ฝึก รด หนักจนกล้ามเนื้อสลาย ไตวาย เกิดได้อย่างไร จะหายไหม  

- คนที่อยู่ในอากาศร้อนอย่างประเทศไทยเป็นต้น - ถ้ามีอาการขาดน้ำ ร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ - การบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อโดยตรง - มีการโดนกดทับ เช่น ตึกถล่ม โดนรถชนแล้วถูกอัดก๊อปปี้อยู่นาน - กินยาบางตัวนานๆ บางคนจะมีอาการได้ วันนี้เราจะพูดถึงประเด็นที่ออกกำลังกายมากๆ ใช้พลังงานกล้ามเนื้อแล้วเกิดกล้ามเนื้อสลายได้อย่างไร สาเหตุ ถ้าเราใช้กล้ามเนื้อมากๆ พลังงานในกล้ามเนื้อจะหมดไป เรียกว่า พลังงานกล้ามเนื้อ ATP ย่อมาจาก Adenosine Triphosphate เป็นสารที่ให้พลังงานกับร่างกายทั้งหมดและในกล้ามเนื้อเอง สาร ATP มีความสำคัญในการคลายตัวของกล้ามเนื้อ หากสาร ATP หมด กล้ามเนื้อจะไม่สามารถคลายตัวได้ ทำให้เป็นตะคริวได้ง่าย ตอนที่2

ปัญหาที่เกิดจากสาร ATP หมด กล้ามเนื้อเราเป็นเซลล์ เซลล์จะมีผิวเซลล์ จะต้องมีการรักษาความต่างศักย์ระหว่างประจุภายนอกและประจุภายในให้ได้มาตรฐานเพื่อที่จะให้ทำงานได้ ถ้าประจุเสียไปก็จะเกิดปัญหาขึ้นทันที ตัวรักษาประจุคือช่องทางผ่านของไอออนชนิดต่างๆ ทางการแพทย์ก็จะมี - Sodium-potassium ATPase เป็นช่องทางที่มีการผ่านเข้าออกของ โซเดียมและโพแทสเซียม และจำเป็นต้องใช้ ATP เป็นพลังงาน ถ้าไม่มีความต่างศักย์ของกล้ามเนื้อก็จะเสีย - Calcium channel ATPase เป็นช่องทางผ่านเข้าออกของแคลเซียม ถ้าไม่มี ATP ไม่มีพลังงาน มันก็เสีย ตอนที่3

หาก 2 ตัวนี้เสีย สิ่งที่เกิดขึ้นคือ แคลเซียมในเลือดจะวิ่งเข้าไปในเซลล์กล้ามเนื้อ ถ้าเข้าไปมากๆ จะทำให้เกิดการกระตุ้นเอนไซม์ซึ่งอยู่ในกล้ามเนื้อ เช่น Enzyme protease แล้วจะเกิดการย่อยสลายเซลล์ของกล้ามเนื้อ และทำให้แหล่งผลิตพลังงานของเซลล์ เรียกว่า ไมโตรคอนเดรียเสียไปด้วย ดังนั้นเวลาที่เกิดเข้าไปในเซลล์ของแคลเซียมเหล่านี้ เพราะไม่มี ATP ที่จะปั๊มเอาแคลเซียมออกไปข้างนอก แคลเซียมก็จะรีบเข้าไปในเซลล์ ข้างในก็จะมีแคลเซียมเต็มไปหมด ทำให้เกิดการกระตุ้นเอนไซม์ต่างๆแล้วกล้ามเนื้อก็จะสลาย เมื่อสลายแล้วของที่อยู่ในกล้ามเนื้อก็จะออกไปนอกกล้ามเนื้อ และของที่อยู่ในกล้ามเนื้อหลายๆตัวจะมีปัญหามาก เช่น Myoblobin สารนี้ในส่วนประกอบแกนกลางชื่อ Heme ซึ่งเป็นพิษต่อไต ทำให้เกิดไตวาย ปัสสาวะก็จะสีคล้ำเข้ม สีชา หรือ สีโค้ก ตอนที่4

ดังนั้นคนที่มีอาการกล้ามเนื้อสลายจะมีอาการ 1. ปวดกล้ามเนื้อ หรือ กล้ามเนื้อบวมบริเวณที่มีอาการ ส่วนใหญ่จะเป็นกล้ามเนื้อส่วนต้น เช่น ต้นขา ก้น น่อง หลังโดยเฉพาะส่วนล่าง ต้นแขน ส่วนคนที่ออกกำลังกาย ในกรณีที่เป็น รด มีการลุกนั่งบ่อยๆ บริเวณหลังส่วนล่าง ก้น และ ต้นขา จะปวดมากเวลากล้ามเนื้อสลาย 2. กล้ามเนื้ออ่อนแรงจนลุกไม่ไหว แสดงว่ากล้ามเนื้อสลายเยอะแล้ว 3. มี Myoglobin จากกล้ามเนื้อสลายออกมาจากเลือดไปสู่ไต ทำให้ปัสสาวะสีเข้ม บางครั้งแดงน้ำตาล หากมีอาการแบบนี้ต้องระวัง 4. มีไข้ 5. หัวใจเต้นเร็ว 6. คลื่นไส้อาเจียน 7. ช๊อก หากเรามีอาการดังต่อไปนี้ด้านบน ให้สงสัยภาวะนี้ ให้รีบไปพบแพทย์ ก่อนหน้านั้นให้ดื่มน้ำเยอะๆ การฝึก รด ปี 1 อาจไม่คุ้นกับการออกกำลังกายหนัก การออกกำลังเกินกว่าขีดจำกัด ก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นภาวะนี้ได้มากขึ้น โดยเฉพาะถ้าดื่มน้ำไม่เพียงพอ หรือขาดน้ำ ก็จะมีโอกาสเป็นภาวะนี้ง่ายขึ้น ตอนที่5

