TTF EP128: เดินกับวิ่ง อันไหนเผาไขมันได้ดีกว่ากัน? 

ผมลดน้ำหนักได้เพราะการเดินครับ มันทำให้ร่างกายบาดเจ็บน้อยกว่าการวิ่งทำให้ผมออกกำลังกายได้ต่อเนื่อง วิ่งแปปๆเดียวผมก็ท้อแล้ว (ผมสามารถลดจาก 70 ลงมาเหลือ 57 กก. ได้ด้วยการเดิน)

เดินด้วยความเร็วที่เหมาะสมกับร่างกาย ในระยะเวลาที่เหมาะสม เบิร์นสบายๆ ระยะยาวร่างกายไม่ทรุดโทรม หัวใจทำงานได้ดีแบบมีเสถียรภาพ ออกกำลังกายผมว่าให้แข็งแรงในระยะยาวมันควรสัมพันธ์กับร่างกายเราด้วยครับ ไม่ใช่เล่นหนัก ออกหนักอย่างเดียว เราอาจยืนระยะเพื่อการออกกำลังกายไม่ได้นานครับ ขอบคุณความรู้ดีๆครับ แข็งแรงสุขภาพดีกันทุกท่านครับ

หลักง่ายๆ คือ จะถึงไขมันออกมาได้ ต้องใช้น้ำตาลในเลือด และไกลโคเจนในตับจนไม่พอ ร่างกายถึงจะเลือกสลายไขมันมาใช้ ดังนั้น จะลดไขมัน ต้อง 1. หนักพอ แต่ไม่ต้องหนักมาก (เดินได้ แต่ต้องเร็วหน่อย ไม่ใช่ทอดน่อง ชมนกชมไม้) 2. นานพอ อย่างน้อย ครึ่ง ชั่วโมง 3. สม่ำเสมอ อาทิตย์ละซัก 3-4 วัน พวกที่เห็นวิ่งหนักๆ หลายคนยืนระยะไม่ได้ สุดท้ายโยโย่ครับ

เดินครับ ปรับสมดุลย์ของร่างกายได้ดีกว่า แต่ก่อนผมก็วิ่ง ตอนนีีใช้เดินโดยระยะทางเท่าเดิม ใช้เวลาเพิ่ม 2 เท่า แต่ดีกว่ามาก ๆ ไม่ต้องกลัวเป็นโรคไขข้อเข่าตอนอายุเยอะตามที่คนมีอายุพลาดไปแล้วบอก

คนไทยบางคนต้องอายการออกเสียง ร ล ชัดมากขอแสดงความชื่นชมนับถือค่ะ. ฟังไม่สะดุดหูเลย. การใช้ภาษาดีมาก

Totally Agree ครับ สรุปไม่ว่าจะวิ่งหริอเดิน สำคัญสุดคือ “ความสม่ำเสมอ”

ขอบคุณ คุณMARK ที่ใช้การยกมือไหว้ ก่อน และ จบ รายการ ซึ่งต่างจาก คนไทยที่ทำยูทูปหลายๆ คน

เอาเท่าที่ร่างกายของเราสามารถเผชิญได้ ดีที่สุด ผมก็เป็นมือใหม่หัดลดน้ำหนัก ผมลดความอ้วนจาก 75 ลงมา 63 ด้วยการเดินตามจังหวะเพลง 130-138 bpm ประมาณ 1 -1.2 หมื่นก้าวต่อวัน เพราะผมวิ่งไม่ได้ เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับช่วงขา 3 เดือนแรกนี่ไม่ลงเลยซักกิโล จนท้อใจ แต่ช่วงเดือนที่ 4 นี่บอกเลยว่าลงแบบใจหายเลย จนแบบคิดว่าตัวเองมีโรคอะไรรึเปล่า และที่สำคัญเลยที่อยากค่อยๆลด เพราะกลัวผิวหนังจะเหี่ยวห้อย ทุกวันนี้ก็ยังเดินเป็นหลัก สลับวิ่งเล็กน้อยเพื่อเรียกความเร็วในการก้าวขา และที่สำคัญไม่แพ้เลยคือรองเท้าที่เราใส่ ควรให้เท้าเราอยู่ในรองเท้าที่เหมาะสมด้วย เท้าแบน เท้าแคบ เท้าบาน เท้าโก่ง เรื่องนี้อย่ามองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเด็ดขาด

คนอ้วนให้เดิน ควบคู่กับการคุมอาหารให้ดี อย่าท้อครับ ใครที่กำลังลดน้ำหนัก สู้ๆครับ ผมก็ลดอยู่

เดินมันลดได้ดีกว่า เหตุผลหลักๆเลย เราวิ่งแปบเดียวก็เหนื่อยไม่มีความสุข ถ้าเป็นเดิน เดินได้เกือบ 2 ชั่วโมงทุกวัน ค่อยๆเหนื่อยดีกว่า อยากวิ่งก็ค่อยวิ่ง

