ดริลล์นี้ทำไมเปลี่ยนชีวิตได้ นักวิ่งหลายท่านที่ดูดริลนี้เปลี่ยนชีวิต มาราธอน Sub4 กันไปหลาย 10 คน 

ดริลล์มีสอนกันมานานแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะแสดงให้ดูเลยครับ ที่ทำอาจารย์เอกวิทย์คือ ถามแบบคนไม่รู้เรื่องจริงๆ ว่าต้องทำยังไง และทำแล้วได้อะไรครับ เลยทำให้หลายคนเห็นความสำคัญของดริลล์มากขึ้น

ขอให้วิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ

เพซคืออะไรครับ

เพซคือ เวลาเป็นนาทีต่อ1กิโลเมตร

ผมขอปรึกษา....ผมไม่เคยฝึกดิฟ.....วิ่งเยอะมากแต่มันหนักๆๆแถวน่อง...ตึงๆๆ...อยากให้เบาๆๆพริ้วๆๆ ทำไงดีครับ...

วันนี้มาดู คลิป ครั้งแรก....จะนำไปฝึกครับ....ล่าสุด PATTAYA 10K 1.21 เหนื่อยมากครับ...ปวดขา. ระบมไปหลายวัน....ต่อไป บางแสน 1OK ...จะฝึกใหม่ตามอาจารย์เอกวิทครับ...

ลองไปใส่ไว้ในช่วงวอรืมอัพก่อนวิ่งทุกครั้ง 10 เมตรอย่างน้อย 5 เที่ยวครับ

ทำบ่อยๆ จะต่อไปท่าอื่นๆ ง่ายครับ

ขอบคุณครับ ฝากเพื่อนๆ มาฟีดแบคประโยชน์ที่ได้รับครับ

ส่วนใหญ่ทำถูกหลักจะไม่เจ็บ และวิ่งเร็วขึ้นครับ

ขอบคุณสำหรับคลิปดีๆครับ..ทำให้คนที่แทบจะหยุดวิ่งแบบผม กลับมารู้สึกอยากกลับมาเรียนรู้ และรู้สึกอยากกลับมาวิ่งอีกครั้งครับ.... อ.เอกวิทย์..สอนโคตรดี เลยครับ ฟังแล้วเข้าใจได้ดีเลย.👍

ดีใจที่ทำให้หลายๆ คนวิ่งเร็วขึ้นครับ

ยินดีครับ

ลองไปใส่ไว้ในช่วงวอรืมอัพก่อนวิ่งทุกครั้ง 10 เมตรอย่างน้อย 5 เที่ยวครับ

หลายกีฬาถ้านำดริลล์นี้ไปอยู่ในช่วงวอร์มก่อนซ้อม ความเร็ว การเคลื่อนที่จะคล่องแคล่วครับ

ดีใจที่ทำให้หลายๆ คนวิ่งเร็วขึ้นครับ

Mini Stadium

@@istylesports99 ครับสนามโซนเอ

การฝึก running drills ในแง่ฝึก coordination หรือระบบประสาทสั่งการร่างกาย ควรฝึกในช่วงที่ร่างกายและสมองยัง fresh อยู่ ไม่ควรฝึกหลังจากล้าแล้วจากการฝึกอื่นๆ ที่หนักหรือค่อนข้างหนัก หรือหลังจากวันที่ฝึกหนัก หรือในวันหรือเวลาที่ควร recovery หลังจากวันฝึกหนัก เพื่อให้สมองและร่างกายมีความพร้อมที่จะปฏิบัติและจดจำการเคลื่อนไหวร่างกายที่ถูกต้อง และนำไปปรับใช้กับท่าวิ่งต่อไป (ต้องฝึก focus ในจุดหลักๆ อย่างถูกต้อง เคยเห็นหลายคนฝึก drills ยังปฏิบัติกันอย่างผิดๆ ไม่ได้เน้นในจุดที่ควรเน้นอย่างถูกต้อง ก็อาจจะทำให้จดจำความเคลื่อนไหวที่ผิดๆ ไปได้) ดังนั้นควรได้รับแนะนำการฝึกอย่างถูกต้องด้วย อย่างเช่นที่ อ.เอกวิทย์ ให้คำแนะนำนี้ ส่วนคนที่ฝึก drills จนร่างกายจดจำหรือเคยชินกับการเคลื่อนไหวอย่างถูกต้องนั้นๆ แล้ว ก็อาจฝึก drills โดยให้เป็นส่วนหนึ่งของการ warm up และเป็นการทบทวนไปในตัวด้วย ดังนั้นอาจจะทำได้บ่อยกว่า