เวลามาพบแพทย์ 1. แพทย์จะตรวจเลือด - อาจมีสารแคลเซียมในเลือดต่ำ เพราะเข้าไปในเซลล์ - สารบางอย่างในกล้ามเนื้อจะสลายออกมา เช่น ฟอสเฟต โพแทสเซียม และมีอันตรายต่อร่างกาย จะต้องทำการปรับแก้ 2. ดูภาวะขาดน้ำ 3. ตรวจดูปัสสาวะ หากรุนแรง ไตจะวาย - จะตรวจพบสาร Myoglobin ในปัสสาวะสูงมากขึ้น - จะตรวจพบเอนไซม์ของกล้ามเนื้อต่างๆในปัสสาวะ เช่น เอนไซม์ CPK Creatine phosphokinase หรือ เรียกว่า Creatien kinase จะสูงขึ้น 4. เกิดการแข็งตัวของเลือดในบริเวณที่ไม่ควรจะแข็งตัวตามหลอดเลือดเล็กๆ หรือ เรียกว่า Disseminated intravascular coagulation จะเกิดในกรณีที่มีกล้ามเนื้อสลายแบบรุนแรงมากๆ เวลาที่มีลิ่มเลือดตามหลอดเลือดต่างๆ อวัยวะต่างๆจะเริ่มทำงานไม่ได้ จะเริ่มวายเพราะเลือดโดนอุดตันไปเลี้ยงไม่ได้ ตอนที่6

เอาใจช่วยนะครับคุณหมอ

ขอให้เด็กๆ หายไวๆนะคะ (ท่านนี้คือ นพ.ทรงกรด อุบลสถิตย์ อยู่ที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ค่ะ)

เป็นกำลังใจให้นะครับ อันนี้หนักมากเลยนะครับ ท่าทางจะเป็นมากและนานแล้วกว่าจะมา กรณีแบบนั้นสงสัยต้องทำ extended HD 4 ชม ดึง UF เพิ่ม แล้วทำทุกวัน และถ้ายังมี plasma myoglobin เยอะอยู่ (ถ้าฉี่ไม่ออกเลย plasma น่าจะเปลี่ยนสีจาก myoglobin เวลาปั่น HCT แต่ถ้าฉี่ออกดีก็ดูจากฉี่ครับ) การทำ plasma exchange เสริมไปกับ HD ก็ช่วยได้ครับ โดยทำทั้งหมด 5 ครั้งครับ

เป็นกำลังใจให้ค่ะคุณหมอ 🙏

ขอบคุณอ.หมอแทนมากค่ะ🙏 เป็นกำลังใจให้คุณหมอทรงกลด ในการรักษาน้องๆ และขอให้น้องๆหายเร็วๆนะคะ

น่าจะเลิกเกณฑ์ ทห.ได้แล้ว ให้รับเป็น ทห.อาชีพ จะได้ไม่ต้องเรียน รด.

Long take ไม่มีตัดต่อ ของจริง

เคยคิดเหมือนกันนะ สมองคนเราแค่นี้ ทำไมจำอะไรได้มากมายมหาศาล ภาษาอังกฤษทางการแพทย์กี่หมื่นคำอยู่ในหัวคุณหมอกันนี่ อัจฉริยะจริงๆ

เคยเล่าไปแล้วครับ ru-vid.com/video/%D0%B2%D0%B8%D0%B4%D0%B5%D0%BE-AbeDK0cjiMk.html

+1 คับ ตอนแรกคิดว่าลำโพงที่ซื้อมาใหม่พังซะละ ลองเปิดเพลงฟังปกติ โล่งอก 😅

เห็นด้วยครับ แต่เอาเท่าที่หมอ Tany มีเวลานะครับ เน้นเนื้อหาเป็นลำดับแรก ของเดิมก็ฟังรู้เรื่อง แม้จะไม่เพราะครับ :)

ผมไม่ใช้ไมค์ครับ และพอทำเสียงปกติก็จะมีคนบอกว่ามันเบาไป เร่งขึ้นก็แตก แต่ก็เลยเอาเท่าที่ผมรู้สึกโอเคครับ ผมเคยหาไมค์มาใช้แต่มันก็เสียเร็ว และเสียงก็มีปัญหาอยู่ดีเลยขี้เกียจละครับ ตอนนี้เน้นให้ฟังที่เนื้อหาครับ

ของเราปกติดีทุกอย่างเลยค่ะ เสียงชัดแจ๋ว เราฟังจาก iPhone ค่ะ

@@DrTany ขอบคุณครับหมอ ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องปรับแต่ง ปล่อยเสียง RAW ไปเลยครับ อาจเบานิดหน่อยแต่ไม่มีเสียงแตกรบกวนก็จะดีกว่าครับ

สาเหตุของภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย Rhabdomyolysis เกิดจากกล้ามเนื้อลายส่วนที่เสียหายสลายตัวแล้วปล่อยสารไมโอโกลบินเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งหากมีสารนี้ในปริมาณมากเกินไปจะส่งผลให้ไตเกิดความเสียหายได้ โดยปัจจัยที่อาจทำให้เกิดภาวะนี้ ได้แก่ 🟢ความผิดปกติทางพันธุกรรมของกล้ามเนื้อ 🟢ความผิดปกติเกี่ยวกับระบบการเผาผลาญอาหาร เช่น ร่างกายเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมันผิดปกติ ขาดความสมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย ภาวะเลือดเป็นกรดจากเบาหวาน หรือไฮโปไทรอยด์ 🟢ภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง 🟢อุณหภูมิร่างกายสูงหรือต่ำผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจากภาวะมีไข้สูง โรคลมแดด ไฟไหม้ หรือน้ำร้อนลวก 🟢กล้ามเนื้อขาดเลือดหรือตาย กล้ามเนื้อสั่นอย่างรุนแรง กล้ามเนื้ออักเสบ อาการชักเกร็ง 🟢การออกกำลังกายที่ต้องออกแรงมาก หรือการออกกำลังกายต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอย่างวิ่งมาราธอน 🟢อุบัติเหตุ เช่น รถชน ไฟช็อต หรือฟ้าผ่า เป็นต้น 🟢การติดเชื้อแบคทีเรีย หรือการติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ เริม และเอชไอวี เป็นต้น 🟢การได้รับสารพิษ เช่น พิษงูกัด เป็นต้น 🟢การใช้ยาบางชนิดอย่างยากลุ่มสแตติน เช่น อะทอร์วาสแตติน โรสวาสแตติน และปราวาสแตติน เป็นต้น หรือยาอื่น ๆ เช่น ยาสลบแบบสูดดม เซฟาโลสปอริน โคลชิซิน หรืออิริโทรมัยซิน เป็นต้น 🟢การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก 🟢การใช้สารเสพติด เช่น ยาบ้าหรือแอมเฟตามีน โคเคน เฮโรอีน ยาอี

การวินิจฉัยภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย แพทย์จะตรวจร่างกายผู้ป่วยโดยตรวจดูอาการกดเจ็บของกล้ามเนื้อลายมัดใหญ่โดยเฉพาะบริเวณที่มีอาการปวด อีกทั้งอาจต้องตรวจหาสารต่าง ๆ ในเลือดและปัสสาวะ ดังนี้ 🟠โพแทสเซียม ซึ่งจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อเกิดความเสียหาย 🟠แคลเซียม การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อส่งผลให้ปริมาณแคลเซียมในเลือดลดน้อยลง 🟠ครีอะตินีน เป็นสารที่เกิดจากการสลายตัวของกล้ามเนื้อ โดยถูกกำจัดออกจากร่างกายผ่านทางไต 🟠ครีเอทีนไคเนส เป็นเอนไซม์ที่พบในกล้ามเนื้อลาย สมอง และหัวใจ โดยจะตรวจพบสารนี้ในปริมาณสูงหากกล้ามเนื้อเกิดการสลายตัว 🟠ไมโอโกลบิน เป็นโปรตีนที่เกิดจากกระบวนการสลายตัวของกล้ามเนื้อเช่นกัน

ขอบคุณค่ะพี่หมวย... น่าสงสารเด็กนะคะ ครูก็โหดเกิ๊น...

@@FragranzaTrippa อรุณสวัสดิ์ค่ะน้องทริป พี่ยังไม่ได้อ่านคอมเม้นท์เลย ง่วงนอนมาก 🤣🤣 สงสารเด็กและผู้ปกครอง เขาให้สัมภาษณ์เขาห่วงลูกเขามาก เห็นใจเลย ลูกเขาต้องเข้ารพ.

น่าจะคนละอย่างครับ

@@DrTanyขอบคุณมากค่ะ

1) มันยิ่งทำให้แย่ลงครับ 2) ผ่าตัดครับ

@@DrTany ขอบคุณค่ะ

จากประสบการณ์ เดียวกัน..ยาที่รพ.เอกชนให้จะดีกว่ารพ.รัฐ..การใช้ยาคุณภาพที่ดีกว่า(แพงกว่าหลายเท่า)

จากประสบการณ์นะคะ Augmentin (เป็นชื่อการ ค้า)เป็นยาสูตรผสมระหว่าง amoxicillinและclavulonic acid เป็นยาปฎิชีวนะกลุ่ม เพนนิซิลิน ใช้ในการรักษา โรคติดเชื้อที่มีสาเหตุจาก แบคทีเรีย มักใช้กรณีที่มี การติดเชื้อค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากตัวยาเหมาะกับ เชื้อที่ค่อนข้างดื้อยาอื่นหรือ เคยใช้Amoxicillin แบบ แคปซูลมาแล้วอาการไม่ดี ขึ้น Augmentin ยาตัวนี้ ตัวยาออกฤทธิ์ครอบคลุม เชื้อค่อนข้างกว้างได้ผล ค่อนข้างไว สำหรับเชื้อ ดื้อยา แต่ต้องกินให้ครบ โดสในการรักษาและไม่ แนะนำซื้อทานเอง ควรได้ รับการตรวจจากแพทย์ค่ะ

@@Hoshi1451 ถูกต้อง👍

มันก็ช่วยครับ

เบื้องต้นนะคะ คนกลุ่มนี้ถือว่า มีความผิดปกติในเรื่องระบบย่อยอาหาร คือ หูรูดกระเพาะทำงานผิดปกติ ทำให้อาหารเคลื่อนตัวจากกระเพาะลงไปที่ลำไส้เร็วกว่าปกติ จนร่างกายไม่สามารถย่อยหรือดูดซึมอาหารไว้อย่างเพียงพอ ซึ่งแม้จะกินมากแต่ร่างกายยังไม่สามารถดูดซึมสารอาหารและนำพลังงานมาใช้ประโยชน์ต่อร่างกายได้ จนกว่าจะกินมากในปริมาณถึงมื้อละ 4-5 กิโลกรัมก็มีค่ะ // บางคนก็เกิดมามีกระเพาะอาหารใหญ่กว่าคนทั่วไป สามารถขยายได้ถึง 15 เท่าของคนปกติ // คนกินจุมีปริมาณบิฟิโดแบคทีเรียมในลำไส้สูงกว่าคนปกติถึง 3 เท่า จะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นยากและศูนย์อิ่ม จะไม่ถูกกระตุ้นให้เปิด ทำให้รู้สึกอิ่มได้ยากกว่าคนปกติทั่วไปค่ะ

