อาหารเสริม ชะลอจอประสาทตาเสื่อม Age-Related Macular Degeneration  

1️⃣ โรค Age-Related Macular Degeneration หรือจอประสาทตาเสื่อมนั้นเราสามารถแบ่งย่อยๆได้เป็น 2 อย่างนะครับ คือ 💢แบบแห้ง 💢และก็แบบเปียกนะครับ จริงๆผมก็ไม่เคยเรียกอันนี้เป็นภาษาไทยเหมือนกันนะครับ แต่ว่าจริงๆถ้าให้อธิบายทีละอันเนี่ยแบบแห้งเนี่ยแน่นอนว่าภาษาทางการแพทย์เราก็จะเรียกมันว่า Dry Age-Related Macular Degeneration (AMD) นะครับ Dry ก็คือแห้งนะครับ มันแห้งยังไงนะครับ? ➡️คือสิ่งที่เกิดขึ้นในกรณีนี้นะครับบริเวณ Macular ของเราเนี่ยนะครับมันจะมีการสะสมโปรตีนตัวหนึ่งซึ่งเรียกว่า Drusen นะครับทำให้ Macular ของเราเนี่ยมันบางลงไปเรื่อยๆแล้วมันก็เสียนะครับ โดยแบบแห้งเนี่ยเราเจอถึง 90% ของเคสทั้งหมดนะครับ อันนี้เป็นส่วนที่เจอบ่อยที่สุดนะครับ และอาการของมันเนี่ยมักจะค่อยเป็นค่อยไปนะครับ คือช่วงแรกๆเราอาจจะมีเหมือนกับว่าอยู่ในที่มืดแล้วมองไม่ค่อยชัดนะครับแล้วพอเราดูตรงกลางสายตา ตรงกลางเนี่ยมันเหมือนมีอะไรขมุกขมัวนะครับมองไม่ค่อยชัดแต่ข้างๆเราเนี่ยมันมองชัดตลอดนะครับ เอ๊ะ! ข้างๆชัดทำไมตรงกลางมันไม่ชัดเหมือนมีอะไรมาอยู่ตรงกลางบังตาแล้วก็เป็นมากขึ้นเรื่อยๆเนี่ยมันก็จะมืดๆๆขึ้นเรื่อยๆแล้วนะครับ ถ้าตอนแรกเราอาจจะไม่ได้สังเกตอะไรมากอาจจะเห็นเอ๊ะ…ทำไมเส้นมันโค้งๆบิดเบี้ยวเหมือนคนเหมือนคนแต่งรูปแล้วก็แต่งมากจนเกินไปมันโค้งประมาณนั้นนะครับ หรือบางทีก็มัว บางทีมองในที่มืดมันเคยเห็นมันก็มองไม่เห็นนะครับ คิดว่าเป็นเรื่องสายตาสั้นดีอะไรหรือเปล่า ก็ไม่ใช่เราก็ตัดแว่นดีแล้วนะครับแต่ตรงกลางมันมัวๆ ถ้าแบบนี้ควรจะต้องรีบไปตรวจนะครับ อันนี้คือเป็นสิ่งซึ่งเราเจอในกรณีของ Dry Age-Related Macular Degeneration (AMD) นะครับ แบบ Wet หรือแบบเปียกนะครับ Wet Macular Degeneration ตัวนี้เนี่ยมันเป็นเพราะว่ามีการเจริญเติบโตผิดปกติของเส้นเลือดที่อยู่ตรง Macular นั่นเองทำให้มีการรั่วซึมของโปรตีนในเลือดออกมาข้างนอกนะครับหรือภาษาทางการแพทย์เราจะเรียกมันว่า Exudate นะครับ ซึ่งการรั่วออกมานี้ก็จะทำให้ตัว Macular. ของเราเนี่ยมันเสียนะครับ และอาการของกรณีที่มีการรั่วของตัวของเหลวในเส้นเลือดออกมาตรง Macular นี้อาการเนี่ยจะเป็นฉับพลันได้ครับ จะเป็นค่อนข้างที่จะรวดเร็วนะครับ แล้วก็บางทีเสียลานสายตาแล้วเสียไปเลยนะครับ ทีนี้โรค Age-Related Macular Degeneration ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตามนะครับ คือเราเนี่ยถ้ามีความผิดปกติ ทางลานสายตาเนี่ยควรจะต้องรีบไปตรวจโดยด่วนเพราะว่าเราไม่สามารถรักษาให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้นะครับ เราอาจจะสามารถชะลออาการของมันได้แต่เราไม่สามารถรักษาให้การมองเห็นที่เสียไปแล้วมันกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ครับ ดังนั้นตรงนี้ต้องระวังเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยงอย่างที่ผมบอกไปนะครับ

