนั่นเองนะครับ และทุกๆอาชีพนะครับ ผมคิดว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยไปจนเรื่องใหญ่ เรื่องเล็ก น้อย เช่น การที่คุณยอมรับผิด อาจจะเป็นเด็กไปแกล้งเพื่อนแล้วเด็กโดน ครูมาสอบซักนะครับนั่นก็คือ Crisis Interview อย่างหนึ่ง แต่พอโตขึ้นมามันก็จะมีเรื่องที่ใหญ่มากขึ้น เช่น ความผิดในหน้าที่การงาน หรือความผิดในโรงพยาบาลแบบใหญ่ๆอย่างนี้นะครับ แล้วก็ในกรณีของ The Icon นี้คือเป็นความผิดที่มีมูลค่ามากมายมหาศาลแล้วก็มีผู้เสียหายเยอะแยะไปหมดนะครับ ดังนั้นวันนี้ผมก็เลยอยากจะมาวิเคราะห์ Crisis Interview ของคุณบอสพอลนะครับว่าเป็นยังไงบ้าง ผมต้องบอก ไว้เลยนะครับ บอสพอลเป็นคนที่ทำ Crisis Interview ได้ดีมากอย่างหนึ่งนะ เริ่มต้นเลยนะครับ

2️⃣ 💢อย่างแรกการทำ Crisis Interview ที่ดีนะครับคุณจะต้องรู้ข้อมูลทุกอย่างก่อน จะต้องรู้ Fact นะครับ รู้ข้อกฎหมาย แล้วก็รู้ขีดจำกัดของตัวเองไม่ให้เกินนั้นนะฮะเวลาให้ความสัมภาษณ์อะไรต่างๆก็ต้องรู้พวกนี้ให้เรียบร้อยซะก่อน แล้วแน่นอนถ้าเราลองจำลองตัวเองว่าเป็นบอสพอลเข้าไปในที่สัมภาษณ์แน่นอนผู้เสียหายเยอะแยะใช่ไหมครับทุกคนก็อารมณ์ร้อน กำลังโมโห กำลังอยากจะเรียกร้องความเป็นธรรม อยากจะได้ของคืน ได้เงินคืน ทุกคนโกรธหมดนะครับ ทุกคนกะมาเผชิญบอสพอลเต็มที่โดยเฉพาะถูกไหมครับ คุณคิดดูถ้าเกิดคุณต้องเดินเข้าไปสถานการณ์แบบนั้นคุณจะทำยังไง 🔺ประการแรก คุณสังเกตไหมครับว่าบอสพอลเขาแต่งตัวแตกต่างไปจากปกติที่เขาทำอย่างยิ่งเลย หน้าไม่แต่ง ไม่มีแต่งหน้าเลยแม้แต่น้อยนะครับ เสื้อผ้าใส่ธรรมดามากไม่มีแบรนด์เนมให้เราเห็น ไม่มีนาฬิกาหรูให้เราเห็นชัดๆเท่าไหร่ถูกไหมครับ แล้วก็เวลาที่เขานั่งเขาจะนั่งก้มค้อมตัวนิดนึงนะครับโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วก็ตั้งใจฟังมากนะครับ นี่คือลักษณะที่ดีของคนที่ทำ Crisis Interview นะครับ