เรื่องนั้นไม่ใช่กล้ามเนื้อสลายค่ะ แต่เป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรงค่ะ

ออกกำลังกายเยอะๆเลยครับ เตรียมร่างกาย

@@DrTany ขอบพระคุณมากค่ะ

หยุดยาแล้วมันก็จะหายเองครับ ถ้ามันไม่หายก็แปลว่าต้องมีสาเหตุอื่นๆอยู่ครับ ที่สำคัญต้องไปหาหมอที่จ่ายยาแจ้งให้เขาทราบ เพราะถ้าไขมันยังสูงคุมไม่ได้ก็ต้องใช้ยาตัวอื่นครับ

ถ้าเป็นก็ยืดกล้ามเนื้อนั้นและประคบร้อนครับ นอกนั้นดื่มน้ำให้พอ ยืดกล้ามเนื้อนั้นบ่อยๆ ออกกำลังกายกล้ามเนื้อนั้นบ่อยๆครับ

@@DrTany ขอบคุณค่ะคุณหมอ จะพยายามทำตามคำแนะนำค่ะ ไม่จำเป็นต้องกินยา หรือขาดแร่ธาตุอะไรใช่ไหมคะ

@@niponboon2195 ครับ

ขอบคุณค่ะอาจารย์หมอ

กินน้ำเยอะๆครับ ถ้าไม่ดีขึ้นต้องรีบไป รพ ครับ ไม่งั้นไตวายได้ครับ

ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้วครับแต่ยังมีอาการเมื่อยต้นขาและก้นหลังล่างอยู่บ้างครับ เราควรวางแผนการออกกำลังกายหรือเตรียมตัวอย่างไร ไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกครับคุณหมอ ขอบคุณมากครับ

@@Topmemory69 ดื่มน้ำให้พอ และอย่าฝืนเกินครับ

ผมก็ตอบไม่ได้ครับ ถ้ากังวลก็ควรไปตรวจครับ

@@DrTany ขอบพระคุณมากค่ะคุณหมอ☺️

มีแต่ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำครับ

(ส่วนที่ 2) ถ้าเราลงไปดูรายละเอียดว่าเหตุผลที่มันเกิด มันเกิดขึ้นได้อย่างไรในระดับโมเลกุล❓ เวลาใช้กล้ามเนื้อมากๆแน่นอนว่าพลังงานในกล้ามเนื้อของร่างกายเราจะต้องหมดไป พลังงานที่ว่านี้ก็คือสารตัวหนึ่งชื่อว่าแอดีโนซีนไตรฟอสเฟต (เอทีพี) (adenosine triphosphate (ATP)) เป็นสารซึ่งให้พลังงานกับร่างกายทั้งหมดและในกล้ามเนื้อเองสาร ATP นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการคลายตัวของกล้ามเนื้อถ้าเกิดว่าสาร ATP หมดปุ๊บกล้ามเนื้อเราจะไม่สามารถคลายตัวได้จะเกิดเป็นตะคริวขึ้นมาได้ง่าย นะครับอันนี้คือเป็นอาการหลักๆเลย แต่ถ้ามันหมดไปแล้วส่วนอื่นๆของกล้ามเนื้อก็จำเป็นจะต้องใช้สาร ATP เหมือนกัน ทีนี้ถ้าเกิดมันไม่มี ATP แล้วปัญหาอะไรที่จะเกิดขึ้นบ้างนะครับ❓ กล้ามเนื้อของเรามันเป็นเซลล์นะครับเซลล์ก็จะมีผิวเซลล์ ผิวเซลล์จะต้องมีการรักษาความต่างศักย์ระหว่างประจุภายนอกและประจุภายในให้ได้มาตรฐานของมันเพื่อให้มันทำงานได้ ถ้าเกิดว่าตัวรักษาประจุเสียไปก็จะเกิดเรื่องขึ้นมาทันที ตัวรักษาประจุนี้ก็คือเป็นช่องทางผ่านของไอออนชนิดต่างๆในทางการแพทย์ก็จะมีชื่อว่า Sodium-potassium ATPase ตัวนี้มันเป็นช่องทางที่มีการผ่านเข้าออกของโซเดียมกับโพแทสเซียมแล้วมันจะเป็นจะต้องใช้ ATP ด้วย ถ้าเราไม่มีพลังงานมันก็เสียความต่างศักย์ของกล้ามเนื้อก็เสีย อีกตัวหนึ่งคือ Calcium channel ATPase คือช่องทางผ่านเข้าออกของแคลเซี่ยมนั้นเองถ้ามันไม่มี ATP ไม่มีพลังงานมันก็เสีย และเวลาที่สองตัวนี้มันเสียสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือแคลเซี่ยมในเลือดมันจะวิ่งเข้าไปสู่ในเซลล์กล้ามเนื้อทั้งหมด การที่มันเข้าไปในเซลล์กล้ามเนื้อไม่ใช่ของดีนะครับ ถ้าเข้าไปมากๆมันจะทำให้เกิดการกระตุ้นเอนไซม์ซึ่งอยู่ในกล้ามเนื้อเช่นเอนไซม์ที่ชื่อว่า Protease แล้วมันจะเกิดการย่อยสลายของเซลล์กล้ามเนื้อ นอกเหนือจากนี้มันยังไปทำให้แหล่งผลิตพลังงานของเซลล์ที่ชื่อว่าไมโทคอนเดรีย (Mitochondrion) เสียไปด้วย ดังนั้นเวลาที่มันเกิดการเข้าไปในเซลล์ของแคลเซี่ยมพวกนี้เพราะว่า ATP มันไม่มีที่จะปั๊มเอาแคลเซี่ยมออกไปข้างนอก แคลเซี่ยมมันก็จะเข้ามาข้างในหมดเลย ข้างในก็จะแคลเซี่ยมเต็มไปหมดก็ทำให้เกิดการกระตุ้นเอนไซม์ต่างๆและกล้ามเนื้อของเราก็จะสลายนะครับ เวลามันสลายสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือของที่อยู่ในกล้ามเนื้อมันก็จะออกไปนอกกล้ามเนื้อ แล้วของที่อยู่ในกล้ามเนื้อมีหลายตัวที่เป็นปัญหาเช่น สารไมโอโกลบิน (myoglobin) มันมีส่วนประกอบตัวหนึ่งก็คือส่วนประกอบแกนกลางชื่อว่าฮีม (heme) ตัวนี้เป็นพิษต่อไต ดังนั้นถ้าเกิดว่ากล้ามเนื้อเราเกิดการสลายสารไมโอโกลบินออกมาข้างนอกเยอะๆ สารไมโอโกลบินก็จะวิ่งไปตาม ส่วนต่างๆของร่างกาย สุดท้ายลงไปที่ไต ก็ทำให้ไตวาย และปัสสาวะของเราก็จะเป็นสีคล้ำเข้มเหมือนกับสีชาสีโค้ก นี่คือสีของไมโอโกลบิน หรือสีของกล้ามเนื้อที่มันสลายออกมานะครับ

