ชัวร์ก่อนแชร์ : อุด EGR ไอดีสะอาด รถวิ่งดีขึ้น จริงหรือ? 

ผมออก 1.9มาพวกแนะนำให้ไปอุดEGRอุดได้ประมาณ3เดือนมีคนบอกว่าทำลายสิ่งแวดล้อม ผมเลยขายรถเอาเงินมาซื้อจักรยานปั่นไปทำงานทุกวันตอนนี้ผมออกจากงานแล้ว

คงพูดถึงอุดรถเบนชิลครับ รถดืเชลไม่อุดคอท่อไอดีน่าจะเหนียวเป็นเหมืออนยางมะตอยทำถนน

ที่จริงอุดมันก็ดีอีกอย่าง แต่รถเดิมๆมันก็แรงแล้วนะ160-200แต่แค่ ก๊าซคาร์บอนเพียงแค่น้อยๆอาจส่งผลต่อโลกระยะยาวนะครับ ผมว่าเดิมๆโรงงานก็ดีแล้วครับ

*ในไทรทั่น รับรอง ถอดออกมาดูได้ทุกคัน ประมารเขม่าที่สะสมอยู่ในไอดี 3กระป๋องนมได้ทุกคัน เกือบตัน*

เอาง่ายๆรถตัวเองไม่ต้องอุด แต่ถ้ารักรถให้อุด คือ EGR จะเปิดแค่ตอนจอดหรือรอบเครื่องต่ำๆ ถ้าอุด EGR ไอ NOX นี่และจะเข้ามาในห้องโดยสารได้แถมไม่มีกลิ่นด้วย ตายผ่อนส่ง มเร็งปอดถามหา ถ้าไปทั้งครอบครัวก็ตายทีระคน จะมีคนถามไม่ดูดบุหรี่ทำไมเป็นมะเร็งปอด

รถที่ไม่อุด EGR ต่อให้เข้าศูนย์ทุกๆ10000-15000 กิโลก็ยังสกปรกเหมือนเดิมครับเพราะว่าไม่ได้รื้อระบบอะไรเลย พอถึง 60,000 โล เครื่องยนต์เละเลยครับจึงต้องถอดระบบระบายอากาศออกมาล้าง แต่รถที่อุด EGR แล้วก็อาจจะยังสกปรกได้ถ้าไม่ได้ทำการติดตั้งถังดักไอระบายก่อนเข้าระบบเทอร์โบแปรผัน ครับ สรุปแล้วเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลจะมีอากาศดี(ไอดี)เข้าทางเดียวแต่มีอากาศเสีย(ไอเสีย)เข้าถึง 2 ทางคือเข้าทางEGR กับเข้าทางไอระบายครับ แต่ทางที่ดี เปลี่ยนจากเครื่องสันดาปภายในมาเป็นรถ EV ดัดแปลงจะดีกว่าถือว่าช่วยโลกจริงๆทางหนึ่งแต่ด้วยทุนที่แพงเอาเรื่อง ไปไกลก็ไม่ได้ ชาร์จก็นานจนระอาเสียเวลาก็มาก จะมียานพาหนะทั้งทีก็ลำบากจริงจริ๊ง 555555

ดีมากเลยครับ ทำต่อไปเร่ยๆครับผม ✌️✌️

มันลดอุณหภูมิในห้องเผาไหม้ ใครอุดแล้วเทอโบขาดเป็นเรื่องธรรมดา ผมใช้ ,crc valve clean มันช่วยให้ระบบไอดีสะอาดส่วนหนึ่ง

เพราะอะไรจึงจำเป็นต้องใช้รถดีเซล คำตอบนั้นทุกท่านคงทราบดี แต่ในเมื่อยังจำเป็นต้องใช้รถดีเซล เราก็ต้องช่วยให้ลดมลพิษให้มากที่สุด เช่น ไม่ไปดันแรง ไม่แต่งควันดำ ฯลฯ กรณีผมไม่อุด EGR ก็เพราะต้องการลดมลพิษทางหนึ่ง หากวันใดวันหนึ่งโรงงานผลิตรถยกเลิกการผลิตรถดีเซล หรือรัฐห้ามใช้รถดีเซล หรือเหตุผลอื่นๆ ผมก็ต้องใช้รถแบบอื่นแทนไป หวังว่าคงเข้าใจนะครับ สำหรับคนที่บอกว่ารักโลกอย่าใช้รถดีเซล

