อย่างที่เพื่อนๆรู้ดีครับว่า ถ้าเราอยากจะลดไขมันหน้าท้องให้ได้ผล เราจะต้องเริ่มออกกำลังกายมากขึ้น และควบคุมอาหารให้ดีขึ้น
แต่วิธีลดไขมันหน้าที่แนะนำอาจจะกว้างเกินไป จนเราอาจจะไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นจากตรงไหน และทำอะไรก่อนหลังดี
ต่อมา ถ้าเราเป็นคนที่มีหน้าท้องออกมาค่อนข้างเยอะ ใส่เสื้อผ้าแล้วพุงปลิ้น แขม่วท้องไม่ได้ และอยากจะลดพุงที่น่าเกลีดแบบจริงจัง เราอาจจะไปโฟกัสว่า ต้องใช้เวลากี่สัปดาห์ หรือกี่เดือน พุงถึงจะยุบและหายไป จนลืมสิ่งสำคัญที่ต้องทำให้ก่อน เป็นต้น
ประเด็น คือ ในการลดไขมันหน้าท้องให้ดีตลอดไปแบบยั่งยืน เราควรมาดูพฤติกรรมที่เราทำในแต่ละวัน หรือสิ่งที่เราควรจะทำให้เป็นนิสัยก่อน
สวัสดีครับ โค้ชเค Fitterminal.com และวันนี้ผมจะมาแนะนำ 6 สิ่ง ที่เราควรทำทุกวัน เพื่อลดไขมันหน้าท้องให้ดีตลอดไป และจะมีทิปส์ดีๆมาแนะนำด้วยเช่นเคย ตามมาเลยครับ
วิธีลดไขมันหน้าท้อง & ลดพุงที่ยั่งยืน ที่ควรทำทุกวัน
เพื่อนๆรู้ไหมครับว่า จริงๆแล้ว ไขมันหน้าท้อง (Belly Fat) จะมีสัดส่วนหรือ % ที่ไม่เยอะเท่าไหร่ เมื่อเปรียบเทียบกับไขมันในร่างกายทั้งหมด
แต่ปัญหา คือ ไขมันหน้าท้อง จะทำให้พุงเราปลิ้น ใส่เสื้อผ้าไม่สวย และทำให้เราไม่มั่นใจได้
ก่อนอื่น ไขมันหน้าท้อง จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด นั่นคือ
1. ไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat)
ไขมันใต้ผิวหนังที่พุง คือ ส่วนของไขมันที่เราจะสามารถเอามือหยิบขึ้นมาดูได้ และผู้หญิงอาจจะมีไขมันหน้าท้อง มากกว่าผู้ชายถึง 6 เท่าตัวด้วย
2. ไขมันใสช่องท้อง (Visceral Fat)
ไขมันในช่องท้อง คือ ไขมันที่อยู่ตามอวัยวะภายใน โดยเฉพาะ ตับ ไต และตับอ่อน
และ Visceral Fat จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น Visceral Fat จะทำให้ร่างกายเราดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin Resistance) จนทำให้กินอะไรเข้าไป ก็ไปลงพุง เป็นต้น
นอกจากนี้ เพื่อนๆผู้หญิงที่มีปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน หรืออยู่ในวัยหมดประจำเดือน จะมีไขมันในช่องท้องเยอะกว่าปรกติ จนพุงป่อง มีหุ่นเหมือนลูกแอปเปิ้ล และมีความเสี่ยงของโรคเรื้อรังเพิ่มมากขึ้นด้วย
ข่าวดี คือ การที่เราเริ่มไดเอทและออกกำลังกายได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ไขมันในช่องท้องจะเริ่มหายไปก่อน และอาจจะหายไปภายใน 2-3 อาทิตย์ด้วย
และไขมัน Visceral Fat หายไป เราจะรู้สึกได้เลยว่า แขม่วพุงได้ลึกขึ้น และเวลาทำอะไรก็ตัวเบา หรือมีความคล่องตัวมากขึ้น เป็นต้น
เรามาดูกันต่อครับว่า ถ้าเราจะลดไขมันหน้าท้องทั้ง 2 ชนิดให้ได้ผลดีและถาวรตลอดไป ใน 1 วัน เราควรทำอะไรบ้างให้เป็นนิสัย
1. ลดอาการบวมน้ำจากอาหาร & เครื่องดื่ม
แน่นอนครับว่า ก่อนมีประจำเดือน ผู้หญิงจะมีอาการบวมน้ำ (Period Bloating) และน้ำหนักอาจจะดีดขึ้นมาได้ 2-3 กิโลกรัม จนเรารู้สึกหงุดหงิด และเครียดได้
แต่อาการบวมน้ำนี้จะหายไปหลังจากที่ประจำเดือนหมด และเราควรดีใจที่ร่างกายเราทำงานเป็นปรกติแบบนี้ครับ
ต่อมา การที่ร่างกายเรามีอาการบวมน้ำจากอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ มันอาจจะทำให้เรารู้สึกอึดอัด พุงแข็งแขม่วท้องไม่ได้ และอาจจะเข้าใจผิดคิดว่า เราอ้วนขึ้นหรือเปล่า
ดังนั้น ก้าวแรก คือ เราควรเริ่มดูว่า เราแพ้อาหารหรือเครื่องดื่มอะไรหรือเปล่า โดยเฉพาะนมวัว และถั่วต่างๆ
ต่อมา ถ้าเรามี Cheat Meal หรือกินอาหารที่มีรสหวาน รสเค็ม ของมันของทอด และมีการดื่มแอลกอฮอล์ด้วย ร่างกายเราก็อาจจะบวมน้ำมากขึ้นในวันต่อมาได้ทันทีเหมือนกัน
ดังนั้น เราควรเริ่มจำกัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่ม และอาหารแปรรูปที่กินในแต่ละวันด้วย โดยเฉพาะอาหารฟาสต์ฟู้ด เครื่องดื่มต่างๆที่มีน้ำตาลสูงๆ และขนมที่อยู่กล่องหรือหีบห่อ เป็นต้นครับ
อ่านบทความเต็ม: bit.ly/3QGHJZC
===============================
ถ้าเพื่อนๆมีเป้าหมายอยากลดน้ำหนัก ลดไขมัน อยากมีหุ่นในฝัน ให้ตัวเองภูมิใจสักครั้งในชีวิต แอดไลน์ที่ลิ้งค์ด้านล่าง แล้วมาปรึกษาก่อนได้ครับ
===============================
| Follow Us | ช่องทางการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร |
Fitterminal LINE: @fitterminal หรือคลิก lin.ee/Txxw3zR
Fitterminal Facebook: bit.ly/2GeJebZ
Fitterminal Instagram: bit.ly/2Zh5KtG
Fitterminal Website: bit.ly/2GKOWDa
#ลดน้ำหนัก #ลดไขมัน #ifลดน้ำหนัก
19 авг 2023