(ส่วนที่ 3) ดังนั้นคนที่มีอาการกล้ามเนื้อสลายจากการออกกำลังกายมากๆอาการที่พบคือ ➡️ ปวดกล้ามเนื้อ หรือบางคนมีกล้ามเนื้อบวมในบริเวณที่เรามีอาการนะครับ กล้ามเนื้อบริเวณไหนบ้างที่เรามักจะปวด❓ ส่วนใหญ่จะเป็นกล้ามเนื้อส่วนต้นเช่นต้นขา ก้น น่อง หลังส่วนล่าง ต้นแขน ➡️ มีไมโอโกลบินจากกล้ามเนื้อที่สลายออกมาในเลือดและไปสู่ไต ไตจะเริ่มมีการขับไมโอโกลบินออกมาทำให้ปัสสาวะของคนเหล่านี้สีเข้มขึ้น สีน้ำตาล มีอาการแค่นี้ต้องระวังมากแล้วนะครับ ว่ามีอาการกล้ามเนื้อสลายนะครับ ➡️ มีไข้ ➡️ หัวใจเต้นเร็วขึ้น ➡️ มีอาการคลื่นไส้อาเจียน ➡️ ถ้าเป็นหนักอาจถึงขั้นช็อคเลยก็ได้นะครับ ถ้ามีอาการเหล่านี้ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเรามีภาวะนี้ให้รีบไปตรวจรักษา และก่อนหน้านั้นให้ดื่มน้ำเข้าไปเยอะๆ เวลามาพบแพทย์สิ่งที่แพทย์จะตรวจก็คือเลือด ดูอะไรบ้าง❓ ▶️คนเหล่านี้จะมีภาวะหลายอย่างที่น่าเป็นห่วง อย่างแรกก็คือ อาจจะมีสารแคลเซี่ยมในเลือดที่ต่ำเพราะมันเข้าไปในเซลล์หมด และเวลาที่แคลเซี่ยมในเลือดต่ำจะมีผลต่างๆตามมาเต็มไปหมด สารบางอย่างที่อยู่ในกล้ามเนื้อมันจะสลายออกมาก็คือสารฟอสเฟต สารโพแทสเซียม พวกนี้จะสูงขึ้นและมีอันตรายต่อร่างกายด้วยซึ่งเราก็ต้องไปปรับแก้มัน ▶️ ดูภาวะของการขาดน้ำ ▶️ ถ้าเป็นรุนแรงไตก็จะวายไป จะตรวจพบเจอสารไบโอโกลบินในปัสสาวะได้สูงมากขึ้น ▶️ เอนไซม์ของกล้ามเนื้อต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นเอนไซม์ CPK (Creatine phosphokinase) เรียกอีกชื่อคือ Creatine kinase ย่อว่า CK ก็จะสูงขึ้นเพราะมันรั่วออกมา โดยทั่วๆไปถ้าเกิน 5000 ก็น่ากลัวว่ามันอาจจะทำให้คนคนนี้มีภาวะไตวายหรือมีภาวะอย่างอื่นแทรกซ้อนเข้ามาได้นะครับ ▶️ ตรวจดูว่ามันมีภาวะเกิดการแข็งตัวของเลือดในบริเวณที่ไม่ควรจะแข็งตัวตามหลอดเลือดเล็กๆ หรือเรียว่า DIC (Disseminated Intravascular Coagulation)