2️⃣ เวลาไปหาหมอเขาจะตรวจวินิจฉัยโรคนี้ได้อย่างไรบ้างนะครับ? 🌀อันแรก เราอาจจะทำเองได้ที่บ้านก็ได้นะครับ อันนี้เราจะเรียกภาษาทางการแพทย์ว่า Amsler Grid นะครับ ก็คือมันจะเป็นเหมือนกับมีตารางเส้น เส้นตารางเป็นเส้นตรงอย่างนี้นะครับแล้วก็มีเส้นขนานมีจุดดำๆอยู่ตรงกลางแล้วหมอก็จะให้เรามองเส้นพวกนี้นะครับดูว่าเส้นที่มันควรจะตรงนี้ มีตรงไหนที่มันบิดเบี้ยวไปตรงไหน เขาจะให้เราบอกนะครับ และตรงนี้เราไปทำเล่นเองที่บ้านก็ได้หรือเราจะลอง Google ดูขอดู Amsler Grid ก็ได้ เราก็ไปมองเองที่บ้าน ถ้าเรามองแล้วมันโค้งๆมันบิดเบี้ยวทั้งๆที่มันควรจะเป็นเส้นตรงทั้งหมดนะครับ ไปหาหมอเลยครับ อันนั้นแปลว่าผิดปกติแล้วนะครับ ถ้าไปหาหมอนะครับหลายๆครั้งที่สามารถทำได้นะครับก็จะมีการหยอดขยายม่านตาแล้วก็ไปดูตรงจอประสาทตาว่ามันมีเส้นเลือดเจริญผิดปกติตรงนั้นไหม มันมีโปรตีน Drusen ไปอยู่แถวๆนั้นหรือเปล่านะครับ ร่วมกับอาจจะมีการถ่ายภาพด้วยวิธีต่างๆ เช่นอาจจะฉีดสารทึบรังสีตัวนึงชื่อ ฟลูออเรสซีน(Fluorescein)ไปนะครับ แล้วก็ถ่ายภาพถ่ายทางตานะครับ หรือทำตัวการตรวจพิเศษนะครับโดยการถ่ายจอประสาทตาด้วยวิธีอื่นๆนะครับ. อาจจะมีด้วยเลเซอร์ด้วยอะไรก็แล้วแต่นะครับ ก็มีหลากหลายชื่อเช่นเขาอาจจะเข้าไปดูในดวงตาเราก็ถ่ายภาพมันจะมีเครื่องถ่ายภาพของทางหมอตาซึ่งตรงนั้นก็คงจะต้องไปหาหมอตาเขาดูนะครับว่าของเราเนี่ยน่าจะใช้วิธีไหนในการวินิจฉัยจะดีที่สุดนะครับ ส่วนใหญ่ก็วินิจฉัยด้วยหมอตานี้ก็ไม่ได้ยากเย็นแสนเข็ญอะไรเท่าไหร่นะครับ ทีนี้ถ้าเป็นล่ะ แล้วเราทำไง หรือถ้าเราต้องการป้องกันไม่ให้มันเป็นเราต้องทำยังไงบ้าง? ✴️ขั้นแรกขอเริ่มด้วยการป้องกันก่อนนะครับ สิ่งที่เราทำได้แน่นอนบุหรี่ต้องเลิกสูบนะครับเพราะมันเป็นความเสี่ยงหลักเลย ความดันสูงถ้ามีก็ต้องคุมให้ได้ มีเบาหวานก็ต้องคุมเบาหวานให้ได้นะครับ ถ้าเรามีไขมันสูงอันนี้ก็ต้องระวังให้ดีนะครับโดยเฉพาะคนที่กินอาหารพวกที่ไขมันสูงๆทั้งหลายแหล่อาจจะถ้าเรากินอาหารคีโตแล้วกินไปเรื่อยๆจนกระทั่งไขมันเราสูงเนี่ยอาจจะเป็นภาวะเนี้ยเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นเราต้องระวังเรื่องนี้ไว้ให้ดีด้วยนะครับ ก็อย่าไปสุดจนเกินไปแล้วก็หมั่นตรวจร่างกายตรวจเลือดดูให้แน่ใจว่าไขมันของร่างกายเรามันไม่สูงเกินไปนะครับ การออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อควบคุมน้ำหนักอันนี้แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ช่วยได้นะครับ ดังนั้นตรงนี้เป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเองนะครับ

3️⃣ ต่อมาเรื่องของ Dry Age-Related Macular Degeneration หรือจอประสาทตาเสื่อมแบบแห้งนะครับ อันนี้น่าจะเป็นข่าวดี เป็นครั้งเดียวที่ผมจะพูดว่าอาหารเสริมมันมีประโยชน์ชัดเจนนะครับ มันมีการศึกษาอันหนึ่งนะครับ ชื่อว่า Age-Related Eye Disease Study หรือ AREDS นะครับ มีครั้งที่ 1 แล้วก็ครั้งที่ 2 ซึ่งเขาพบว่ามีอาหารเสริมอยู่กลุ่มนึงนะครับที่มันสามารถชะลออาการได้นะครับ ชะรอไม่ได้แปลว่าทำให้มันหายนะครับ ถ้าสายตาของท่านเสียแล้วมันเสียไปเลยนะครับมันทำให้กลับมาเหมือนเดิมไม่ได้นะครับ แล้วในอาหารเสริมที่เขาให้ตัวนี้เนี่ยครับมันมีส่วนประกอบหลายตัวด้วยเช่นกันนะครับก็คือมีวิตามินซี วิตามินอีนะครับ มีทองแดงก็คือ Copper มี Zinc (ซิงค์) นะครับสังกะสี มีลูทีน (Lutein) มีซีอาแซนทีน (Zeaxanthin) นะครับ พวกเนี้ยเป็นส่วนประกอบหลักที่อยู่ในนั้นนะครับ แล้วก็รู้สึกจะมีบริษัทที่ทำเรื่องเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ทางตาเนี่ย เช่น Bausch And Lomb ก็ออกมาทำอาหารเสริมตัวนี้แล้วนะครับมันเป็นวิตามินกับเกลือแร่ แร่ธาตุเนี่ยพวกที่ผมพูดไปนี้มันปนกันอยู่นะครับ แต่ท่านต้องดูให้ดีนะครับเพราะว่าตัวการศึกษาครั้งนี้เนี่ยมันมีอยู่ทั้งหมด 2 การศึกษา การศึกษาครั้งแรกคือ AREDS นะครับเวอร์ชั่นแรก แล้วก็เวอร์ชั่นที่ 2 นะครับ เวอร์ชั่นแรกเนี่ยนะฮะมันจะมีสารเบต้าแคโรทีน (Beta Carotene) อยู่ในนั้นนะครับ แต่ตอนนี้เรารู้แล้วว่าเบต้าแคโรทีน (Beta Carotene) นั้นอาจจะทำให้คนที่เป็นมะเร็งปอดหรือคนที่มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปอดมันเป็นมะเร็งปอดขึ้นมาหรือเป็นมากขึ้นได้ดังนั้นเขาจึงถอดเอาสารเบต้าแคโรทีน (Beta Carotene) ตัวนี้ออกไปจากอาหารเสริมรุ่นที่ 1 กลายมาเป็นอาหารเสริมรุ่นที่ 2 ซึ่งไม่มีเบต้าแคโรทีน (Beta Carotene)ในนั้นนะครับ ตรงนี้สำคัญท่านต้องรู้แล้วก็รู้ส่วนประกอบของมันด้วยนะครับ ผม เปิดส่วนประกอบของมันไว้ที่คอมพิวเตอร์เดี๋ยวผมจะเปิดให้ดูว่ามันมีอะไรปริมาณเท่าไหร่ถ้าท่านหาไม่ได้นะครับ ก็ในตัวอาหารเสริมตัวนี้ AREDS 2 นะครับ มันจะประกอบไปด้วยวิตามินซีอันนี้คือเขาจะให้กินเช้าเย็นนะครับ 250 mg เช้าเย็นก็คือรวมแล้วเป็น 500 mg วิตามินอี 90 mg นะครับเช้าเย็นก็คือรวมเป็น 180 mg Zinc หรือสังกะสีนะครับ 40 mg เช้าเย็นก็คือเป็น 80 mg นะครับ Copper ทองแดงก็คือ 1 mg เช้าเย็นเป็น 2 mg นะครับ Lutein มี 5 mg แต่กิน 2 ครั้งก็เป็น 10 mg แล้วก็ Zeaxanthin 1 mg นะครับคือกินเช้าเย็นก็เป็น 2 mg ทั้งหมดนี้มันรวมอยู่ในเม็ดเดียวที่เขาให้กินนะครับก็คือวันละ 2 เม็ดนั่นเอง อันนี้เป็นตัวที่มีการศึกษาแล้วพบว่ามันสามารถชะลอชนิด Dry หรือชนิดแห้งได้นะครับของการเกิดจอประสาทตาเสื่อมนะครับ แต่มันไม่ได้มีผลต่อการป้องกันอะไรนะครับมันป้องกันไม่ให้มันเป็นมากขึ้น ถ้าท่านจะกินไว้ตั้งแต่แรกอันนี้ก็ไม่เป็นอะไรนะครับโดยเฉพาะถ้าท่านที่มีปัจจัยเสี่ยงเยอะๆอย่างที่ผมบอกไปหรือว่าคนที่อาจจะอายุเยอะ 50 ปีขึ้นไปนะครับแต่อย่างไรก็ตามควรจะต้องไปตรวจตาด้วยนะครับเพื่อความแน่ใจว่าเอ๊ะ! ตาของเราเนี่ยมันไม่ได้เป็นโรคอื่นที่อาจจะต้องใช้วิธีในการรักษาที่ไม่เหมือนกันนะครับ แบบ Dry เนี่ยการรักษาก็จะเป็นประมาณนี้ก็คือให้อาหารเสริมตัวนี้นั่นแหละครับ