ผมไม่อุด ถึงเวลาก็ทำความสะอาดท่อไอดีและอื่นๆ ผมรักโลก มากกว่า รักรถ

Egrมีอยุ่ที่รถทุกคันปะครับผมใช้ดีแมก โกลด์ซีรี่ย์4ประตูออกปี51ที่ศูนย์ พึ่งรุ้ว่าต้องดูแลส่วนนี้ ถ้ามีอยุ่บริเวณไหนครับ ขอบคุณมากครับ

ไม่เคย อยู่ในหัวเลยเรื่องอุดegr วีโก้ผมตัว 05 ใช้มาเดิมๆก้อจะ 6แสนกว่าโลละยังวิ่งฉิวเลยครับแต่ผมแค่เช้คระยะทุก10000 กิโลรถใช้งานทุกวันครับ ไม่ต้องไปเชื่อตามกระแสใครมาก เราใช้รถเราต้องรู้จักรถของเราดี

รถสมัยใหม่เค้าผลิตมาให้ผ่านมาตรฐานสิ่งแวดล้อม ถ้าไม่อุด EGR แล้วเครื่องพังก็แสดงว่าเป็นปัญหาการออกแบบของค่ายรถ ต้องฟ้องร้องบริษัทรถ เพราะฉะนั้นถ้ารู้ว่ารถคุณมีปัญหาต้องร้องเรียน ไม่ใช่ไปอุดแล้วทำลายสุขภาพคนรอบข้าง ซึ่งสุขภาพบางคนเสียแล้วเสียเลยซ่อมไม่ได้แบบรถนะ

คุณอุดไปเลยครับ เพราะจริงๆ บางคนไม่ได้เซอร์วิสขนาดนั้น กรองไอเสียได้น้อยมากๆ แต่ก็ถ้าเอาอีกนิด ก็ช่วยดักน้ำในอากาศได้นิดหน่อย

เหมือนเอาตดกลับมาดมใหม่ให้กลิ่นจางว่างั้น

ฟอร์ด เรนเจอร์ T6 ปี2013 อุดแล้ววิ้งดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ก่อนต้องล้างมีค่าใช้จ่ายพออุดจบเลย รุ้นอืนไม่รู้นะ ถ้ารักโลกก็ไม่ต้องอุดครับ

ถ้ารถเดิมๆวิ่งใช้งานทุกวันไม่จำเป็นต้องอุดครับเราไม่ได้แต่งชิ่ง รถผมวีโก้ 2012 ใช้งานปกติ ทุกวันใช้รอบสูงบ้างบางครั้งตอนนี้ 102000 กิโลผมถอดเพื่อตรวจสอบดูอีจีอาร์และท่อร่วมยังสะอาดอยู่เลยครับ แต่ต้องเปลียนน้ำมันเครื่องทุกครั้งตามระยะที่กำหนดก็สามารถลดปัญหาส่วนนี้ได้ครับ.

มันก็มีมลพิษทั้งคู่อุดไม่อุด เพราะเครื่องยนมันมีการเผาไหม้อยู่แล้ว

รักโลกไม่ต้องซื้อรถยนต์ครับปั่นจักยานเลย egr มันดูดไอเสียเข้ามาเพียงน้อนนิดแล้วส่วนที่เหลือก็ปล่อยออกมาหมด อุดไม่อุดก็ไม่ต่างกัน แต่อุดดีต่อรถคุณแน่นอน

การจัดระบบ egr มันเป็นเทคโนโยยี เริ่มเเรก ในการผ่านกฎมลภาวะในยุคเเรก แต่มันเป็นโทษกับเครื่องยนต์มากมาย โมเลกุลคาร์บอน มันเเข็งมาก ทำให้ชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวเสียหาย

ขอเพิ่มเติมครับ ควรเติมน้ำมันดีเซลที่เป็นเกรดแพงๆ เช่น วีเพาเวอร์ดีเซล 1 เดือน 2ถังครับ จะช่วยล้าหัวฉีด ล้างขเม่าด้วยครับ