(ส่วนที่ 4) ถ้าเป็นแล้ว รักษาอย่างไร❓ ⏩️ เอาน้ำเข้าไปในร่างกายคนไข้ให้เร็วที่สุดด้วยการให้ทางเส้นเลือด ปกติน้ำเกือที่เราให้จะเป็นน้ำเกลือที่เรียกว่า Normal Saline ในช่วงแรกอาจจะต้องให้ 1 ถึง 2 ลิตรต่อชั่วโมงเลยด้วยซ้ำไป โดยเฉพาะคนที่มีอาการขาดน้ำ ที่ต้องทำแบบนี้เพื่อที่จะให้ไตขับปัสสาวะขับเอาสารพิษออกทิ้งให้เร็วที่สุด ถ้าเกิดสารพิษไบโอโกลบินมันค้างอยู่ในไตนานๆโอกาสที่มันจะทำอันตรายต่อไตก็จะยิ่งสูงขึ้นนะครับ เราจะให้สารน้ำนี้เข้าไปให้เร็วโดยที่เราจะต้องดูปริมาณปัสสาวะของคนไข้ด้วยเราต้องการให้ปัสสาวะของคนใครออกประมาณ 200 ถึง 300 ซีซีต่อชั่วโมง และเมื่อปัสสาวะของคนไข้ 200 ถึง 300 ซีซีต่อชั่วโมงแล้วเราถึงจะทำการรักษาขั้นตอนต่อไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะเตือนแพทย์ที่รักษาถ้าคนไหนที่ไม่คุ้นชินกับภาวะนี้อย่าให้ยาขับปัสสาวะโดยเด็ดขาด ถ้าคนไข้ปัสสาวะไม่ออกสิ่งที่ควรจะทำต่อไปก็คือการล้างไต เราต้องรีบล้างไตอย่าปล่อยทิ้งไว้มิฉะนั้นจะยิ่งมีปัญหาได้อีก ⏩️ สมมุติว่าคนไข้ เราให้น้ำเพียงพอแล้วและสามารถปัสสาวะออกมาได้ตามที่เราต้องการ สิ่งต่อไปซึ่งอาจจะได้ประโยชน์ก็คือพยามให้ปัสสาวะมีความเป็นด่างเพิ่มขึ้น เคยได้ฟังเรื่องของน้ำด่างที่ผมพูดไปใช่ไหมครับว่ามันจะทำให้ปัสสาวะมีความเป็นด่างได้ ไอ้ความเป็นด่างนี่แหละครับอาจจะมีประโยชน์ในภาวะนี้นะครับ การที่ทำให้ปัสสาวะเป็นด่างมันสามารถที่จะไปหยุดยั้งอนุมูลอิสระบางอย่างซึ่งเกิดขึ้นจากไมโอโกลบินที่ร่วมมาทางไตนะครับ ทำให้มันไม่ค่อยทำอันตรายต่อไตได้ แต่เราจะไม่ได้ทำในทุกกรณี เราจะทำในกรณี ที่จะต้องรู้บางอย่างก่อน 🔘 จะต้องไม่มีการขาดน้ำแล้ว คือต้องรักษาเรื่องการขาดน้ำก่อน 🔘 จะต้องไม่มีภาวะน้ำเกินในร่างกาย ถ้าเราให้น้ำจนน้ำเกินในร่างกายก็อันตรายต่อร่างกายเพราะว่าน้ำท่วมปอดได้นะครับ 🔘 ดูว่าปริมาณไบคาร์บอเนตหรือปริมาณด่างในร่างกายต้องไม่มากจนเกินไป ในทางการแพทย์ถ้ามีหมอเข้ามาฟังนะครับ ไบคาร์บอเนตในเลือดจะต้องไม่เกิน 30 นะครับ และ pH ในเลือดจะต้องไม่เกิน 7.5 ถ้าเกินนั้นอย่าให้เด็ดขาด

(ส่วนที่ 5) เวลาที่ให้ไบคาร์บอเนตพวกนี้ ให้อย่างไร❓ จะผสมเข้าไปในน้ำเกลือเช่นผสม 150 mEq ใน 5% Dextrose water 1000mL เราจะมีการปรับขนาดที่เราให้เขาไปก็คือปรับให้คนไข้มีค่าความเป็นกรดด่างในปัสสาวะเกิน 6.5 นะครับ และที่เหลือคือต้องตรวจติดตามอาการ แล้วก็รอดูว่าคนไข้ฟื้นตัวได้เร็วแค่ไหน ถ้าไม่ฟื้นตัวปัสสาวะน้อยลงเรื่อยๆ อย่างนี้ไม่ต้องทำอะไรแล้วครับ รีบล้างไตโดยด่วนนะครับ เราทำได้แค่นี้ เราไม่มีวิธีการรักษาแบบอื่น ไม่มียาอะไรที่ทำให้กล้ามเนื้อหายสลาย 🔘 เมื่อไหร่ก็ตามที่เราให้น้ำเข้าไปเร็วๆแบบนี้แล้วคนไข้มีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อ สลายเยอะ ถ้าปัสสาวะออกมาไม่ค่อยมาก ต้องระวังภาวะหนึ่งคือภาวะที่เรียกว่า Compartment syndrome คืออะไร สมมติกล้ามเนื้อที่เราเป็น เป็นกล้ามเนื้อที่แขน เวลาที่เราให้น้ำเข้าไปเรื่อยๆน้ำก็จะกองอยู่ที่ตรงนั้น พอมันกองมากๆก็ทำให้บริเวณนั้นจะเต่ง ความดันในกล้ามเนื้อตรงนั้นจะสูงมากขึ้น พอมันสูงมากขึ้น มันถูกจำกัดให้อยู่ในที่แคบๆเพราะความดันสูงขึ้นเรื่อยๆ มันจะเกิดการขาดเลือดและกล้ามเนื้อก็จะยิ่งสลาย พวกนี้เป็นภาวะเร่งด่วนที่เราจะต้องรีบตรวจ ถ้าเกิดว่าให้สารน้ำไปแล้วคนไข้ปวดกล้ามเนื้อมากขึ้นนั้นแปลว่าเราอาจจะเจอปัญหาเรื่องของ Compartment syndrome ซึ่งต้องรีบรักษาโดยด่วนนะครับ ผลการรักษาจะเป็นอย่างไรจะกลับมาเป็นปกติได้หรือเปล่า❓ 🔸 ประการแรกเรื่องของกล้ามเนื้อสลายร่างกายจะซ่อมแซมตัวเองได้ มันจะกลับมาเป็นปกติได้เองนะครับ 🔸 ส่วนเรื่องไตวายเป็นข่าวดีอย่างหนึ่งของคนที่มีภาวะกล้ามเนื้อสลายเพราะว่าไตวายต่อให้ถึงขั้นต้องล้างไตส่วนมากไตจะกลับมาทำงานได้เป็นปกตินะครับ แน่นอนว่าจะต้องมีส่วนน้อยที่ไตมันเสียไปแล้ว ในส่วนน้อยนี้ส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าเรามีภาวะกล้ามเนื้อสลายและเป็นอยู่นาน นานจนกระทั่งไตเสียไปคือปัสสาวะเริ่มสีเข้ม แล้วยังไม่มาหาหมอรอจนกระทั่งปัสสาวะเริ่มออกน้อยแบบนี้ก็แปลว่าไตโดนถูกทำลายไปค่อนข้างมากแล้ว พอมันโดนทำลายมากๆมันก็มีโอกาสที่จะไม่ฟื้นกลับมานะครับ ดังนั้นถ้าเริ่มมีอาการจะต้องรีบไปพบแพทย์