การวิ่งลดไขมันได้มากกว่า แต่ถ้าจะทำให้ได้ทุกวันก็เหนื่อยกว่าและเสี่ยงต่อการบาดเจ็บมากกว่า การเดินลดไขมันได้น้อยกว่า แต่สามารถทำได้ทุกวัน เพราะเป็นกิจกรรมที่ไม่หักโหมและแทรกซึมอยู่ในการใช้ชีวิตประจำวันอยู่แล้ว การลดไขมันต้องดูที่ความต่อเนื่องของกิจกรรมที่ทำเป็นสำคัญครับ แม้การวิ่งจะเผาผลาญได้มากกว่าแต่ถ้ามันสร้างความบาดเจ็บเหนื่อยล้าจนตื่นเช้าไปทำงานลำบาก เราก็ไม่สามารถวิ่งได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันก็ไม่มีประโยชน์เท่าใดนัก ด้วยเหตุนี้เราจึงมักพบเจอคนที่ประสบความสำเร็จในการลดไขมันจากการเดินมากกว่าครับ (หลายคอมเม้นในนี้ก็มายืนยันด้วยตัวเองแล้ว)

ชอบออกกำลังกายในบ้านค่ะ ไม่ต้องเปลืองเงินค่าฟิตเนส ออกเองในบ้านประหยัดเงิน ประหยัดเวลา

เคยเต้นแอโรบิค เหงื่อไม่ค่อยออกแถมเจ็บกล้ามเนื้อซะงั้น พอโยคะเบาๆ แล้วก็คาดิโอบ้างเหงื่อมาจากไหนไม่รู้ แล้วที่แปลกใจไม่ปวดเมื่อยเลยค่ะ

ปิดรายการด้วยการไหว้ น่านับถือมากๆครับ

วิ่งที่เผา 1000 หรือ 600 นั้นคือ วิ่งหัวใจโซน 5 จะมีมือใหม่ซักกี่คนวิ่งประคองครบชั่วโมงได้ 30วิก็จะตายเเล้ว สำหรับมือใหม่ ยังไม่พูดถึงความเเข็งเเรงของกล้ามเนื้อ เเละสภาพจิตใจ

เพิ่งมาเห็น​โดยบังเอิญ​ค่ะชอบฝรั่งพูดไทยได้เข้าใจง่ายดี

วิ่งเผาไขมันได้ดีกว่าตามคลิปเลย แต่สำหรับคน นน. เยอะ 85 kg ขึ้น แนะนำให้เดินเร็วดีที่สุด เดินวันละ 5 km. หรือ 1 hr. กำลังดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป และสามารถทำได้ทุกวัน ไม่ต้องมีวันพักร่างกาย นน.ลดแน่นอน ทำมาแล้ว ไม่แนะนำให้วิ่งนะ มีผลต่อสุขภาพร่างกายในอนาคตแน่นอน และคุมอาหารด้วย เรื่องอาหารนี้สำคัญกว่าออกกำลังกายอีก ถ้าคุมอาหารได้ดี ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายเลย ลดเหมือนกัน

จริงอยู่ครับวิ่งชนะเรื่องแคลฯ แต่การวิ่งใข้เวลาฟื้นตัวของร่างกายนานกว่านะครับ // การวิ่งเพื่อลดไขมันควรวิ่งเบาๆโซน 2 ของหัวใจพอ ร่างกายใช้พลังงานจากไขมันเป็นหลักครับ ควรวิ่ง 45 นาทีขึ้นไป วิ่งโซนนี้วิ่งได้ทุกวันครับ

ผมก็เดินครับ สะดวกดี ปีละ 10 กก. สบายๆ เดินแค่ 6 กม. ทุกวัน หลังอาหารเช้าให้ครบปี ตอนนี้ต้องเลิกเดินเพราะติดล็อคดาวน์สามเดือนน้ำหนักก็ไม่ขึ้นแต่ยังลดได้ต่ออีก เพราะแค่เดินแค่นี้ไม่ทำให้หิวเพิ่ม ต้องกินก่อนเดิน อย่าเดินก่อนกินจะกินเยอะก็จะไม่ลด

6:20 ชอบบทสรุปตรงนี้มากครับ

: อย่าลืมนะคับ...สิ่งที่สำคัญคือ ความสม่ำเสมอ ! คุณพูดไทยชัดมาก มารยาทดีไหว้สวย ชอบๆค่ะ