3️⃣ 🔺ต่อมาเวลาที่เราเจออารมณ์ร้อนนะครับ คุณลองคิดดูถ้าฝ่ายคุณเป็นฝ่ายผู้เสียหายแล้วมีคนที่อยู่ข้างหน้ามาให้คุณรุมยำสิ่งที่คุณคิดในหัวเลยก็คืออีกฝ่ายจะมาลูกไม้ไหน จะต่อสู้คุณยังไงใช่ไหมครับ คุณคงไม่คิดหรอกครับว่าเขาจะยอมแพ้ถูกไหม ถ้าคุณคิดให้แตกต่างไปเลยบอสพอลมาถึงปุ๊บขอโทษ ร้องไห้ แสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง มันทำให้คนสัมภาษณ์ไปต่อไม่ถูก คนที่เป็นผู้เสียหายอารมณ์เย็นลง และที่สำคัญไปกว่านั้นคือใครรู้ไหมครับ คนที่ไม่เคยติดตามเรื่องนี้มาก่อนเวลาที่คนที่ไม่เคยติดตามเรื่องนี้มาก่อนแล้วเห็นแบบนี้เขาจะรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้น่าสงสาร เขาไม่น่ารู้อะไร คือมันไม่มีใครมองได้หรอกครับว่าในครั้งนั้นที่ร้องไห้จะเป็นการร้องไห้ด้วยความจริงใจหรือไม่จริงใจ การมองไม่ได้มองง่ายๆนะครับมันไม่ได้อยู่ๆมองออก ยกเว้นว่าท่านจะรู้ภูมิหลังของเขามาก่อนว่าคนๆนี้เขาอาจจะแสดงเก่งเขาอาจจะร้องไห้เก่งมาก่อน เขาร้องไห้แล้วก็เปลี่ยนสีหน้าได้อย่างรวดเร็ว ถ้าอย่างนี้ท่านก็อาจจะรู้ว่าอันนี้มันก็มีแนวโน้มนะว่าอาจจะเป็นการร้องไห้จริงๆก็ได้ หรืออาจจะเป็น การแกล้งร้องไห้ก็ได้ทั้งคู่นะครับ เพราะว่าท่านรู้ภูมิหลังของเขา แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ครับเพราะว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้ใกล้ชิดกับบอสพอลถูกไหมครับ ดังนั้นเวลาที่เขาเห็นคนร้องไห้เขาก็คิดว่าร้องไห้ตามบริบทของสิ่งที่กำลังโดนพาดพิงถึงนั่นก็คือความเสียหายซึ่งเกิดขึ้นเต็มไป หมดจากคนที่ขายของไม่ได้ สูญเสียรายได้ต่างๆ ต้องไปเป็นหนี้เขา บางคนก็เสียชีวิตไปด้วยนะครับนั่นก็เป็นปัญหา เขาก็ร้องไห้ตามบริบท ดังนั้นการออกมายอมรับ ยอมแพ้ ร้องไห้ ไม่อยากมาในวันนี้มันทำให้คนทั่วไปฟังแล้วก็รู้สึกว่าเย็นลง เริ่มนิ่ง เริ่มถอยนะครับ และถ้าตอนนั้นน่ะพี่หนุ่มไปถามเขาในขณะที่ร้องไห้อยู่นะครับคนส่วนใหญ่ที่เขาไม่เคยรู้ เรื่องนี้มาก่อนก็จะมองพี่หนุ่มเป็นตัวร้ายทันทีถูกไหมครับ คนกำลังร้องไห้อยู่เราไปทับถมไปอะไรตอนนั้นไม่ได้เราก็ต้องให้เขาพักก่อนนะครับ จะเป็นการรีเซ็ตบรรยากาศจากที่ไฟแรงกำลังจะแผดเผาก็นิ่งสงบ ดังนั้นเวลาที่คุณต้องเป็นฝ่ายรับผิดสิ่งแรกที่คุณจะต้องแสดงให้เขาเห็นเลยก็คือคุณยอมรับผิดโดยกาย วาจาและใจ สีหน้า ท่าทางการแสดงออกไปทางนั้นหมดนะครับ และมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งซึ่งบอสพอลมีอย่างยิ่งเลยนั่นก็คือการตั้งใจฟัง

