อย่างที่เพื่อนๆรู้ดีครับว่า การลดน้ำหนักผิดวิธี นอกจากจะทำให้เราเสียเวลาแล้ว เราอาจจะท้อ หมดกำลังใจ เครียด และถามตัวเองทุกวันได้ว่า “เมื่อไหร่จะผอมสักที”
ประเด็น คือ พอน้ำหนักค้าง และไขมันไม่ลด เราอาจจะคิดว่าต้องกินน้อยๆ ไม่กินข้าว และเพิ่มการเผาผลาญด้วยการออกกำลังกายทุกวัน เพื่อให้น้ำหนักลดลงเร็วๆ
แต่การทำแบบนี้ อาจจะยิ่งทำให้เราเสี่ยงที่จะโยโย่ กลับมาอ้วนเหมือนเดิม ระบบ Metabolism ทำงานช้าลง หรือน้ำหนักลงยาก แต่ขึ้นง่ายได้
ดังนั้น ถ้าเราไม่อยากเสียเวลากับการลดน้ำหนักผิดวิธีเป็นเดือนๆ เราจะต้องมาหาวิธีแก้ไขป้องกัน และเรียนรู้ตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า ว่ามีข้อผิดพลาดอะไรบ้าง ที่เราควรเลี่ยง
สวัสดีครับ ผมโค้ชเค Fitterminal.com และวันนนี้ ผมจะมาอัพเดท 6 วิธีการไดเอทเพื่อลดไขมัน ที่เราไม่ควรทำในปี 2024 นี้ จะมีอะไรบ้าง ตามมาเลยครับ
ลดน้ำหนักผิดวิธี เสี่ยงที่จะโยโย่ และเครียดได้
แน่นอนครับว่า การเป็นผู้หญิง เราก็อยากจะผอม อยากหุ่นดี อยากแต่งตัวสวยๆ และรู้สึกมั่นใจในตัวเอง
แต่ปัญหา คือ เราอาจจะเผลอไปใช้วิธีลดความอ้วนแบบผิดๆ จนมีประสบการณ์ลดไขมันที่ย่ำแย่
เช่น เราอาจจะเข้าใจว่าต้องกินให้น้อยที่สุด มื้อเย็นไม่กิน ยิ่งอดยิ่งผอม ไม่กินข้าว และถ้าอยากจะผอมเร็วๆ ก็หาซื้อยาลดน้ำหนัก หรืออาหารเสริม มาเป็นตัวช่วย เป็นต้น
ผู้หญิงกินสลัด
จริงอยู่ว่าการลดน้ำหนักด้วยวิธีที่เกริ่นไป อาจจะได้ผลในช่วงแรก แต่พอเรากลับไปกินตามปรกติ หรือใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป น้ำหนักจะดีดกลับขึ้นมาได้
เพราะการกินน้อยกว่าค่า Basal Metabolic Rate (BMR) จะทำให้ร่างกายคิดว่ากำลังขาดสารอาหาร และต้องปรับการเผาผลาญไขมันลง หรือเข้าสู่โหมดเอาตัวรอด ที่เรียกว่า “Starvation Mode” นั่นเอง
ดังนั้น คำถาม คือ ถ้าเราอยากจะลดความอ้วนให้ได้ผล ไม่หลงไปลดน้ำหนักผิดวิธี และอยากจะกินอาหารแบบปรกติด้วย
เช่น ขนมหวาน ไอติม หรือหมูกระทะแบบคนอื่น โดยไม่ต้องกลัวว่าเราจะอ้วน เราจะต้องทำยังไง?
และถ้าการทำงานของระบบ Metabolism หรือ อัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกายที่ดี สำคัญต่อการลดน้ำหนักและลดไขมัน
มีวิธีไดเอทและการออกกำลังกายแบบไหนที่ผิดวิธี หรือทำให้การทำงานของระบบ Metabolism ช้าลงบ้าง?
1. การกินน้อยกว่าค่า BASAL METABOLIC RATE และการอดอาหารนานเกินไป
รู้ไหมครับว่า แค่การลดความอ้วนปรกติ ระบบ Metabolism ก็จะทำงานช้าลงอยู่แล้ว เพราะ
ร่างกายเราจะมีการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ และ
เราจะต้องมี Calorie Deficit หรือกินน้อยกว่าที่ร่างกายเผาผลาญด้วย
ทีนี้ พอเรากินอาหารน้อยเกินไป เช่น กินแค่วันละ 500-800 แคลอรี่ หรือไม่เกินวันละ 1,200 แคลอรี่
ร่างกายเราจะเริ่มปรับการทำงานของระบบ Metabolism ให้ช้าลง เพื่อให้เข้ากับพลังงานแคลอรี่ที่น้อยเกินไป และเพื่อนๆผู้หญิงส่วนใหญ่ จะเริ่มสังเกตเห็นว่า ผมอาจจะร่วงเป็นกำมือ และประจำเดือนขาด เป็นต้น
งานวิจัยหลายชิ้นยังสรุปมาตรงกันด้วยว่า การกินอาหารน้อยกว่าวันละ 1,000 แคลอรี่ จะถือว่าน้อยเกินไป และจะมีผลต่ออัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างโดยตรง
อ่านบทความเต็ม: bit.ly/41UDnlb
===============================
ถ้าเพื่อนๆมีเป้าหมายอยากลดน้ำหนัก ลดไขมัน อยากมีหุ่นในฝัน ให้ตัวเองภูมิใจสักครั้งในชีวิต แอดไลน์ที่ลิ้งค์ด้านล่าง แล้วมาปรึกษาก่อนได้ครับ
===============================
| Follow Us | ช่องทางการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร |
Fitterminal LINE: @fitterminal หรือคลิก lin.ee/Txxw3zR
Fitterminal Facebook: bit.ly/2GeJebZ
Fitterminal Instagram: bit.ly/2Zh5KtG
Fitterminal Website: bit.ly/2GKOWDa
#ลดน้ำหนัก #ลดไขมัน #ifลดน้ำหนัก
13 янв 2024