เจอประจำ ดีเซลวิ่งหมื่นโล+ เจ้าของบอกอืด แกะEGRเท่านั้นและ เหมือนเอาก้อนถ่านไปทุบใว้ข้างใน สกปรกมาก พออุดไปเจ้าของบอกดีขึ้นเยอะ

อุดดีต่อเรารถเราแรงขึ้นจริงแรงกว่ารถไม่อุดส่วนถ้าไม่อุดมันดีต่อธรรมชาติแต่ไม่ดีต่อนเงินในกระเป๋าเพาะต้องล้างทำความสะอาดค่าช่างหมดเกือบสองพัน

เปลี่ยนจากการอุดเป็นถอดสายไอน้ำมันเครื่องทิ้งที่อื่นเขม่าเกาะท่อไอดีน้อยลงผมทดลองหมดแล้วสำหรับรถเดิมๆ ใส่ที่ดักไอก็แล้ว

เคยบ้าตามคนในคลับ อุดๆ ตามเขาไป 8 ปี ถอยมือสองมาอีกคัน เครื่องเดียวกัน แต่วิ่งดีกว่า ทั้งๆที่ไม่เคยยุ่งกับ EGRเลย ตั้งแต่นั้น ผมถอดแผ่นอุดออกเลยครับ

รถผม วีโก้ แชมป์ ปี15 เกียร์ออโต้ 5สปีด อุดไปซักพัก เกียร์จะ เอ๋อๆ ครับ ไม่เปลี่ยนเป็นเกียร์ 5 ตอนนี้ถอดแล้วครับ เป็นปกติ

แล้วแต่ส่วนบุคคลคับ ส่วนผมอุด กว่าจะได้มาเลือดตาแทบกะเด็นรถคันนึงต้องใช้ตลอดชีวิต

อุดแล้วรถวิ่งดีขึ้น เหยียบน้อยลงก็เผาใหม้น้ำมันน้อยลง มลภาวะก็น้อยลง ไม่อุดก็วิ่งดีแรกพอเริ่มตันรถวิ่งไม่ออกต้องเหยียบมากกว่าเดิม เผาใหม้น้ำมันมากกว่าเดิม มลภาวะก็มากกว่าเดิม สรุปอุดปล่อยมลภาวะเสมอต้นเสมอปลาย ไม่อุดดีมากในตอนแรกพอตันมลภาวะหนักกว่าเก่า

ถ้าไม่อุดนี่รับรองอายุรถสิบปีรูท่อไอดีตันเท่านิ้วก้อยต้องถอดมาเคาะ ผาก็ต้องมาทำความสะอาดโลกไม่สวยอุดเถอะ

รถผมป้ายแดงวิ่ง3,000โลท่อegrเขรอะมาก ลิ้นเร่ง ท่อรวมไอดี ดูไม่ได้เลย ผมอุดนะแต่ท่อcatผมไม่ได้ถอดออกช่วยลดมลพิษได้

พี่มิสนี่สุดยอดเลย

เก็บอากาศไว้ให้ลูกหลานเถอะครับ ช่วยได้ไม่มากก็ยังดีกว่านะผมว่าเพื่ออนาคตลูกหลานเราครับอย่าอุดเลย

ในอนาคต คงมีชุดคิตมอเตอร์ไฟฟ้า พร้อมแบต ยกสลับดีเซล มลพิษเป็น 0

เคยเห็นคนพิมพ์ว่า รักรถให้อุด รักษ์โลกไม่ต้องอุด "แล้วไม่รักชีวิตรักสุขภาพกันเหรอถ้ารถทั้งโลกไม่มีEGRคิดดูว่ามันจะเป็นยังไงถึงจะไม่ใช่ปัจจัยหลักที่สร้างมลพิษ" เลือกเอารักรถหรือรักชีวิตถึงมันจะเป็นเปอร์เช็นนิดๆก็สามารถช่วยกันได้

ถ้าการล้างท่อไอดีทำง่ายเหมือนเปลี่ยนกรองอากาศ ผมก็คงไม่อุดหรอกครับ นี่กว่าจะรื้อออกมาล้างได้ ต้องเสียงค่า maintenance อีก

