วันนี้เรามาทำความเข้าใจเรื่อง สารที่ใช้ป้ายขั้วทุเรียน ให้ผู้บริโภคได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริงว่ามันคือสารอะไร และจะมีอันตรายกับผู้บริโภคหรือไม่ ?
โดยธรรมชาติแล้วการสุกของทุเรียนนั้น จะไม่สุกทั้งพูหรือว่าสุกไม่สม่ำเสมอทั้งลูกแม้ว่าจะเป็นผลเดียวกันก็ตาม ลักษณะเช่นนี้เป็นปัญหาในการบริโภคและการส่งออก อีกทังกระบวนการสุกยังใช้เวลา นานอีกด้วย กรณีทุเรียนพันธุ์หมอนทองอาจใช้เวลานานถึง 9-13 วัน ขึ้นอยู่กับความแก่ของผล เมื่อใช้เวลานานการสูญเสีย
ดังนันการบ่มจึงเป็นวิธีการหนึ่งที่เร่งให้ให้ทุเรียนสุก..เพราะทุเรียนหรือผลไม่อื่นๆเราจะไม้เก็บสุก จะเก็บผลดิบที่แก่แล้ว...ไปบ่ม...การบ่มนั้นเราใช้กับผลไม้ต่างๆ มาตั้งแต่โบราณการณ์ เช่นกล้วย มะม่วง..เพราะถ้าเราเก็บสุก...ก็จะเป็นผลต่อการขนส่งทำให้ทุเรียนช้ำและเน่าเสียหาย อีกทั้งยังส่งผลต่อการส่งออกที่ใช้เวลานานกว่าจะส่งทุเรียนไปยังประเทศเป้าหมาย...และกว่าจะถึงมือผู้บริโภคโดยตรง...ซึ่งจะส่งผลให้ทุเรียนหรือผลผไม้ของเราเน่าเสีย...และที่สำคัญจะผลเสียต่อการส่งออกที่ต้องแบกรับภาระการเน่าเสียของทุเรียนเป็นจำนวนมหาศาล
ดังนั้นจึงมีการป้ายหรือการบ่มเพื่อเป็นการเร่งให้ให้ทุเรียนสุกและยังทำให้ทุเรียนสุกสม่ำเสมอทั้งลูก โดยจะใมชใช้เวลาในการการบ่ม 4-6 วันและยังช่วยลดการสูญเสียลงถึงกว่า 10%
การบ่มผลไม้ให้สุกสม่ำเสมอ นิยมใช้ เอทีฟอน (ethephon) ซึ่งเป็นสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืชที่ปลดปล่อยเอทิลีนมีพิษค่อนข้างต่ำและสลายตัวได้ง่าย
แล้วเจ้ายาป้ายทุเรียมันคืออะไรกัน...มาดูกันเลยครับ...ยาที่เขาใช้ป้ายขั้วทุเรียนที่ใช้กันทั่วไปมันก็คือ สาร "เอทิฟอน" ซึ่งเป็นสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืชที่ปลดปล่อยเอทิลีนมีพิษค่อนข้างต่ำและสลายตัวได้ง่าย...โดยหลักการก็มีอยู่ว่า ไอ้เจ้า "เอทิฟอน"เนี่ย เมื่อละลายน้ำหรือเข้าไปในเซลล์แล้วจะแตกตัวกลายเป็น "เอทิลีน"...ดังนั้นเมื่อนำ "เอทิฟอน" มาทาที่ขั้วผลไม้ หรือจุ่มผล....จึงเกิดการแตกตัวปล่อยแก๊ส "เอทิลีน" ออกมา....ซึ่งเป็นตัวทำให้ผลไม้สุกเร็วขึ้น
ขออ้างอิงจากการศึกษาล่าสุดในปี พ.ศ. 2559 ของ ดร.พีรพงษ์ แสงวนางค์กูล และคณะ จากศูนย์ เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ให้ดำเนินการศึกษาปริมาณสารเอทีฟอน ตกค้างในผลทุเรียนบ่ม....พบว่าการบ่มทุเรียนด้วยสารละลายเอทีฟอนในสภาพจำลองการจำหน่ายในประเทศมีสารตกค้างที่เปลือกมากกว่าการบ่มในสภาพจำลองการส่งออกทางเรือซึ่งใช้...จากการทดลิงของดร.พีรพงษ์ สรุปพอได้ว่า... "เอทีฟอน" เป็นสารสังเคราะห์มีพิษครับ...แต่พิษน้อยมาก..คือคุณกินทุเรียนเข้าไปในปริมาณที่มากๆ ถึงจะเกิดอันตราย...มากขนาดไหนนั้น...ซึ่งเท่ากับคุณต้องกินทุเรียน ประมาณ 1,452 กก. โดยเฉลี่ยทุเรียน 1 ลูกมีน้ำหนักประมาณ 3 กิโล นี่คือชั่งทั้งเปลือกนั้นหมายความว่าคุณต้องกินทุเรียน 400-500 ลูก ถึงจะเป็นพิษ
สรุปก็คือสารที่ใช้ป้ายทุเรียนคือสารอิทิฟอน...ไม่ได้ใช้ยาฆ่าหญ้า และ สารเคมีมาชุบ หรือป้ายขั้ว ทุเรียนแน่อน...และ "เอทิลีน" ที่ปลดปล่อยออกมาคือฮอร์โมนพืชอย่างหนึ่ง ซึ่งพืชสามารถสังเคราะห์ได้เองตามธรรมชาติ..ซึ่งปกติมีในผลไม้อยู่แล้ว
ไม่เป็นพิษต่อคน
ดังนั้นแล้วคนซื้อทุเรียนบริโภคทุเรียนจงทำความเข้าใจ
1. ไม่มีชาวสวนทุเรียนคนไหนที่ใช้ยาฆ่าหญ้ามาป้ายขั้วทุเรียนแน่นอน
2. สารที่ใช้ป้ายขั้วคือสาร อิทิฟอน ซึ่งมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ดังนั้นจึงไม่ต้องตื่นกลัว จากการเจอคลิปในโซเชียลต่างๆ ครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก
เพจ : Thai Durian Association - TDA สมาคมทุเรียนไทย
นิตยสารเคหเกษตร ฉบับที่ 192 ปี 2560
สารเอทีฟอนตกค้างในทุเรียนบ่ม “อันตรายจริงหรือ”
****************************
ติดต่อฅนเกษตร : / konkaset89
ติดต่อทีมงาน Production : / korkai.studio9
17 окт 2024