4️⃣ คุณสังเกตไหมครับเวลาทุกๆครั้งที่ผู้เสียหายพูดอะไรสักอย่างบอสพอลเขาจะมอง เขาเอามือไว้ข้างบนโต๊ะเป็นการแสดงความเปิดเผย เขาไม่ซ่อนไว้ข้างล่างนะ ถ้าซ่อนไว้ข้างล่างใต้โต๊ะอย่างนั้นมันอาจจะอะไรก็ได้ยุกยิกยุยิกก็ได้นะครับ แต่ว่าการที่เอามือมาไว้บนโต๊ะแปลว่าเขาเปิดเผย โน้มตัวมาข้างหน้า ตั้งใจฟังแล้วก็พยักหน้าไปกับคำพูดต่างๆ เช่นเขาพูดว่ามันมีแย่อย่างนั้นแย่อย่างนี้ บอสพอเขาก็ไม่ปฏิเสธ ไม่เถียง ไม่อะไร เขาพยักหน้ารับฟังแล้วก็แสดงสีหน้าไปตามสิ่งที่มันสมควรด้วยนะครับ ไม่ใช่แสดงสีหน้าที่ไม่เชื่อ หรือถอยหลังกลับนะครับ ถ้าเกิดว่าเมื่อไหร่บอสพอลเขากอดอกอย่างนี้ก็แปลว่าเขาไม่ค่อยเชื่อ หรือว่าเขาถอยหลังพิงพนักเก้าอี้ หรือทำหน้ามองอย่างนี้ 7:38 ก็แปลว่าเขาไม่เชื่อ ดังนั้นการที่เราจะทำ Crisis Interview ที่ดีเราต้องเป็นผู้ฟังที่ดีก่อนเลยซึ่งบอสพอลมี เขาจึงเอามือไว้ข้างบน โน้มตัวไปข้างหน้า พยักหน้าตามสิ่งที่คุณพูด อันนี้ผมมองว่าเป็นจิตวิทยาที่ขั้นสูงและต้องบังคับตัวเองให้เก่งมากเลยนะเพราะถ้าบังคับตัวเองไม่เก่งนะทำแบบนั้นไม่ได้นะครับ แล้วนอกเหนือจากท่าทางแบบนั้นไม่ใช่แค่นั้นครับทุกๆประโยคที่บอสพอลพูดไม่เคยหลบสายตาเลยครับ คุณสังเกตไหม ถ้าเกิดคนที่รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองพูดหรือตั้งใจจะพูดเท็จหรือทำไม่เนียนเขาจะเลิ่กลั่กแล้วจะไม่กล้ามอง เขาอาจจะมองพื้น มองไปข้างหลัง มองหาคนมาเป็นตัวช่วยเขา ไหนดูซิว่าในห้องนี้มีใครที่เป็นพวกเราได้บ้าง หรือเขาไม่ได้มาคนเดียวถูกไหมครับ บอลพอลเขามีทีมของเขาก็น่าจะหันไปทางนั้นบ่อยหน่อยใช่ไหม น่าจะหันไปมองแบบส่งสัญญาณ แต่บอสพอลไม่มีเลยนะครับเขามองไปที่คนซึ่งกำลังพูดกับเขาอยู่ ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่ต้องฝึกกันเลยทีเดียวนะครับ อย่างผมก็เคยต้องทำ Crisis Interview แบบนี้มาก่อนนะครับแต่ไม่ได้ถึงขั้นแบบใหญ่ขนาดนี้นะครับ ผมก็ยังต้องหัดเลย นะเพราะว่าถึงเวลานั้นมันจะประหม่ามากนะครับ มันจะประหม่าจริงๆแล้วเราไม่เคยทำมาก่อนนะครับเราก็ต้องนิ่ง มอง เปิดเผยเสมอ