สำหรับผม การวิ่งโซน2 เวิคสุดๆเลยครับ โดยใช้แค่นาฬิกาสุขภาพ แล้วโซน2เป็นการวิ่งที่ง่ายมากและไม่เหนื่อยด้วย สามารถทำต่อเนื่องได้เป็นชม.เลย อยากไห้เพื่อนๆลองดูครับแล้วจะพบว่าการลดไขมันด้วยวิธีนี้ดีต่อร่างกายมาก แถมไม่เหนื่อยจนท้อด้วย อทบไม่เหนื่อยเลยด้วยซ้ำ ผมรูปร่างท้วมๆไขมันที่พุงสะสมมาหนักมาก ใช้วิธีนี้เห็นผลไวมากๆ ควบคู่กับการคุมอาหารต้องห้ามด้วยเช่น ของหวาน ของมันของทอด สุดท้ายสรุปเลยครับว่าการวิ่งโซน2ดีต่อการลดไขมันมากแถมไม่ทำลายกล้ามเนื้อ แต่ถ้าหากใครทานเยอะเล่นเวทเยอะ ผมว่าควรขยับไปโซน34เพื่อจะฝึกหัวใจหรือเน้นเผาผลาญแครอรี่ได้เยอะกว่า แต่การวิ่งไปถึงโซน4นั้น เริ่มทำลายกล้ามเนื้อแล้ว

ส่วนตัวผม...จัดชุดทั้งหมด5ชุดแบบนี้ เดิน10นาที สลับมาวิ่งชุดที่หนึ่ง 10นาที กลับมาเดิน10นาที สลับมาวิ่งชุดที่สอง 10นาที กลับมาเดิน10นาที รวมเวลาต่อครั้ง50นาที #เคล็ดลับต้องทำติดต่อกันต่อเนื่องตลอด50นาทีนะครับ#ได้ผลเกินคาด... พระพุทธเจ้าท่านยังบอกให้เดินทางสายกลาง...เรานำมาใช้ในชีวิตได้จริง... ทั้งเดินทั้งวิ่ง...วิธีนี้ทำให้ร่างกายไม่รู้สึกว่าหนักเกินไป...สบายๆมากๆทำให้เราอยากที่จะออกกำลังกายทุกวัน...เพราะมันง่ายทำให้ร่างกายแข็งแรง...น้ำหนักลดที่สำคัญดีต่อใจและมีความสุขสุดๆครับ

ผมใช้เวลา 20วัน ด้วยการไม่ทานข้าว แป้ง-ของทอด- ทานต้มยำปลา-ปลานึ่ง-ต้มจับฉ่าย-ผลไม้ส้ม-แตงโม วิ่งอาทิตย์ละ5วัน วันละ2.5กม. น้ำหนักลงมา 6 กก. ครับ

ใช่ครับ ถ้าเทียบcalจากเวลา แต่ถ้าเทียบจากระยะทางเดินอาจจะมากกว่า เช่น วิ่ง10km.ใช้เวลา1ชั่วโมง / แล้วเดิน10กิโลเมตรใช้เวลา1ชั่วโมง45นาที

ดีที่สุดคือการเดิน เดินเยอะๆครับค่อย ค่อยๆเผาผลาญแคลอรี่แบบค่อยเป็นค่อยไป สรุปก็คือเผาผลาญ แคลอรี่ ได้ละเอียดกว่าการวิ่งเยอะ ยิ่งเดินขึ้นลงบันไดวันละหลายรอบด้วยแล้ว ดีกว่าวิ่งเยอะเลย

ไม่เคยเห็นฝรั่งพูดไทยชัดเจนขนาดนี้ ขอบคุณมากสำหรับความรู้

เป็นคนที่เป็นโรคหัวใจ บางทีรู้สึกจี๊ดจุกขึ้นมาที่หน้าอกหายใจไม่ออกขยับไม่ได้ คือช่วงตอนที่มันจี๊ดขึ้นมาจะไม่สามารถขยับตัวได้เลยต้องนิ่งๆ ถ้าขยับตัวก็จะจี๊ดหนักกว่าเดิม แต่พอวิ่งออกกำลังกายภายใน 2 เดือน รู้สึกว่ามันหายไปเลยแล้วช่วงหน้าฝนก็หยุด วิ่งไปสักพักนึงมันก็เจ็บอีก ซึ่งจะว่างตอน 19:00 น ต้องไปวิ่ง ช่วง covid ก็ไม่ได้วิ่งมันก็เลยกลับมาจะพยายามวิ่ง หลังจากหน้าฝนหมดแล้ว

บางคนอาจจะบอกว่าเดินมันง่ายกว่า สัดส่วนเผาพลาญไขมันมันไม่ต่างกันมาก เเต่จำไว้นะครับ วิ่งมันเผาพลาญคาร์โบไฮเดรตด้วย เพราะคาร์โบไฮเดรตหากเราไม่ใช่มัน มันก็จะกลายเป็นน้ำตาลเเละไขมันต่อไป

ขอบคุณ​โค้ชที่ให้ความรู้ครับ ร่างกายผมไม่เหมาะกับการวิ่งเพราะมีโรคประจำตัว สามารถใช้การเดินเร็วขึ้นทางลาดชันบนลู่วิ่งแทนได้ไหมครับ