(ส่วนที่ 6) 💠โดยสรุป คนที่มีปัจจัยเสี่ยงในการออกกำลังกายหนักมากแล้วเกิดกล้ามเนื้อสลายก็คือ คนที่มักจะไม่ค่อยได้ออกกำลังกายตั้งแต่แรก แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่ออกกำลังกายประจำจะเป็นไม่ได้นะครับ เป็นได้เหมือนกัน อย่าออกกำลังกายหักโหมเด็ดขาด และถ้าออกกำลังกายแบบนั้นไปแล้วควรจะต้องมีการดื่มน้ำให้เพียงพอ อาการที่ต้องรีบมาพบแพทย์ก็คือ 🔺ถ้ามีอาการปวดกล้ามเนื้อมากๆ 🔺ปัสสาวะเริ่มสีเข้ม 🔺โดยเฉพาะคนที่เริ่มมีอาการคลื่นไส้อาเจียน มีไข้ต่ำๆ หัวใจเต้นเร็วตลอดเวลา 🔺และรู้สึกว่ากล้ามเนื้ออ่อนแรง เวลาที่รักษาเราจะให้สารน้ำเข้าไปอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะพยายามขับเอาสารพิษออกมาทางไตให้หมด ถ้าขับได้แล้วส่วนใหญ่ก็จะดีขึ้น แล้วอย่ากลับไปออกกำลังกายแบบเดิมไม่เช่นนั้นอาจจะกลับมาเป็นใหม่ได้ต้องระวังให้ดี

มันไม่ได้ช่วยครับ แต่ต้องเป็นการได้น้ำให้เพียงพอ และพลังงานให้พอครับ เช่นพลังงานจากพวกเจลที่ใช้เวลาวิ่งมาราธอนครับ

1) ไม่ดีครับ มันจะยิ่ง dilute เกลือแร่ลงและได้อีกปัญหามาแทนครับ 2) กินน้ำเยอะๆเลยครับ ส่วน hyperventilation ไม่จำเป็นครับ ร่างกายคนไข้จะตัดสินใจเองอยู่แล้วครับ

@@DrTany ขอบคุณครับ

ไม่ใช่ครับ ออกเท่าที่ไหวครับ แค่อย่าฝืนพอครับ

@@DrTany โอเคค่ะคุณหมอ ขอบคุณมากค่ะ❤️

1) วิ่งต่อได้ไม่อันตรายครับ 2) มีส่วนแต่ไม่ได้น่ากลัวอะไรครับ

ควรไปหาหมอทางด้านพันธุกรรมครับ มีเฉพาะใน รพ มหาวิทยาลัยใหญ่ๆ เช่น จุฬา ศิริราช และรพ เอกชนใหญ่ๆ เช่น บำรุงราษฎร์ ครับ

ควรถ่ายวีดีโอตัวเองตอนเดิน แล้วดูว่าส่วนไหนที่เราควรแก้ไขครับ

ควรเปลี่ยนมานั่งชักโครก และควรมีการออกกำลังขา เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า ด้านหลัง ต้นขาด้านใน ต้นขาด้านนอก น่อง ครับ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนครับว่ามีท่าบริหารท่าไหนที่ทำได้แล้วปลอดภัย เพราะถ้าไม่ทำแล้วปล่อยไว้โดยไม่ทำอะไร กล้ามเนื้อจะเสียไปเรื่อยๆแล้วในที่สุดจะลุกยืนหรือเดินไม่ได้ครับ

ไม่เกี่ยวกันหรอกครับ

@@DrTany ขอบคุณมากๆค่ะ จะได้สบายใจ

ถ้ามีจ้ำเขียวก็ต้องแปลว่ามีการกระแทกตรงนั้นแน่ๆครับ ส่วนอาการชานั้นอาจมีเส้นประสาทที่ต้นคอโดนกด ซึ่งก็ต้องไปตรวจกับหมอกระดูกครับ