4️⃣ แบบ Wet หรือแบบเปียกซึ่งมันมีการเจริญผิดปกติของเส้นเลือดตรง Macular ทำให้มันมีการรั่วซึมของสารในเลือดออกมาข้างนอกทำให้จอประสาทตาตรงนั้นมันเสียไปนะครับ อันนี้เนี่ยวิธีการรักษาคือจะต้องไปทำลายเส้นเลือดพวกนั้นไม่ให้มันเติบโตเจริญไปเยอะนะครับ ซึ่งเดี๋ยวนี้วิวัฒนาการของการรักษาเนี่ยค่อนข้างที่จะดีนะครับ คือเราสามารถฉีดสารตัวนึงเข้าไปในดวงตาเราได้เพื่อที่จะให้เส้นเลือดพวกนั้นเนี่ยมันไม่เจริญเติบโตต่อนะครับ สารที่ว่านี้ก็คือเป็นสารที่ต่อต้าน VEGF หรือชื่อเต็มของมันคือ Vascular Endothelial Growth Factor นะครับ มียาตัวนี้หลากหลายตัวยกตัวอย่างเช่นยา Bevacizumab (บีวาซิซูแมบ) นะฮะจริงๆตัวนี้ผมก็มีโอกาสได้ใช้ในกรณีโรคอื่นด้วยนะครับแต่ไม่ได้ใช้ในโรคตาอย่างเดียว แต่อันนี้ก็เป็นตัวที่สามารถฉีดเข้าไปในดวงตา คือหมอตาเขาจะให้ยาชาตาเราก่อนนะครับเพราะตัวนี้มันต้องให้เข้าไปในลูกตาของเราเลยนะครับ เพราะว่ามันต้องไปถึงจอประสาทตาข้างหลังนะครับที่จะออกฤทธิ์ได้นะครับ ก็คือฉีดตัวนี้เข้าไปนะครับ มันมีอีกตั้งหลายยี่ห้อหลายตัวนะครับแต่ว่า Bevacizumab (บีวาซิซูแมบ) นี้รู้สึกจะเป็นตัวแรกๆซึ่งมีการเอามาใช้นะครับ แล้วก็อาจจะมีการใช้ร่วมกับวิธีการรักษาอื่นๆด้วยนะครับก็ยกตัวอย่างเช่น อาจจะมีการทำ Photodynamic Therapy (PDT) ก็คือมีการให้สารที่ทำให้มีการไวต่อแสงมากขึ้นแล้วเราก็ให้แสงเข้าไปเพื่อที่จะทำให้เส้นเลือดพวกนี้มันฝ่อไปนะครับ หรือจะมีการผ่าตัดด้วยเลเซอร์ต่างๆซึ่งตรงเนี้ยคนไหนจะเหมาะสมกับวิธีไหนนั้นก็คงจะต้องไปสอบถามคุณหมอตานะครับเป็นรายๆไปนะฮะ แต่ปัจจุบันนี้วิธีการรักษาหลักคิดว่านะครับถ้าทำตามอเมริกาเนี่ยก็มักจะเป็นการฉีดยากลุ่มที่เป็น Bevacizumab หรือตัวอื่นๆที่ใกล้เคียงกันเข้าไปในดวงตานะครับน่าจะเป็นการรักษาที่เป็นหลักมากกว่านะครับเพราะว่าผลข้างเคียงของมันเนี่ยจะน้อยกว่าตัวอื่นนะครับ ตัวอื่นเนี่ยถ้ามีการใช้เลเซอร์ใช้ Photodynamic Therapy หรืออะไรพวกนี้มันก็อาจจะมีปัญหาอย่างอื่นได้ยกตัวอย่างเช่น อาจจะเกิดจอประสาทตาลอกนะครับหรือที่เราเรียกว่า Retinal Detachment ได้ อาจจะเกิดต้อกระจกก่อนวัยอันควรได้ เกิดปัญหาอย่างอื่นได้นะครับซึ่งตรงนั้นก็ต้องไปดูเป็นรายๆไปเพราะว่าต่อให้มันมีผลเสียแต่บางครั้งมันเหมาะสมกับคนไข้คนนั้นมากกว่าซึ่งก็ต้องไปสอบถามคุณหมอตาที่รักษาเรื่องนี้โดยเฉพาะนะครับก็จะเป็นหมอตาที่เชี่ยวชาญจอประสาทตาโดยเฉพาะนะครับหรือ Retina Specialist ซึ่งตรงนี้เราคงต้องไปคุยกับเขา และการรักษาแบบนี้ได้ผลกับกรณีจอประสาทตาเสื่อมแบบเปียกเท่านั้นนะครับซึ่งเป็นส่วนน้อยพบแค่ 10% ของจอประสาทตาเสื่อมตามอายุทั้งหมดครับ