ทำไมผมใช้ดีเซลไม่อุด egr ไม่เห็นรู้สึกว่าอืดเลย มันก็พุ่งดีน้ะแปปๆก็120ละ

70 เปอร์เซ็นของเจ้าของรถ ผมว่า รักรถ มากว่าสิ่งแวดล้อม

อุดหรือไม่อุด ก็เท่านั้น รถทั่วไปที่ใช้ ไม่ต้องอุดหากไม่ได้ปรับแต่งเครื่องยนต์ เพราะ เชื่อเพลิงที่เข้าไปมันมีขเม่าน้อย การ ที่ egr เปิดเพื่อนำไอเสีย เขาไปมันก็น้อยตาม และ egr จะทำงานในรอบสูง เหมือนกับ ระบบ วีเทค ของ honda แต่ในรถที่มีการปรับแต่ง เครื่องยนต์ ปรับเชื่อเพลิงหนา จนควัน หากไม่อุด egr มันก็ขเม่า เข้าไป และดำ ไวก็แค่นั้น

ได้ฟามรู้ดีจัง

ไม่อุดเดี๋ยวรู้จักเวลาท่อร่วมไอดีตันก็บ่นว่ารถวิ่งไม่ออกกันค่าservice ก็แพง

สรุปคือทุกครั้งทีี่ล้างegrต้องเสียตัง​ ผมเข้าใจถูกไหมครับ

ตอบดีมากครับ ไม่มั่วเหมือนกูรูแก๊สอะไรนั่นเลย

รถผม ก่อนอุด เหยียบสุดได้แค่150 ควันดำยังกะรถแต่ง แต่พออุดแล้ว เหยียบได้160-170 ควันไม่ดำมาก น้อยกว่าเดิมอีก

ทำความสอาดไอดีก็ไม่หมดมีสะสมที่หัวลูกสูบอีก และเผาใหม้จะทำให้น้ำมันเครื่องดำใว

ไม่ไหวเคยถอดมาล้างเเล้วรถวิ่ง2เเสนถอดมาล้างเเม่งอย่างเหนี่ยวล้างเสร็จอุดเเม่ง นี่เเค่2เเสนเองนะ

ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกเกือบร้อยล้านคันต่อปี แต่อากาศโลกเท่าเดิม คิดดูละกันว่ารุ่นลูกรุ่นหลานคุณจะเป็นอย่างไร. อะไรพอช่วยได้ก็ทำเถอะครับ สละเงินสละเวลาดูแลเอา เห็นคนสนับสนุน รักรถให้อุดแล้ว ผมว่า มันไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอ..

ไม่ต้องเถียงกันหรอก รักรถเห็นแก่ตัว = อุด PM 2.5 มาอีกไวๆน้าาาา โลกสวย รักษ์โลก = ไม่ต้องอุด

มั้นตรวจเช็คเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง+ไส้กรอง ควรเป่ากรองอากาศ รึสกปรกก็เปลี่ยนเลย นี่ละสาเหตุที่มันไปอุดตันตรงท่อร่วมไอดี

สรุปegr ถ้าไม่อุดก้จะสกปกติแต่ระยะยาว อุดegrไม่ต้องริ้อล้าง ผมว่าก้ดีกว่าสิครับ

ผมเคยอุดแล้ว EGR เวลาผมขับรถจอดในบ้าน คนก็บ่นว่าโครตเหม็น เหมือนจะหายใจไม่ออก ผมก็เลยไปหามาใส่ใหม่คับ แล้วก็รุสึกว่าควันมันไม่เหม็นมากนักแบบมึนหัว แต่นี่แค่ส่วนตัวนะคับ เลยมองว่า EGR ก็ช่วยได้ระดับนึง มันตัน มันสกปรก ผมก็แค่ไปล้างคับ ละ แต่ถ้าเมียบ่นทุกวัน ผมทนไม่ไหว ใครไม่เชื่อ ก็มาบ้านผม เดี๋ยวมันบ่นให้ฟัง คุณจะรีบไปหา EGR มาใส่แน่นอน

