สมอง-จิต-วิญญาณ (ตอนจบ) เรียนรู้เรื่องจิตสำนึก-จิตใต้สำนึก-จิตเหนือสำนึก-จิตไร้สำนึก 

ขอชื่นชม สาธุบุญกับท่านที่บรรยาย ธรรมเปรียบเทียบกับวิทยาศาสตร์#และสัจจะความจริงตามธรรมชาติ เกิดมา 67 ปีเพิ่งเข้าใจธรรมะ อย่างแท้จริงโดยท่านอาจารย์ ขอสาธุกราบท่านด้วยใจครับ ขอให้บุญกุศลที่ท่านบรรยายธรรมเจริญในทุกๆด้าน สาธุครับ

ຂອບພຣະຄຸນອາຈານມາກໆທີ່ນຳຄວາມຮູ້ນີ້ມາສົ່ງໃຫ້ພວກເຮົາໄດ້ຮັບຊາບ ທ່ານອະທິບາຍໄດ້ແຈ້ງມາກ.ຟັງແລ້ວເຂົ້າໃຈໄດ້ດີຫລາຍ

ท่านชื่ออาจารย์อะไรค่ะ

1. ขันธ์5 ก็ยังเนื่องด้วยเวลา การจะกล่าวว่านิพพานมีคุณลักษณะคล้ายเวลาก็ไม่ควรครับ นิพพานตามที่พระศาสดาทรงอธิบายไว้ เป็นอสังขตลักษณะ (๑) เกิดไม่ปรากฎ (๒) เสื่อมไม่ปรากฎ (๓) ไม่มีภาวะอื่นแทรกปรากฎ มันจึง make sense ที่สุดแล้วครับ 2. ใช่ครับ วิญญาณคือการรับรู้ แต่ไม่ได้เกิดพร้อมเรา หรือตายไปพร้อมเราครับ วิญญาณเป็นปฏิจจสมุปปันธรรม คือเกิดเพราะเหตุ และดับไปเพราะเหตุ เป็นธาตุตามธรรมชาติ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา พระศาสดาตรัสไว้เองเลยว่า (( ตถาคตจะบังเกิด หรือไม่บังเกิดขึ้นก็ตาม ธรรมธาตุนั้นย่อมตั้งอยู่แล้วนั่นเทียว คือความตั้งอยู่แล้วเป็นธรรมดา คือความเป็นกฎตายตัวอยู่แล้วเป็นธรรมดา คือความที่เมื่อมี "สิ่งนี้" สิ่งนี้เป็นปัจจัย "สิ่งนี้" สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น )) ฉะนั้น จะเกิดหรือไม่เกิด ธรรมชาติเหล่านี้ก็ตั้งอยู่เป็นธรรมดาครับ 3. จิต มโน วิญญาณ คือตัวเดียวกันหมดครับ แค่เรียกต่างกันตามการทำงานของแต่ละตัว และเป็นปฏิจจสมุปปันธรรมทั้งหมดเช่นกัน ไม่ใช่ตัวเรา เกิด-ดับไปเป็นธรรมดา เป็นแสนๆล้านๆดวงในคนหนึ่งคน ใคร่ครวญให้ดี ไม่ใช่ดวงเดียวแล้วตายนะครับ แล้วการคิดว่า วิญญาณเวียนว่ายตายเกิด คือมิจฉาทิฏฐิอีก ต้องระวังเรื่องนี้ 4. การหลุดพ้นกล่าวว่าคือการไม่ยึดในขันธ์ 5 ก็จริง แต่ก็ยังติดคำว่า จิต อยู่นะครับ มันจะย้อนไปข้อ 2-3เลย จิตไม่ใช่ตัวเราของเราอีกนะครับ ต้องเข้าใจการทำงานของมันด้วย เดี๋ยวมันจะไปเข้าข่ายที่ว่า จิตไปนิพพานได้ ซึ่งนี่ก็มิจฉาทิฏฐินะครับ 5. ฌาน คือการจดจ่อหรือเพ่ง ใช่ครับ และญาณมันก็คือการไปรู้สิ่งใดสิ่งหนึ่งเหมือนกัน ต่างกันที่ว่า ได้รู้และเข้าใจในสิ่งนั้นชัดเจนมากขึ้้น เช่น การพิจารณาว่าวิญญาณดับจากสิ่งหนึ่ง แล้วไปรับรู้อีกสิ่งหนึ่ง นี่จะเกิดวิปัสสนาญาณแล้วนะครับ ไม่ใช่แค่กำหนดรู้วิญญาณ แล้วไปรู้ในจิตอีก มันคือตัวเดียวกันครับ การที่คุณกล่าวว่า "กำหนดจิตไม่ให้ยึดติดในขันธ์ 5" คุณบังคับไม่ได้เดี๋ยวนั้นหรอกครับ เราเกิดมาในสังสารวัฏที่ยาวนานขนาดนี้ อนุสัยหนาแน่นมาก สิ่งที่ต้องทำ พระศาสดาก็บอกให้เห็นการเกิดดับไปเรื่อยๆ เห็นตามความเป็นจริง ซึ่งความเกิดขึ้น (สมุทัย) ซึ่งความตั้งอยู่ไม่ได้ (อัตถังคมะ) ซึ่งรสอร่อย (อัสสาทะ) ซึ่งโทษอันต่ำทราม (อาทีนวะ) แล้วถึงจะเข้าใจถึงอุบายเป็นเครื่องสลัดออก (นิสสรณะ) แห่งอุปาทานขันธ์ทั้งห้าเหล่านี้ตามพระศาสดาครับ เห็นจนมันเบื่อหน่ายอ่ะ (ไม่ใช่ซึมเศร้านะ) นั่นถึงจะใกล้เคียงความหลุดพ้นครับ อยู่ที่เพียรแค่ไหน ฉะนั้น คุณพี่ลองใคร่ครวญเรื่อง จิต ตามพระศาสดาสอนอีกทีครับ และมันมีสิ่งที่มายึดตัววิญญาณหรือจิตนี้อีกที ซึ่งไม่สปอยนะครับ ธรรมตรงนี้ละเอียดอ่อนมาก ต้องปัจจัตตังเท่านั้น