5️⃣ วันนี้ผมก็เลยมาเล่าให้ฟังเพียงเท่านี้นะครับโดยสรุปแล้วนะครับ Age-Related Macular Degeneration (AMD) ด้วยกัน 2 ประเภทแบบแห้งพบ 90% นะครับ แบบเปียกพบแค่ 10% แบบแห้งเนี่ยอาการจะค่อยเป็นค่อยไป โดยอาการตอนแรกเนี่ยอาจจะเห็นตรงกลางของจอภาพหรือภาพที่เราเห็นเนี่ยมันเบลอมันมัวนะครับ เส้นที่เป็นเส้นตรงมันก็อาจจะไม่ตรงแล้วนะครับ มองเห็นในที่มืดก็จะมองลำบากขึ้นนิดหน่อยนะครับ พอเป็นมากๆมันก็จะเริ่มดำเริ่มมองไม่เห็นตรงกลางนะครับซึ่งจะขัดขวางการมองเห็น การอ่านหนังสืออะไรของเราเป็นอย่างมากเพราะเราต้องมองไปตรงกลางถึงจะเห็นถูกไหมครับ แต่ถ้าเรามองตรงกลางมันไม่เห็นไม่ เห็นแต่ข้างๆอันนี้ก็เหมือนมีอะไรมาจุดอยู่ตรงกลางดำๆอย่างนี้นะครับมันก็ไม่ดีนะครับ ส่วนแบบเปียกนั้นมันก็จะเป็นแบบค่อนข้างฉับพลันกว่านะครับ แล้วก็อันตรายกว่าด้วยนะครับ มันอาจจะมีปัญหาที่เสียสายตาไปนะครับ แล้วสายตาพวกนี้อย่างที่บอกเสียแล้วเสียเลย ดังนั้นถ้าท่านมีความผิดปกติเล็กน้อยก็ควรจะต้องรีบไปตรวจนะครับ การป้องกันตัวเอง ลดน้ำหนัก ออกกำลังกายนะครับ อย่ารับประทานอาหารที่ไขมันสูงนะครับ ลดความดัน ลดเบาหวานนะครับคุมให้ดี แล้วก็ยาสูบบุหรี่โดยเด็ดขาดนะครับ แบบแห้งมักจะเจอในคนอายุ 50 ปีขึ้นไป มีอาหารเสริมที่รวมเกลือแร่อย่างที่เมื่อกี้ผมบอกนะครับ ก็คือมีวิตามินอี วิตามินซีนะครับ มีซิงค์ มีคอปเปอร์ มีลูทีน มีซีอาแซนทีนนะครับ กินเช้าเย็นนะครับ มีการศึกษาชัดเจนแล้วว่ามันได้ผลในการชะลอนะครับไม่ได้ทำให้หายนะครับ ก็สามารถกินได้นะครับ ส่วนแบบเปียกนั้นตัวนี้ไม่ได้ช่วยนะครับ แต่ท่านจะกินก็ไม่ได้เสียหายอะไรนะครับ แต่ว่าการรักษาก็คือจะต้องไปทำการฉีดยาเข้าไปหรือว่าอาจจะต้องไปยิงเลเซอร์ ยิงให้เส้นเลือดมันฝ่อไปนะครับ โอเควันนี้ก็เท่านี้นะครับ ใครมีอะไรสงสัยก็สอบถามมาได้นะครับ ขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ…