จุดสำคัญอีกอย่าง มันอยู่ที่ระยะเวลาด้วย วิ่งเผาผลาญเยอะกว่าก็จริง แต่ถ้าวิ่งแล้ว วิ่งได้แค่ 5-15 นาที กับ อีกคน เดินเร็วเรือย ๆ ได้60 นาทีขึ้นไป อันนี้ก็เห็นผลชัดเจนละ แต่เดินที่ว่า ไม่ใช่แค่เดินชมสวนนะ ต้องเดินระดับที่มีความเข้มข้นด้วย และต้องเพิ่มความเข้มข้นเรื่อย ๆ เป็นระยะ หรือ เดิน สลับเดินเร็ว มีวิ้งบ้าง จะเห็นผลใวกว่า

ใช่ปกติวิ่ง1ชม. เปลี่ยนมาวิ่งโซน2 2ชม.แทน ได้แคลอรี่มากกว่าเดินแถมไม่เหนื่อยเกินไปทำให้ วิ่งได้ทุกวันไม่เสี่ยงเจ็บด้วย หลังวิ่งก็กินเวยตบท้ายเลยเวิค

สรุปคือ วิ่ง เผาผลาญไขมันได้มากกว่า แต่ถ้ากินโปรตีนไม่ถึงก็จะสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ แต่การเดินเผาผลาญไขมันได้น้อยกว่า และไม่สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ แม้กินโปรตีนไม่ถึง แบบนี้รึเปล่าครับที่เข้าใจไม่รู้เข้าใจตามพี่เขาถูกรึเปล่า..

ผมลดจาก75มา68ครับ วิ่งจะเห็นผลเร็วมากครับช่วงสัปดาห์แรก แต่ต้องเวทไปด้วยเพราะก่อนหน้านั้นผมเคยวิ่งประมาณ1เดือนวิ่งเกือบทุกวันแต่ไม่ได้เวท ผ่านไป1สัปดาห์น้ำนกักดีดครับ เพราะกล้ามเนื้อหายไปเยอะ ระบบเผาผลาญเลยแย่ลง ในความคิดผม ถ้าสะดวกแบบไหนก็ทำแบบนั้นเลยครับ แต่ถ้าให้ดีทำควบคู่กันไปครับ วิ่งเหยาะๆสัก1กิโลก็ได้ครับ

ฟังแล้วเข้าใจง่ายคะ ลดพุงคะ อยากลดพุงมาก็เลย มีลูกแล้วมีหนังหน้าท้องคะ

ใส่หูฟังแล้วเปิดเพลงมันส์ๆครับ ให้จบ3เพลง ปรากฎว่า ได้ตั่ง2กิโล (เทคนิคหาแรงจูงใจ🤪)

วิ่งมันไม่ได้ลำบากมากครับ วิ่งจ๊อกกิ้งเอา เเต่ก่อนผมก็วิ่งได้เเค่ไม่กี่ร้อยเมตร เเรกๆก็ท้อ เเต่พอเริ่มออกวิ่งมันมีเพื่อนร่วมทาง พอเห็นเขาวิ่งมันรู้สึกเหมือนยอมเเพ้ไม่ได้ เราก็พยายามวิ่งตามให้ทัน ตอนนี้ก็ 5 กิโลสบายๆล่ะ

เดินได้นานกว่า​1ชั่วโมงสบายๆ​ วิ่งนาน1ชั่วโมงไม่ไหวเป็นลม

สำหรับผม ผมลองมาหมดทั้ง 2 แบบ ทั้งใช้การวิ่งในการลดไขมัน ทั้งเดินในการลดไขมัน วิ่ง : เร้าใจ ลงเร็วจริง แต่สภาพร่างกายคุณก็โทรมง่ายเหมือนกัน ถ้าการฟื้นตัว และ โภชนาการ ไม่ถึง และอาจจะมีแรงกระแทกที่ข้อต่อด้วย เดิน : หน้าเบื่อ ลงช้า แต่สภาพร่างกายฟื้นตัวเร็ว ไม่โทรมง่าย มีแรงไปทำอย่างอื่นได้ต่อ และไขมันไม่เด้งกลับมาง่ายเท่าตอนเดิน ทั้ง 2 แบบมีข้อดี ข้อเสียต่างกันไป สุดท้ายแล้วสำหรับคนทั่วไปมันก็คือเรื่องการใช้แคลเป็นหลักอย่างที่จารย์ว่าแหละครับ และ แต่ละคนวิธีก็ต่างกันไป ต้องไปลองด้วยตัวเอง ไม่ลองก็ไม่รู้ แต่ส่วนตัวผม การเดินทำให้ผมแห้งกว่าตอนวิ่ง และไม่โทรม