มอเตอร์​ ​egr​ มาช่วยจ่ายให้ไหมล่ะครับ

ต้นทุนที่ต้องจ่าย หาก "ไม่อุด EGR" ก็คือ ค่าซ่อมบำรุงชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้น ของเจ้าของรถ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ส่วนต้นทุน กรณี "อุด EGR" ก็คือ ต้นทุนด้านสุขภาพ และชีวิต จากโรคระบบทางเดินหายใจ และมูลค่าความเสียหายจากภัยธรรมชาติ เช่น ภาวะโลกร้อน, น้ำแข็งขั้วโลกละลาย, สภาพภูมิอากาศแปรปรวน อันมีสาเหตุมาจากมลภาวะทางอากาศ (ทั้งฝุ่น PM 2.5 ทั้งก๊าซเรือนกระจก) ที่มีผลกระทบต่อผู้คนในสังคม (รวมทั้งเจ้าของรถ และคนใกล้ชิดด้วย) ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต จะเลือกแบบไหน ก็อยู่ที่ดุลพินิจ วิจารณญาณ และจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อโลก และต่ออนาคตของเยาวชน ของแต่ละท่านก็แล้วกันนะครับ

ผมดูในคู่มือแล้ว ไม่มีหรอกล้างท่อไอดี+ปีกผีเสื้อน่ะ อย่ามั่ว ถ้าจะทำต้องหาช่างตามอู่เสียเงินต่างหากอีก รถผมก็อุด ทำเองเมื่อ25,000โล ขนาดวิ่งมาแค่นั้นตอนถอดอุดเขม่ายังเกาะหนาหลายมิล สรุปใครอยากอุดก็อุดใครไม่อยากอุดก็ไม่ต้องดราม่า

สูตรไล่เขม่า (รถใช้ในเมืองรถติด) เร่งรอบ redline 3วิ 2ครั้งต่อ2000กิโล ถ้าวิ่งไกลๆบ่อยๆไม่ค่อยจำเป็น

ได้แลกเสีย ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง อุเครื่องยนต์ก้ทำงานปกติ ถึงเวลาก็ไปล้างท่อร่วมไอดี อุดก็เครื่องยนต์ดังขึ้นไม่ปกตินิดหน่อย ควันเหม็น อัตราเร่งแบบวาล์วเขกเครื่องเลยเสียงดังขึ้นมาอีกนิด ผมเล่นรถมาเกือบสิบคันบรรยายตามประสบการณ์ครับแต่ก่อนไม่อุดไม่สบายใจต้องอุดดีต่อใจ เดี๋ยวนี้รถคันที่อุดไปเอาออก สังเกตรถคันที่เสียงเงียบ ๆ ควันไม่เหม็น ไปถามเขาหรือถามผมก็คือไม่อุดครับ

เคยคิดจะรักโลก!รักสิ่งแวดล้อม!......แต่เหมือนจะรักอยู่คนเดียว เลยอุด ดีกว่า...เพราะรักรถ! เหมือนท่อแคท บอกใส่เพื่อกรองอากาศเสียจากท่อ.....แต่ตลาดขายลูกเป็นหมื่น UP คนส่วนใหญ่ เวลาเสียก็ขายทิ้ง และไม่ใส่ ราคาแพง ใครจะไปใส่ ไมาสนแล้วโลก! กับสิ่งแวดล้อม!

ตอนแรก็รักโลกพอถอดออกมาล้างเฮ้อรักรถกว่า55

Egr มันเปิดปิดเองอยู่แล้ว มันช่วยกรองไอเสียไม่ให้แก้สพิษออกสู่สิ่งแวดล้อม การอุดก็แค่เสียเงินให้คนขายของแค่นั้น

ขี้เกียจทำความสะอาดก็อุด ถ้ารักษารถทำความสะอาดตลอดก็ไม่จำเป็นต้องอุด ส่วนมากใช้อย่างเดียวไม่ค่อนสนใจใส่ใจบางจุด ก็อย่างว่าละ ความชอบความเข้าใจมันไม่เหมือนกัน ตามนั้น

ช่วยกันคนละนิดครับมลพิษมีผลต่อร่างกาย รถซ่อมได้ร่างกายซ่อมไม่ได้เลือกเอา

อุดดีกว่า ให้เล่ามันยาว อุดแล้วเครื่องใช้ได้ยาวนาน อีกอย่างช่างที่คูนย์รถยนต์เค่าไม่ทำให้ แม้เค้าจะรับงานว่าจะทำ ถอดยากนิดๆหน่อยๆก็ไม่อยากทำ แค่บอกให้เปลี่ยนหัวเทียน,เปลี่ยนกรองอากาศ ง่ายๆมันยังไม่เปลี่ยนให้เลย บางทีนะนี่ว่าคนเลว คนดีอย่าได้สะเทือน ถ้าใครสะเทือนคนนั้นเลว เอานอกเรื่อง เครื่องดีเซลอุดดีกว่าครับ เครื่องเบนซิลอย่าอุดนะ