ภาวะกรดยูริกในเลือดสูงเป็นความผิดปกติที่พบใด้บ่อย ทางการแพทย์จะกำหนดว่าเมื่อกรดยูริกในเลือดสูงเกินขีดจำกัดของความสามารถในการละลายของกรดยูริก(Monosodiumurate)คือ6.8มก/ดล.ที่อุณหภูมิ37องศาเซลเซียสถือว่ามีภาวะกรดยูริกสูง ระดับกรดยูริกในเลือดที่เกิน7มก/ดลจะเริ่มมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคข้ออักเสบจากผลึกเกลือยูเรตหรือโรคเกาต์และเสี่ยงต่อการเป็นนิ่วที่ไตเราจึงใช้ระดับกรดยูริกมากกว่า7มก| ดล ในการบอกว่าเป็นภาวะกรดยูริกในเลือดสูงค่าการทำงานของไต_ระดับครีเอตินิน)นน อายุ เพศ ความดันโลหิตและการดื่มแอลกอฮอล์ล้วนเป็นปัจจุยทำให้เกิดภาวะกรดยูริกในเลือดสูงใด้ในเด็กระดับกรดยูริกในเลือดจะอยู่ในช่วง3000-4มก/ดลเนื่องจาดมีการขับออกทางไตได้ เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาวผู้ชายค่ากรดยูริกในเลือดจะเพิ่มขึ้น1-2มก/ดลมักจะคงที่ระดับนี้ไปตลอดชีวิตในขณะที่ผู้ญแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงค่าจนกว่าจะหมดประจำเดือนชึ่งเป็นผลจากฮอร์โมนเพศญ เอสโตรเจนซึ่งมีฤทธิ์ในการเพิ่มการขับกรดยูริกออกทางปัสสาวะหลังวัยหมดปจด ระดับกรดยูริกในผู้ญจะค่อยๆสูงขึ้นจนมีค่าใกล้เคียงกับระดับกรดยูริกในเลือดของผู้ชายระดับกรดยูริกในเลือดที่มากกว่า9มก /ดลจะทำให้เกิดโรคเก้าต์ต่อปีสูงขึ้น4.9%เมื่อเทียบกับคนที่มีระดับกรดยูริกในเลือดน้อยกว่า7มก/ดลจะพบเพียง0.1%เท่านั้นแต่อย่างไรก็ตามผู้ที่มีภาวะกรดยูริกในเลือดสูงส่วนใหญ่จัไม่มีอาการโรคเกาต์แต่มักจะพบอาการทางเมตาบอลิกได้แก้โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคอ้วนลงพุงและโรคเบาหวานชริดไม่พึ่งอินซูลิน แต่หากกรดยูริกสูงต่อเนื่องเวลานานจะส่งผลต่อการเกิดโรคเกาต์ใด่โดยผู้ที่มีระดับกรดยูริกในเลือดมากกว่า9มก/ดลเป็นเวลา5ปีจะมีโอกาสเป็นโรคเกาต์สูงถึง22%ในขณะที่ผู้มีระดับกรดยูริก7-8.9มก/ดลนาน5ปีพบ3% รักษาโดยไม่ใช้ยา 1ออกกำลังกายและลดนน สามารถทำให้ระดับกรดยในเลือดลดลงและลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเกาต์ใด้ 2 จำกัดการรับประทานเนื้อแดงหรืออาหารทะเลการรับประทานเนื้อแดงมากจะทำให้ระดับกรดยูริกในเลือดเพิ่มขึ้นเสี่ยงต่อการเป็นโรคเกาต์3 รักษาภาสะหรือโรคอื่นๆที่พบร่วมเช่นความดันโลหิตสูงเบาหวาน ภาวะไขมันในเลือดสูงก การรักษาแบบใช้ยา ต้องปรึกษาแพทย์เพื่อรับการสินิจฉัยและการใช้ยาที่ถูกต้องและเหมาะสมในแต่ละบุคคล อย่างไรก็ดีหากพบความผิดปกติของกรดยูริกการลดระดับกรดยูริกในเลือดโดยการปรับพฤติกรรมเป็นวิธีที่ดีที่สุด สามารถทำได้เลยไม่มีอันตรายและผลข้างเคียง ปล มีคำแนะนำเพิ่มเติมคุณหมอจะมาเพิ่มให้นะค่ะ

อุณหภูมิที่สูงเกิน เอนไซม์ต่างๆจะทำงานไม่ได้รวมทั้งกล้ามเนื้อด้วยครับ

ขอบคุณค่ะอาจารย์🙏🏻

@@DrTany การที่กล้ามเนื้อไม่สามารถทำงานได้นั้นรวมถึงการที่กล้ามเนื้อไม่สามารถควบคุมการผ่านเข้าออกของสารผ่าน ion channels ต่างๆ และการทำงานของ mitochondria ของกล้ามเนื้อที่เสียไปด้วยเนื่องจากความร้อน พอไม่มีพลังงาน และบวกกับมีแคลเซียมเข้ามามากขึ้นไปกระตุ้นเอนไซม์กล้ามเนื้อ ทำให้เกิดการย่อยสลายของกล้ามเนื้อตามมาได้ แบบนี้คือเข้าใจถูกมั้ยคะอาจารย์🙏🏻🙇🏻‍♀️

อันนั้นถือว่าน้อยครับ แต่ก็ควรไปหาเหตุผลด้วย เช่น ออกกำลังกายมาก ไทรอยด์ต่ำ ยาบางอย่าง ต้องถามหมอที่ตรวจครับ

@@DrTany ขอบคุณค่าคุณหมอแทน