5️⃣ ดังนั้นเรื่องท่าทาง เรื่องการแต่งตัว เรื่องการออกมาขอโทษ เรื่องการแสดงความนอบน้อมต่อผู้ที่เสียหายผ่านหมดทุกข้อ 💢ทีนี้ต่อมานี่แหละสำคัญ สำคัญมากๆ ตรงนี้ผมคิดว่าหลายคนอาจจะไม่เคยคิดถึงด้วยซ้ำไป เขามาครั้งนี้เขาต้องตั้งจุดประสงค์หรือเป้าหมาย ของการมาสัมภาษณ์ครับ สำหรับผมผมมองว่าเป็น 2 อย่าง 🔺เป้าหมายระยะสั้น 🔺และเป้าหมายระยะยาวครับ เป้าหมายระยะสั้นที่ต้องการได้จากการมาสัมภาษณ์ครั้งนี้ 🔸ข้อแรกก็คือเขาออกมาเพื่อที่จะลดทอนความรุนแรงของสถานการณ์นะครับ แสดงให้คนทั่วไปเห็นว่าเขาออกทีวีแล้วมีลักษณะที่ดูนอบน้อม ไม่เถียง ไม่อะไรทั้งสิ้น เขาโอนอ่อน เขาาเห็นใจ อันนี้มันออกสู่สาธารณชนนะเขาต้องทำตัวแบบนี้ แต่ถ้าเกิดไปในศาลซึ่งมันไม่มีการถ่ายทอดอาจจะเป็นอีกแบบนึงก็ได้ อันนี้ไม่มีใครทราบได้นะครับ ดังนั้น อันแรกก็คือแสดงให้สาธารณชนรับรู้ว่าเขาทำแบบนี้นะครับ มีการคิดว่าจะเยียวยาเพราะว่าตอนสุดท้ายเพูดเรื่องของการเยียวยาถูกไหมครับ อย่างที่มีผู้เสียหายคนหนึ่งได้โอนไป 170,000 เลยนะครับตั้งแต่ตอนนั้นก็แสดงว่า Commit คือมีความชัดเจนว่าฉันต้องการช่วยจริงๆไม่ใช่พูดเฉยๆแล้วก็ไม่ช่วยนะครับนี่คือการช่วยจริงๆมันทำให้คนที่เป็นผู้เสียหายรู้สึกว่าดีนะอย่างน้อยเขาก็ยังสำนึกผิด อย่างน้อยเขาก็ยังทำแบบนี้ มันจะทำให้ความโกรธความโมโหบางทีลดลงไปได้เอง แต่แน่นอนไม่ใช่ลดลงไปเหลือศูนย์ครับมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว มันเป็นไปไม่ได้แต่อย่างน้อยมันก็ดีกว่าตอนแรกสุดถูกไหมครับ ดีกว่าตอนแรกสุด เพราะว่าคุณลองคิดดูถ้าเกิดบอสพอลเข้ามาในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ แต่งตัวอู้ฟู่หรูหราร่ำรวยเหมือนตอนปกติที่เขาพูดบนเวทีหรือตอนถ่ายรูปต่างที่ต่างๆ

กรณีนี้เรียก Psychopath หรือไม่ครับ? รบกวนถามเพิ่มนิดนุง??

วันนั้นที่ดู นางนิ่งทำตัวน่าสงสารจนเราเกือบจะเชื่อแล้วนะนั้น เตรียมตัวมาดีมากๆ 😅

มีสองปัจจัยครับ 1. บอสมีทักษะวาจาที่เก่ง ไม่งั้นคงไม่สามารถพูดโน้มน้าวใจคนได้เป็นหลักพันหลักหมื่นขนาดนี้ ซึ่งแน่นอนเรื่องการเตรียมการก็ต้องมีทักษะเช่นกัน ซึ่งผมว่าถ้าออกมาพร้อมกับดาราคนนั้น มันน่าจะเรียกความน่าสงสารได้บ้าง แต่นี่คือหายไปเกือบสองวันแล้วโผล่ออกมา ก็ตีความว่าเตรียมตัวเรื่องราวมาพอสมควรและคงทำเรื่องหาทนายมาด้วย และ2. ฝั่งพิธีกรรายการ แสดงจุดอ่อนเช่น การตั้งคำถามและ Bias สูงมาก มันเลยทำให้ชูฟังบอสได้ดี คนรอบข้างผมยังบอกเลยว่า ครั้งนี้รายการก็เอาเขาไม่ลงจริงๆ

(

พี่คิดเหมือนหนูเลย

จริง เห็นด้วย ภาษาที่เค้าแสดงออกซื้อเราไม่ได้ ดูจนจบแต่ก็ไม่ได้อะไรเลย แล้วสรุปก็วนอยู่ในวงกลมที่เค้าเตรียมมาแล้ว ไม่ได้สาระอะไรเลย