ขอบคุณมากๆค่ะขอให้เจริญๆ

@@radda2243 ด้วยความยินดีค่ะ...

อัตราส่วนของ Lutine กับ Xeaxantine มีผลอย่างมีนัยสำคัญไหมครับ

เป็นเหมือนกันเลยค่ะ แต่เป็นข้างเดียว ฉีด 5 เข็มเลือดไม่ออกแล้ว มองไม่ชัดเหมือนเดิมแล้วค่ะ

ตาบอด ดีกว่ามากครับ เพียงไม่กี่ปีเราจะปรับตัวในการใช้ชีวิตได้. ถ้าไม่มีแขนขาทั้งสองข้าง เราไปไหนไม่ได้ หยิบของต้องใช้ปาก หยิบไม่ได้ทุกอย่าง.

เป็นกำลังใจให้คุณป้านะคะ

เป็นกำลังใจให้คุณป้านะคะ

ขอเป็นกำลังใจให้คุณและคุณป้านะค่ะสายตาคุณป้าคุณอาจไม่ดีขึ้นแต่คุณก็สามารถ เป็นดวงตาให้คุณป้าคุณได้เวลาท่านมองไม่ชัดได้เราก็บอกรายละเอียดในสิ่งที่ท่านดู หรือสิ่งที่ท่านอยากรู้นะค่ะ ถ้าถามว่าตาบอดความสุขหายไปเยอะไหมมันก็มีส่วนจริงค่ะ แต่เราก็สามารถเป็นดวงตาให้กับญาติของเราได้นะค่ะ ขออนุญาตมาแสดงความคิดเห็นนะค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะครับ

ไม่มีตัวไหนช่วยครับ

อย่าลืมล้างผักดีๆนะคะ คะน้ายาเยอะมากเลยค่ะ 🥬😋🥬

@@CherryChonny แน่นอนค่ะ พี่ใช้น้ำยาล้างผักของ King's Stella Vegga เป็นประจำค่ะ แช่ไว้พักนึงก่อน แล้วล้างอีก 2-3 น้ำค่ะ

@@FragranzaTrippa ใช้เหมือนกันเลยค่ะ ยี่ห้อเดียวกันเปี๊ยบ 😃💚💚

@@CherryChonny 👍👍👍

@@FragranzaTrippaขอบคุณครับ❤❤❤❤

พวกนั้นต้องมีการใช้ยาขับเหล็กที่เกิน หรือเจาะเลือดออกครับ ส่วนมากจะไม่หาย ต้องทำเช่นนี้ตลอดชีวิตครับ