ขอบคุณ​มากค่ะ ก็เข้าใจผิดเหมือนพอมาทำให้ดูแบบนี้ เอ่อจริงด้วย ยังไงซะวิ่งมันต้องใช้พลังงาน​เยอะอยุ่แล้วนิหว่า 5555 จะได้ใช้ในการตัดสินใจว่า 1 ชม. เราจะวิ่งรึเดินในสถานการณ์​ที่ต่างกัน

น้ำหนักตัวเกิน75กิโลกรัม เดินเอาดีกว่าครับ ไม่บาดเจ็บด้วย ผม112เดิน5กิโล จบเดินวิดพื้นกะซิทอัพ4เซต เซตละ12ครั้ง 3อาทิตย์ ลวมาเหลือ101กิโลเเล้วครับ ห้ามอดอาหารนะครับ กินปกตินี่แหละ แค่ลดลงมาครึ่งนึงก็พอ สู้ๆนะครับ

ผมเดินวันละ 30บางทีก็40 นาที ก็ลดนะ ใช้เวลา2เดือน จาก80ลดลง69

ขอบคุณวีดีโอนี้มากคะ ตอนนี้เข้าใจแล้ว😅ทะเลาะกับแฟนมาตลอดเรื่องใครเดิน-ใครวิ่ง ใครเบรินเยอะกว่ากัน วันนี้ตาแตกทะลุปุโปร่งแล้วคะ🙏

พูดไทยชัดดีค่ะ อธิบายเรื่องยากด้วย 👏👏👏

วิ่งเบาๆ ให้หอบ ใช้ไขมันมากกว่า วิ่งเร็วๆ จำไว้เลยครับ

เค้าก็สรุปให้แล้ววิ่งได้ก็วิ่ง วิ่งไม่ได้ก็เดิน เอาที่เราชอบครับ ส่วนตัวผมชอบวิ่ง ใครจะเดินก็เดินไป ผมไม่เดือดร้อนครับ

วิ่ง zone 2 ดีครับ ไม่ต้องเร็วมาก แบบ อ.มาร์ค บอกชัดเจน

บางที่ จะเปรียบเทียบ โดยใช้ระยะทางเท่ากัน เช่นเดิน 5 กม กับ วิ่ง 5 กม ไม่ได้วัดจากเวลา1 ชม เท่ากัน แต่มันก็ถูกต้องทั้งคุ่

เป็นแค่ตัวเลขคร่าวนะอย่าซีเรียสมาก ออกกำลังตามที่ถนัดและต่อเนื่อง จะเห็นผลแน่นอน

เดินเร็วๆ ดีที่สุด คือ เดินก็ไม่ใช่ วิ่งก็ไม่เขิง สำคัญ คือ ต้องทำนานๆ

เราควรดูหลายๆปัจจัยประกอบด้วยค่ะ โอกาสบาดเจ็บการวิ่งมีมากกว่า

ง่ายๆคับวิ่ง+เดิน แต่อย่าหักโหม เน้นกินโปรตีน รักษากล้ามเนื้อ แรกๆวิ่งเหยาะๆ แล้วค่อยเพิ่มความเร็ว เผาผลาญแคลอรี่จากคาโบไฮเดรต พอเริ่มเเหนื่อยก็เดิน ร่างกายจะดึงพลังงานจากไขมันได้ง่ายละ ผลาญแคลอรีจากไขมัน ที่เค้าบอกวิ่งดีกว่าเพราะมันผลาญแคลอรี่ได้ดีกว่าทำให้ผลาญแคลอรี่จากคาโบไฮเดรตได้ดี ไม่ให้มันไปเก็บสะสมเป็นไขมันเพิ่มอีก

ผมจะบอกยังไงดีกับคนที่เชื่อว่าต้องนอนก่อน4ทุ่ม โกรทฮอร์โมนถึงจะหลั่งดีครับ เพราะว่ามีคนเชื่อเเบบนั้นเยอะมาก เเถมก็มีหลายช่องในยูทูปบอกเเบบนั้น ที่สำคัญ อาจารย์ในมหาลัยก็สอนเเบบนั้นอีก ทำให้เพื่อนๆหลายคนเข้าใจผิด ผมควรจะพูดยังไงให้เขาเปลี่ยนความเชื่อนี้ครับ

ส่วนตัวชอบออกกำลังกายด้วยการวิ่ง แต่พอเหนื่อยก็สลับเดินวนไป วันละชั่วโมง ทำเท่าที่ร่างกายไหวค่ะ

แต่ก่อนสนแต่calแต่ตอนนี้ไม่แคร์. แค่ได้ขยับ,หรือออกกำลังกายเล็กน้อยก็พอแล้ว🤣😂

สติ​ สบาย​ สม่ำเสมอ​ สังเกตุใช้ได้ทุกอย่างจริงๆครับ

ปัญหาคือวิ่งได้ไม่นานเท่าเดิน โดยรวมอาจลดไขมันแพ้เดิน เช่นวิ่งอาจได้แค่ 10 นาทีหมดแรงก่อน บาดเจ็บอีกเลิกไปหลายวัน เดินได้นานกว่าแน่ๆ และวิ่งอาจคุมอาหารไม่ได้ กินหนักเลยขาดทุน ครับ