@@tathagatasawago7895 จิตกับวิญญาณเป็นคนล่ะอันกัน ถ้าตีความหมายผิด จะหาทางไม่เจอ ส่วนนิพพาน ที่ผมบอกว่ามีสภาพคล้ายเวลานั้น ผมเพียงบอกเป็นแนวทาง คล้ายกันแต่ไม่เหมือน คนวิกลจริตสูญเสียอะไร จิตหรือวิญญาณกัน คนวิกลจริตจะเสียหายทางวิญญาณ(ความรู้สึกทางใจ)แต่จิตยังอยู่

@@scpraiphisut3989 พระศาดสาตรัสว่า (( ปฐมํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ ปฐมํ วิญฺญาณํ ปาตุภูตํ )) : บาลี มหา. วิ. ๔/๑๘๗/๑๔๑. แรกจิตเกิดปรากฎ ก็คือวิญญาณเกิดปรากฎครับ ยังไม่ต้องไปหาเจอหรือไม่เจอเลยครับนิพพาน เอาสิ่งที่มันเกิดขึ้นตรงหน้านี้ให้เข้าใจก่อนครับ พระศาสดาอุปมาให้เห็นภาพง่าย คือ เมื่อแสงสาดส่องลงมา ยังไม่กระทบกับฉาก คุณจะรู้หรือไม่ว่ามันมีแสง?? แสงนั่นคือ "มโน" พอกระทบกับฉากเกิดเป็นรอยแดด รอยแดดนั่น คือ "วิญญาณ" เสพนานๆ สืบเนื่องไปกลายเป็น "จิต" ฉะนั้น มันจะเรียกเหมือนหรือต่างล่ะครับ?? หรือคุณเข้าใจจิตเป็นอย่างอื่นอยู่?? คนวิกลจริต เขาเสียหายทางสมอง หรือเป็นที่เคมีในสมอง ซึ่งเป็นกายสังขารครับ มันส่งผลให้กระบวนการคิดไม่ปกติ มันก็แน่นอนเพราะกายไม่ใช่ของเรา และจิตมันก็ไม่ใช่ของเรา เพราะพวกนี้มันเนื่องด้วยขันธ์5 ซึ่งมีความแปรปรวนเป็นธรรมดา วิญญาณจะไปเสียหายอะไร มันไม่ได้เป็นตัวปรุงแต่ง มันเป็นตัวที่ถูกเข้าไปปรุงแต่งมากกว่าครับ จิตก็เหมือนกัน ฉะนั้น มันอยู่ที่ว่า คุณเข้าใจคำว่า "จิต" แท้ๆเนี่ยคืออะไรกัน???

@@tathagatasawago7895 คุณเชื่อมากน้อยแค่ไหนที่พระไตรปิฎกถูกเสริมเติมแต่งผ่านกาลเวลา

@@scpraiphisut3989 ใช่ครับ จริง มันมีการถูกเติมแต่งตามกาลเวลา แต่ไม่ใช่ทั้งหมดครับ สุดท้ายยังไงก็ต้องศึกษา เพื่อเอาไปใคร่ครวญปฏิบัติอยู่ดีครับ

ทำไมรึครับ

เป็นสมถะกรรมฐานหรือฌาน​ ไม่ใช่วิปัสสนาครับ​ ถ้าทำคล่องๆจนถึงฌาน4จะมีฤทธิ์ครับ​ น่าจะเป็นของเก่า​ แต่มาสายพุทธดีกว่า