ขอชื่ออาหารเสริมได้มั๊ยคะ ที่เมืองไทยไม่แน่ใจว่ามีหรือยัง เพราะคุณหมอยังไม่เคยแนะนำค่ะ ขอบพระคุณคุณหมอมากค่ะ เหมือนเจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้ว 🙏🙏🙏🙏

@@JeerapanSiripoon-gy5pw AREDS 2. ที่หมอตาไม่ได้แนะนำ เพราะมันไม่ช่วยครับ ยังไงลองถามหมอตาดูก่อนครับ

@@JeerapanSiripoon-gy5pw ขออนุญาตนะคะ ชื่อแบรนด์ที่มีจำหน่ายในไทย คือ PreserVision ของบริษัท Bausch + Lomb แต่ก่อนใช้ต้องตรวจตาก่อนนะคะว่า เป็นจอประสาทตาเสื่อม "แบบแห้ง" หรือไม่

ขอบคุณค่ะ เชื่อคุณหมอธนีมากกว่าค่ะ

@@FragranzaTrippaขอบคุณมากค่ะ เคยถามคุณธนีและรอฟังคุณหมอเรื่องนี้มาตลอดค่ะ 🙏🙏🙏

พูดสวัสดีทุกๆครั้งหวังว่าคุณหมอคงไม่เบื่อแต่ดูคริบของคุณหมอทุกครั้งค่ะ

แบบเปียก อาหารเสริมไม่ได้ช่วยอะไรเลยครับ

แฟนคลับ ครับ

อายุเพิ่มขึ้น น้ำตาจะผลิตน้อยลง. การใส่คอนแทคเลนส์ทำให้ตาแห้งได้จริง แต่ก็แล้วแต่คนครับ ผมใส่มา 20 ปี ตาก็ไม่ได้แห้ง ไม่เคยใช้น้ำตาเทียม. อาหารเสริมที่คุณหมอพูด จะช่วยสำหรับคนที่เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมเท่านั้น สำหรับคนที่มีปัญหาตาจากสาเหตุอื่นๆ จะไม่ได้ช่วยเลยครับ.

@@surasakanakekanjanapan ขอบคุณค่ะ #บังเอิญคุณแม่เป็นทั้งโรคต้อกระจก ต้อหิน กระจกตาเสื่อม (ตอนนี้เปลี่ยนกระตา) เราก็น่าจะมีความเสี่ยงเกี่ยวกระจกตาเสื่อมค่ะ คิดว่าอาหารเสริมก็อาจจะช่วยชะลอ เพราะว่าถ้ากระจกตาเสื่อมไปแล้ว อาหารไม่ช่วยให้หายได้ค่ะ #ขอบคุณมากค่ะ

เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม อยู่หรือเปล่า ถ้าไม่ได้เป็น ก็ไม่ต้องกินครับ เพราะมันไม่ช่วยอะไรเลย.

ทางออนไลน์ค่ะ แบรนด์ชื่อ PreserVision AREDS2 ของบริษัท Bausch + Lomb ค่ะ แต่ต้องได้รับการตรวจจากหมอตาก่อนนะคะว่า เป็นจอประสาทตาเสื่อม "แบบแห้ง"

@@CherryChonny น้องลองไปฟังใหม่ครับ เรื่องลูทีน-ซีแซนทีน ผมรู้อยู่ก่อนแล้ว เมื่อมาฟังจึงเข้าใจได้ไม่ยากครับ. คุณหมอพูดว่า ถ้าจะกินก็ไม่เสียหาย.

ลองค้นตามคอมเม้นต่างๆครับ มีคนตอบแล้วครับ ปล ถ้าไม่ได้เป็นโรคนี้ กินไปจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยครับ

@@DrTany ขอบคุณค่ะ คุณหมอ เราฟังแล้วเข้าใจว่าคนอายุเยอะๆกินไว้เพื่อชะลอได้ซะอีกค่ะ คงต้องไปปรับปรุงการฟังใหม่ตามที่พี่เขาบอกละค่ะ

ถามจากหมอกระดูดที่รักษาจะตรงที่สุดครับ อย่าไปใช้อะไรที่หมอเขาไม่แนะนำครับ

อันนี้ต้องถามหมอตาเลยครับ โรคนี้ก็ลึกเกินไปสำหรับผมครับ

​@@DrTanyได้ครับ ขอบคุณครับผม