อธิบาย เป็นภาษาไทยได้ดีเยี่ยมคะ ตอนนี้ 48 เลือกเดินมากกว่าวิ่งไปแล้วคะ

แรกๆผมเดินวันละประมาณ 1ชม.น้ำหนักลงไวมากๆ คุมอาหารหนักๆ แต่กลับรู้สึกว่าร่างกายอ่อนแอ ตัวเหี่ยว นุ่มนิ่มไปหมด อาการไมเกรนก็ไม่หาย แต่พอปรับเปลี่ยนวิธีออกกำลังเริ่มวิ่ง เล่นกล้าม ยกเวท เริ่มวิดพิ้น มีหน้าอก หุ่นเริ่มดี กินอาหารปกติ วันละ3มื้อ มีขนมบ้าง ไม่คุมมาก อยากกินอะไรก็กิน อาการไมเกรนของผมก็หายไป และตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงมาก วิดพื้น20ทีสบายๆ แต่กว่าจะทำได้เกือบๆครึ่งปี และยังใช้งานหน้าคอมทุกวัน ไมเกรนไม่กลับมาแล้ว

จากประสบการณ์จริงนะเดิน เนี่ยลดเร็วมาก แต่เดิน16โลนะ (แค่เดินจากบ้านไปที่ทำงานมันวัดได้16โล) แต่เรื่องจริงมันลดต้นขามันจะเว้ากับแขน คอ คือลดฮวบ แต่** มันไม่ลดพุง พุงลดน้อยมากๆ พอมาลดรอบล่าสุดลองวิ่งเบาๆแทน ลดมากเหมือนกันแต่มันดันลดตรงพุงกับข้างๆเอวก่อน ลดจนมี6 pac จางๆจริงๆเห็นแค่4 ฮ่าฮ่า ส่วนขากับแขนนี่ไม่ลดเลย แต่น้ำหนักลดมากกว่า แปลกใจอยู่เหมือนกัน

เดิน 1 กม. วิ่ง 1 กม. รวม เดิน 3 กม. วิ่ง 2 กม.ครับ ตอนนี้ที่ทำอยู่ ก็จะสลับไปว่ายน้ำด้วย รอดูผลสักเดือน

ยังไงวิ่งก็เผาดีกว่าครับ ในเวลาที่เท่ากัน ผมจะอ้างว่าเดินดีกว่าตอนที่ผมขี้เกียจวิ่ง เพราะไม่อยากได้ชื่อว่าขี้เกียจครับ

เดินลดไขมันเพรียว​ๆแต่ลดน้อย ถ้าวิ่งแบบยังพูดรู้เรื่อง​ จะเป็นระยะเผาพลาญไขมันได้ดีแต่จะถูกใช้พลังสะสมจากกล้ามเนื้อด้วย​ แต่การวิ่งที่พูดไม่รู้เรื่องแล้วมักจะใช่พลังงานจากกล้ามเนื้อ​ ซึ่งไม่ดีในแง่ของคนสร้างกล้ามเนื้อเท่าไรแต่มีความจำเป็นต้องเสริมโปรตีน

สว.นน.ขึ้นง่ายมาก ทานไม่มากแต่ระบบเผาผลาญอ่อนแอ นน.ขึ้น5โลตลอด ต้องอาศัยเดินสลับวิ่ง บางทีก็เล่นฮูลาฮูปช่วยบ้าง #กระดูกไม่แข็งแรง ก็อยากวิ่งสวยๆแบบหนุ่มๆสาวๆค่ะ 😊👍👌

เคยได้ยินว่าการวิ่งสลับเดิน จะได้ผลดีกว่าการวิ่งเฉยๆ แต่ไม่รู้ว่าดีกว่ายังไงและเพราะอะไรอ่ะครับ

วิ่งโซน 2 หรือทำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่ แตะ โซน 2 เป็นเวลา 45 นาทีต่อวันก็เพียงพอแล้วสำหรับคนทั่วไป

การวิ่งจะทำให้สูญเสียกล้ามเนื้อซึ่งไขมันจะไม่ค่อยลดลงเท่าการเดิน

แรกๆวิ่งไม่ไหวเหมือนกัน ต้องพยายามวิ่ง เพิ่มรอบวันละนิดจนอยู่ตัว อย่าท้อ แต่ถ้าการเดินได้ผลก็น่าสนใจวิ่งสลับเดินได้ไหม