รถรุ่นเก่าไม่มีegrก้อขับไดัเลยคับ

รถเรา อุดEGR ทะลวงแคท ตั้งแต่ 20000โล ปัจจุบัน 140000 ปัญหาเรื่อง EGR ไม่เจอ รักรถแนะนำอุดนะแจ้ะ บนโลกไม่ได้มีแค่รถเราคนเดียวนะแจ้ะ

รถไฟฟ้าก็ผลิตขึ้นมาแล้วทำไมไม่ช่วยกันผลักดันแถมเเรงกว่ารถน้ำมันอีก..ถ้าคิดว่าจะลดมลพิษอ่ะ

เห็นผลมากกว่าครับรู้ไม่จริงยังเสนอหน้ามาพูดเอาคนใช้มาพูดจะดีกว่า

รู้สึกจะพูดถึง mazda ด้วยนะ กระบะธรรมดา EGR ไม่ต้องไปอุดหลอกใช้ได้เป็น แสนโล แต่ mazda 2 cx-3 cx-5 มันมี DPF เขม่ามันจะไปตันที่ DPF พอ DPF ตันความร้อนจะเกินนานๆเข้าน้ำดันฝาสูบโก่ง รับประกันดันแน่นอน mazda

ทีแรกว่าจะเดิมๆ. ให้เขาล้างท่ออีจีอา. ดค่20000โล. เขม่าเหนียวได้เปนช้อนๆ. ไม่ไหว

กระบะ พ่อผม ไม่เคย อุด ขับมา ตอนนี้ รวมๆ 20 ปี แล้ว ปกติทุกอย่าง แต่ถามว่าอุด ก็ดี เครื่องสะอาด ไม่ต้องล้าง คอไอดี บ่อยๆ แต่พ่อผมไม่เคยถอดมาล้างเลยนะ ใช้อย่างเดียว ถ้าถอดมา ผมว่าตัน เหลือรูเท่านิ้วก้อยแน่ๆ 555

อุดแล้วก็วิ่งปกติ เพราะผมรักรถ ส่วนมลพิษนั้นก็ยังมีท่อแคทและหม้อพักกรองอีกส่วนหนึ่ง รถนะใครก็มีแต่ตังที่จะซ่อมบำรุงมันไม่เท่ากัน

ศูนย์ไม่ทำให้ครับ ถ้าเจ้าของไม่สั่งให้ทำหรือถ้าจะทำก้อเอาตังค์มา

อุด egr ไม่ได้ทำร้ายโลกมากขนาดนั้นครับ แต่ถ้าถอดแคทเนี่ยยอมรับ

ไม่ได้แรงขึ้นจริง เพียงท่อทางเดินอากาศสะอาด

สรุปง่ายๆ อุดEGRทำไห้เครื่องยนต์สะอาด แต่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ถ้าส่วนตัวผม ผมอุด

ใช่สิครับ เข้า0 เข้าแต่ละรอบ แพง จนทุกวันนี้ปมเซอวิสเองแระ ซื้อแค่ของมาทำเอง เหลือค่าเบียร์ อีก สบาย

ถ้าชิ้นส่วนทุกอย่างทำงาน100%ก็ไม่มีปัญหา มันจะมีปัญหาตอนเขม่าจับเซ็นเซอร์มันก็จะอ่านได้ค่าเก่าจะรอบสูงรอบต่ำEgrก็จะเปิดเท่าเดิมเขม่าเพียบ

ผมเป็นคนจนครับถ้าล้างบ่อยๆผมไม่มีเวลาครับผม เพราะผมเป็นคนจนครับผม

คนไทยนี้สุดยอดแล้ววเรื่ิองดราม่า

ผมเจอกับตัวครับเต็มๆ(รถดีเซล)เปลี่ยนหัวฉีดล้างท่อร่วมไอดีปะเก็นแหวน นู่น นั่น นี่ 2หมื่นนิดๆสบายกะเป๋าขึ้นเยอะเลยครับ ปล.บริษัทผู้ผลิตรถ..ทำไมผลักภาระให้ผู้บริโภคละครับคุนมีทุนมีวิศวกรออกแบบไม่ออกแบบให้ไปเลยละครับหรือว่าค่าใช้จ่ายมันจะเพิ่มขึ้น