ขอบคุณอาจารย์เบนช่วยตอนให้ครับ

เห็นบางคนเรียกว่าท่าเข่าต่ำ แต่มันไม่ได้อิงถึงที่มาที่ไปของท่านี้ ภาษาอังกฤษเรียกว่า ankling หรือ dribbling ในระดับข้อเท้า ผมขอแปลว่า วงรอบขา(วิ่ง)ในระดับข้อเท้า ซึ่งจุดเน้นคือ 1 dorsiflexion หรือกระดกหลังเท้าขึ้นเพื่อให้ตำแหน่งที่เท้าลงพื้นอยู่ใต้ตัวหรือใต้จุดศูนย์ถ่วงให้มากที่สุด ถ้ารีบกดปลายเท้าลงก่อนอาจทำให้ตำแหน่งเท้าตกอยู่หน้าจุดศูนย์ถ่วง ทำให้เกิดการ overstride หรือเบรคตัวเองได้ (ต้องพยายามลดการ overstride หรือการเบรคตัวเองให้มากที่สุด) 2 ไม่แช่เท้า การ dorsiflex ยังทำให้ข้อเท้าเราพร้อมดีดตัวเราขึ้นเมื่อลงน้ำหนักที่พื้นด้วย ถ้าเรากดปลายเท้าลงก่อนถึงพื้นจะทำให้ยากต่อการดีดตัวขึ้น และบางทีเราอาจต้องยอมให้ส้นเท้าทรุดตัวลงมาระดับนึงก่อนถึงพร้อมดีดต่อไป ซึ่งทำให้เสียเวลา คือเท้าอยู่บนพื้นนานเกินจำเป็น (แช่เท้า) และเสียแรงสะท้อนกลับด้วย (คล้ายลูกบอลที่มีลมอ่อน) อาจจะยกเว้นนักวิ่งที่ข้อเท้าแข็งแรงจริงๆ อาจลดปัญหาเหล่านี้ไปได้ แต่ก็อาจจะยังมีปัญหาในข้อ 1 ได้อยู่ ในการวิ่งเราก็ต้องใช้ hip flexor ในการยกต้นขาหรือแทงเข่าไปข้างหน้า แต่เนื่องจากวงรอบแค่ระดับข้อเท้าจึงไม่ต้องยกเข่าสูงมาก (ไม่ได้เน้นที่การยดเข่าให้ต่ำ) และการกดขาลง และเมื่อเท้าอยู่กับพื้นมีการออกแรงจากกล้ามเนื้อก้นเพื่อผลักเราข้างหน้า

ขอบคุณอาจารย์เบนช่วยตอบให้ครับ

ขอบคุณอาจายร์มากครับ

กำลังตัดต่อ แต่เนื้อหาออกแนว หลักคิดครับ

ไม่เหมือนครับ เราลงเท้าแบบวาดไปข้างหลัง ไม่ได้กระแทกพื้นครับ

ดริลล์ไหนก็ได้นะครับที่ลองทำด้วยตัวเองแล้ว เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นชัดเจน ว่าแต่ในกลุ่มมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนหรือยังครับ

ขอบคุณครับ ดริลล์พวกนี้เป็นดริลล์สากล ใช้กับทุกชนิดกีฬา ทำคล่องจากมีการเคลื่อนไหวคล่อง ในการเล่นกีฬาทุกประเภท