แต่เวลาทำจริงๆ มือใหม่ที่มาวิ่ง อาจจะวิ่งได้แค่ 5-15 นาทีก็ยอมแพ้แล้ว แต่ถ้าเดินเร็ว 30-60นาที มือใหม่ก็ยังไหว ฉะนั้น โดยรวมแล้ว เดินเร็วก็จะเผาพลาดได้ดีกว่าแน่นอน นี้ยังไม่พูดถึงอาการบาดเจ็บของการวิ่งที่มากกว่าการเดินนะ และการฟื้นฟูร่างการยของการเดินก็เร็วกว่าวิ่งมากๆ

ผมว่าน้ำหนักไม่ใช่ปัญหา คนชอบไปโฟกัสที่น้ำหนัก เช่นถ้าอยากแค่ลดพุง พอออกกำลังกายแล้วพุงยุบ กางเกงที่เคยคับ เริ่มหลวม ใส่ได้(แต่น้ำหนักลงน้อยหรือไม่ลงผมว่าก็ดีแล้วนะครับ)มาถูกทางแล้ว ไม่เห็นต้องวิตกกังวล แต่คนที่ออกก็หนัก กินไม่เยอะ แต่พุงไม่ยุบนี่สิ น่าวิตกกังวลน่าอิจฉาคนที่มีเวลาไปเดินได้ครั้งละ1-2ชั่งโมง **ช่วงเย็น(ผมวิ่งแค่ครึ่ง ชม.เสร็จรีบแจ้น ไปตลาด กลับบ้านกินข้าว ซักผ้า นอน) ก็ปาเข้าไป2ทุ่มนุ่นล่ะ ถ้าเดินช่วงเช้า **คงต้องตื่นตี4สิครับ เพราะเดิน2ชม.ก็6โมงแล้ว เข้าบ้านอาบน้ำ กินข้าว กว่าจะเสร็จ ไปทำงานทันหรือครับ?(ไกล..รถติดอีก) จริงครับเราจะเดิน จะวิ่ง เอาที่เราถนัด เห็นบอกกันในนี้ กิน3มื้อ แถมขนม ของทอดของหวาน แค่ออกไปเดิน ลดเท่านั้นโล เท่านี้โล อายุยังไม่มากสิครับถึงกินแบบนี้ได้แสดงว่าร่างกายยังเผาผลาญดี ยินดีด้วยครับแต่ถ้าเกินหลัก50ไปแล้วคิดว่าไปเดินแบบนี้ แล้วกินอะไรก็ได้ ผมก็ขออวยพรให้โชคดีนะครับผม😁👍💪🤘🙏

ผมวิ่งตั้งแต่น้ำหนัก104โลตอนนี้ผ่านมา8เดือนเหลือ74โลแล้วครับ ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับข้อเท้า หัวเข่า แต่อนาคตเริ่มกังวลว่าข้อเข่าจะเสื่อมเหมือนที่คนเขาว่าวิ่งมากๆจะทำให้เข่าเสื่อม แต่ไม่รู้จะจริงรึป่าว

เดินลู่วิ่ง ความชัน 12-15 lv ความเร็ว 3.8-4.5 ระยะ 45-60นาที HR 120-140 Brun fat ดีมาก เติมคาร์บก่อนวิ่งก่อน30นาที ด้วย กล้วย หรือขนมปัง หรือซีเรียล

ผมวิ่งเกือบเต็มที่แต่เลี้ยงความเร็วไว้ 1 ชั่วโมง ระยะเวลา 4 ปี ไม่ผอมลงเลย แต่เดิน 1 ชั่วโมง ระยะเวลา 1 เดือน ผอมลงกว่าที่วิ่งมา 4 ปีอีก!!!!

ทางนี้เดินมาตลอดจาก 130 ตอนนี้ลงมา 70 เริ่มวิ่งสลับเดินแล้ว ชอบเวลาวิ่งมากกว่า

แต่ละระยะทาง.เดิน...ควรมีท่าออกกำลังกาย..สลายพุงด้วย..เช่น..เดินได้สัก40เมตรควรตีเข่า.ตบมือลอดขา.ซิทอัพ.จิงโจ้.สควอร์ท.แพลง..โดดตบ..สลับกันไป.สัก10ครั้ง..ในทางเดิน..

มีประโยชน์มากขอบคุณค่ะ ต้องสม่ำเสมอเนาะป้าวิ่งไม่ไหวขอเดินอิๆ👍🙏🌹

ส่วนเรานั้น เดิน สลับกับ วิ่ง ใน 1 ชม. แบ่งเป็น วิ่งทุก ๆ นาทีที่ 10,20,30,40,50,60 วิ่งแค่ 1 นาที(วิ่งแบบใส่เกียร์หมาเลย) แล้วปรับกลับมาเดินต่อ ในความเร็วที่เดินตอนก่อนวิ่ง อันนี้คิดน่าจะเบิร์นไขมันกับคาร์บเพิ่มขึ้นนะ (ความคิดเห็นส่วนตัว) 😅 แต่มันดีมากนะ ทุกคนลองเอาไปปรับใช้ดูได้ค่ะ