อุดแค่ไม่กี่ร้อยแต่ถ้าไม่อุดจะได้ซ้อมหลักพันคิดเอา

รถเราอยู่ที่เราเลือกครับ มองตามความเป็นจริงอุดจะสะอาดกว่าไม่มีเขม่ามาตันรูไอดี

ถ้าคุนอุดคุนจ่ายเงิน100บ.จบ ถ้าคุนไม่อุดคุนจ่ายเงิน3,000ทุกๆ3-5หมื่นโล เพื่อเชอวิชท่อร่วมไอดี.ปีกผีเสื้อ ...และที่สำคัญอีก...รถที่อุดจะมีอายุการใช้งานนานกว่า.....การมีอีจีอาร์คือการเอาไอเสียวกกลับมาเผาไหม้อีกเพื้อให้ค่าไอเสียต่ำกว่าเกนท์ที่กำหรดเพื่อการค้าล้วนๆ....แล้วโยนขี้ให้เจ้าของรถในการเสียเงินเอง

อุดแล้วดีครับรถวิ่งดีครับ

ผมวิ่งในเมือง แสนโลพัง แหวนรองหัวฉีดโอริง เลยอุด

อุดแล้วยกแผงอีจีอาออกเรียบร้อยเก็บห้องเครื่องสวยๆ

ไม่ได้แรงขึ้นหรอก​ อุดแร้วท่อมันสะอาดท่อมันโล่งแค่นั้น​ เครื่องก้ร้อนขึ้นกว่าเดิม​ การวิ่งก้เหมือนเดิมเสียงเครื่องจะดังหน่อย​ ก้เลือกเอา และที่ชอบไปถอดสายดักไอออกอะไม่ดีเรยนะ​ ชาพละลายมาหลายคันละ​ อุดท่อบ้างอะไรบ้างทำแบบมั่วๆ​

อุดegrดี99.99ครับเอาความเป็นจริง ส่วนมากมีแต่ขับแล้วไปเข้าศูนย์คิดว่าเขาจะทำให้ทุกอย่างแก้ไขให้ หมดความจริงคือเราขับรถทุกวัน มีเขม่าไปเกาะติดบริเวณปีกผีเสื้อทุกวัน

ผมแนะนำนะคับ ใครที่เครื่องมีเทอโบ ไม่ต้องไปอุดครับ เทอโบใบกระจายระบายไอไม่ทัน แต่ถ้าจะแต่งแรงไว้เเซงหมาก็ตามใจคับ

ถ้ามีผลดีต่อส่วนรวม ภาครัฐ น่าจะช่วยเหลือหรือสนับสนุนในการซ่อมบำรุงหรือช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายนะครับ

ผมอุดตั้งแต่ 2,000 กิโลแรก ถอดออกเดินท่อน้ำใหม่ พ่วงสายแอร์โฟร์

ผมอุดมาแล้ว ดีต่อเครื่องยนต์ น้ำมันหมดระยะยังไม่ค่อยจะดำเลย ส่วนที่บอกว่าทำให้แรงขึ้น อย่าไปเชื่อ ไม่ต่างจากเดิมเลย ใครอยากถนอมเครื่องยนต์แนะนำไปอุดเลยครับ ยิ่งรถเก่ายิ่งควรเลย Nowwww

มันไม่ได้มีแค่เขม่าอย่างเดวนะ มันยังมีไอน้ำมันเครื่องที่ต่อท่อเข้ากับท่อไอดี ซึ่งเมื่อทั้งสองมาเจอกัน เขม่าก็จะกลายเป็นขี้โคลน

เหมาะสำหรับรถแข่ง แต่งซิ่ง รถบ้านธรรมดาๆ ไม่ต้องทำไรดีสุดครับ อย่าลืมว่าโลกเราไม่ได้มีรถแค่คันเดียว มลพิษมีนเยอะกว่าที่คุณคิด คุณมองไม่เห็นมันหรอก

อย่าเห็นแก้ตัวครับจ่งมีใจรักษาสี่งแวดล้อมด้วยนะครับ

กุซื้อรถมาวิ้งได้1000โลกุถอดมาดำปิดแถมมีแต่เศษเขม่าบาลเลย เครื่อง1.9

วาล์วสกปรก => ล้างได้ ปอดสกปรก => ล้างยังไง ???