จริงค่ะ กำลังฟังอย่างจริงจัง ขำก้ากเลย คุณหมอแอบแรง 😂

พวกโรคจิตไซโครพาส เป็นนักแสดงเจ้าบทบาท วางมาดข่มคนอื่น พอโดนจับทำตัวหน้าสงสาร รู้ว่าใครจิตใจดีใช้ประโยชน์จากคนนั้น แสดงบทบาทเข้าหาพูดคุยเก่ง แต่ไม่มีเคยสัมพันธ์จริงจัง จอมบ่งการคนอื่นเพื่อประโยชน์ตัวเองอย่างแยบยล พวกนี้อันตรายมากคิดว่าตัวอื่นเหนือสุดกว่าคนอื่น ไม่เห็นค่าคนอื่นคิดว่าชั้นต่ำ คิดแต่หาผลประโยชน์ใส่ตัวเอง เช่นต่อให้ตัวเองโดนถามก็จะถามกลับให้คนถามรู้สึกผิด กลบความผิดตัวเองอย่างแยบยล เล่นจิตวิทยาให้คนถามทบทวนความรู้สึกสงสัยในตัวเอง อย่าหลงกลพวกนี้ ทั้งหมดเป็นการแสดง

เดอะสแตนดากก็สีส้มพวกเดียวกันเลยได้ลั่นล้าหน่อย

@@booneyifyอย่าโยงกับการเมืองเลยครับ

ถุย ​@@booneyify

บอสเอกเป็นนักเทคนิคการแพทย์ ไม่ใช่นักกายภาพค่ะ ตอนนี้ทั้งประเทศไทยเป็นบอสกันหมดแล้วค่ะ😂😂

@@samanthac.rangkoon1396 พอดีวันนี้ได้ดูภาพข่าวที่ไปค้นสถานที่ถ่ายทำหมอเอก และมีการส่งคนไปนวดก่อน เลยติดภาพจำมา .. ขอบคุณค่ะ

@@samanthac.rangkoon1396 วันนี้ดูการตรวจค้นสถานที่ถ่ายทำ มีการให้คนไปใช้บริการนวดก่อนด้วย เลยจำภาพนั้นมา ขอบคุณค่ะ

ศึกษาจากทางไหนบ้างคะอยากนำไปใช้เป็นแนวทางบ้างค่ะ 🙏❤️

เรียกมันเลยเหรอคะ เค้าคือบอสน้าาาา 😅

คนแบบนี้ผมเจอมาเยอะส่วนมากคนจะเอาบทลงโทษตอกหน้ามัน ผมจะไม่พูดหรอกว่าผิดอะไร เสียเวลา​@@penparnsailarm7094

@@penparnsailarm7094ใช่ๆ ต้องเรียก”คุณพอล” 😊

มันไม่ได้สำนึกจริงๆพูดทิ้งท้ายว่าให้เป็นไปตามขั้นตอนกฏหมาย

คนประเภทนี้น่ากลัวจริงๆ

​@@Mhoohinbinlhak สามารถหลอกได้แต่คนที่ไม่ฉลาด ดูเปลือกนอกมากกว่าเหตุผล และพวกที่เป็นพวกคอการเมืองเดียวกัน ครับ

จริงครับ ดูแข็งขึ้นมา ออกแนวไม่ยอมรับ และตึงมาก

ผมว่าพี่หนุ่มเก่งนะครับ การเดินเฉียดเส้นจรรยาบรรณโดยไม่หลุดขอบออกไป ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ ถ้าเป็นคนอื่นก็คงหลุดออกไปเรียบร้อยแล้วครับ

ไม่ยากครับ ใช้วิธีนิ่ง ถอยแล้วเปลี่ยนประเด็น หรือถ้าเหนือกว่านั้นแบบคนสัมภาษณ์เก่งๆคือดักไว้ทุกทางได้ครับ

😂😅😂😅😂

ใช่ค่ะ คิดเหมือนกัน ระดับพอลไม่หลุด แต่ตั้งใจลากไปด้วยกัน เพราะรู้ๆกันอยู่ว่าต้องมีคำถามนี้แน่ๆ พอลฉลาดมาก สุดๆเลย

คุณหมอรอบรู้มากค่ะ