ผมนี่สายเดิน แต่เดินวันนึง7-10กิโลทุกวัน ใช้เวลานานแต่ไม่บาดเจ็บ

งานที่ผมทำเดินวัน ละ 10 กิโลเมตร พอเลิกงานก็กินเยอะ ทั้งเบีย ทั้งของหวาน ของทอด น้ำหนักไม่เคยขึ้นครับ

สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่การตั้งคำถาม มันคือการลงมือทำ

ผมวิ่งทุกเช้าทุกเย็นเลยครับ ลุกขึ้น5:30 ตอนเช้า เย็นกฺ็16:30 วิ่งแบบนี้ติดต่อกัน ทำให้ผมลดน้ำหนักได้และทำให้ผมรู้สึกมีความกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นด้วย ที่จริงผมทำมาแต่ม.1ละนี่ก็ม.4ลดมา20กว่าโลละ

ขอบคุณมากๆสำหรับความรู้ค่ะ คุณมาร์คพูดไทยเก่งมาก ไหว้สวยด้วย ชื่นชมค่ะ

เดินวันละหลายรอบแต่เดินระยะสั้นครั้งละประมาณไม่เกิน10นาทีวันละ4-6เทึ่ยวและทำงานบ้านด้วยเริ่มทำมาได้ประมาณ3เดือนกว่าน้ำหนักลดไป5 กิโลตั้งแต่2เดือนแรกที่ทำและยังทำประจำน้ำหนักไม่ขึ้นอีกเลยและไม่อยากลดกว่านี้

ผมจาก 104 เหลือ 80 ได้เพราะทำทั้งสองเลยครับ เเค่อย่าทำให้ร่างกายรับไม่ไหวครับ เช่น เดินวอร์ม 10-15 นาที วิ่ง 10 นาที/วัน เเค่นี้ก็เพียงพอเเล้วครับ (ผมพูดจากประสบการลด นน.โดยตรง

ผมก็ใช้วิธีลดน้ำหนักด้วยการคุมอาหาร+เดิน ทำทุกวันเป็นเวลา3เดือนลงมา 38 กิโลกรัม จาก126 กิโลกรัม 3เดือนเหลือ 88 กิโลกรัม

เดินใช้ไขมันน้อยกว่า นิดหน่อย แต่เหนือยน้อยกว่ากันเยอะเลย

ผมชอบการวิ่งคับ มันท้าทายดีทำให้ปอดเขาเเข็งเเรง ทำเราไม่เหนื่อยง่าย ไปต่อได้เรื่อยๆคับผม

พูดชัด ข้อมูลเคลียร์ดีค่ะ ติดตามเลย

ผมหนัก 165 ครับ แถวบ้านก็ไม่มีฟิตเนส เริ่มเดิม มาสักพัก คนรอบข้างบอกว่า ทำไมไม่วิ่งมัวแต่เดินแล้วมันจะลดได้ยังไง😔

วิ่งออกเหงื่อดีมากค่ะ จากพุงใหญ่ ลดแล้ว ไม่หักโหม ไม่รีบที่จะลดค่ะ

ติดตามคลิปของ อาจารย์มาร์ค มาหลายปี ก็ยังได้ความรู้ตลอด ขอบคุณครับ

ภาษานักวิ่งเรียกว่าวิ่ง Zone 2 จะเอาไขมันออกมาใช้เยอะที่สุด

ขอบคุณคลิปมีประโยชน์แบบนี้ครับ เหมาะมากครับสำหรับช่วงหลังการกักตัว

ผมวิ่ง 1ชม ได้ 600 แคล เอง เฉลิ่ยถูกแระที่ไขมัน ลดไป 130-200 กรัมต่อวัน

เป็นคลิบที่มีประโยชน์มากๆเลยครับ ❤️

จุดประสงค์​ของแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่ที่ใครมีเป้าหมายอะไร​

ขอบคุณข้อมูลดีๆค่ะ👏❤

เอาเท่าที่ร่างกายเราไหวเพราะว่าร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกันบางคนแข็งแรงบางคนไม่แข็งแรง ตัวเราก็ไม่ค่อยแข็งแรงเราก็เริ่มจากเดินช้าๆแล้วเริ่มเร็วขึ้นแล้วก็วิ่งช้าๆตอนนี้วิ่งได้ระดับกลางร่างกายแข็งแรงขึ้น คนรักสุขภาพควรออกกำลังกายนะคะแบบไหนก็ได้เอาที่เราไหวผลที่ได้คือร่างกายแข็งแรงเหมือนกันค่ะ

ขอบคุณคะ โคช หนู นน.75ส่วนสุง 175 ตอนนี้เพิ่งเริ่มคะ

เห็นด้วยกับ อ.มาร์ค ครับ Total calories สำคัญสุดครับ