อยากไห้เปนคราบเขม่าดำๆก็ไม่ต้องอุดครับ

ไม่อุดเครื่องก็สะอาดเหมือนกัน อยู่ที่การบำรุงรักษา , แต่ประเด็นอยู่ที่ศูนย์เซอร์วิสเนี่ยแหละที่มันหลอกว่าล้างแล้วแต่ทำแบบย้อมแมว

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่มนุษย์จะมองเห็นความสำคัญต่อโลกและสิ่งแวดล้อม ภัยธรรมชาติที่เข้ามากระทบความเป็นอยู่ในปัจจุบัน และอนาคตจะแย่ลงเรื่อยๆแล้วพร้อมแล้วหรือยังที่จะปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้อยู่ร่วมกันกับธรรมขาติได้อย่างลงตัว ภัยธรรมชาติไม่ใช่เรื่องตลกและปล่อยผ่านนะครับ ปัญหาสำคัญระดับโลกเลยทีเดียว ระบบต่างๆในประเทศก็ล้มหมด แค่โควิดก็แย่พอแล้วนะ มนุษย์สมัยนี้ นั้น ก็เปรียบเสมือนตัวไวรัสเชื้อโรคที่กัดกินโลกและกัดกินตัวเองไปในตัวเลยทีเดียว แค่ให้ป่าร่มเย็นปกคลุมผิวโลก ระบบเทคโนโลยี การรับมือภัยธรรมชาติที่เตรียมพร้อมระบบกักเก็บน้ำและปล่อยน้ำแบบมีประสิทธิภาพ ระบบกันน้ำกัดเซาะจากชายฝั่ง และมาตรการการฟื้นฟูเยียวยาที่ไม่ใช่มาจากสิ่งของเงินตราแจกคน พลังงานการขับเคลื่อนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่ควรใช้ระบบไฟฟ้า และแหล่งพลังงานไฟฟ้า ที่มากขึ้น ดีไหมครับ อุดหน่ะ มันดีต่อรถ และอัตตราการสึกหรอน้อย ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก แต่ไม่ต้องเถียงกัน เพราะรถอุดไม่อุดก็ปล่อยมลพิษเหมือนกันแค่อุดปล่อยมลพิษเยอะพอตัว แต่ถ้าภาครัฐสนับสนุน รถไฟฟ้าฟ้าทดแทน มีจุดเซอร์วิส มีที่ชาจไฟฟ้าพอๆกับปั๊มน้ำมัน หรือโรงงานรถยนต์ ทำแบบไฟฟ้าผสมน้ำมัน ปรับเปลี่ยน ยิ่งดีไปใหญ่นะครับ เอาตามความเป็นจริงในตอนนี้เนอะ ตลาดหุ้นเอนไปทางพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเป็นยิ่งดีเลย และที่สำคัญน้ำมันย่อมมีวันหมด พลังงานไฟฟ้าจากโซล่าเซล และกังหันลม พลังงานผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนที่ การไฟฟ้า เพิ่มพลังตรงนี้มากขึ้น และภาครัฐจัดโปร ใครใช้รถไฟฟ้าะเสียภาษีถูก และเก็บภาษีแพงกับรถที่ใช้พลังงานจากเชื้อเพลิง คนจะหันมาใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น ถ้าเป็นไปได้นะครับ แต่ก็อยากให้เป็นไปได้จริงๆ ไม่ได้โลกสวยนะ แต่ให้ใช้วิสัยทัศน์ในอนาคต เพื่อลูกหลานของพวกท่านทั้งสิ้น หรือไม่สนใจก็ได้ลูกหลานรุ่นหลังเป็นยังไงช่างมันเอาแค่ตัวเอง ก็ตามดูุลยพินิจเลยครับ

ง่ายๆครับ เค้าคิดค้นมาเพื่อการขาย ไม่งั้นไม่ผ่านตลาดหรือไม่ได้ขาย ไม่แตกต่างกันเลย

ไม่ต้องไปอุดหรอกครับ ไม่ได้ทำให้แรงขึ้นขนาดนั้น เดี๋ยว pm2.5 ก็กลับมาอีก